ผู้บริโภคชาวไทยเกือบครึ่ง กลัวตกเทรนด์ พร้อมเปลี่ยนใจใช้แบรนด์เครื่องสำอางใหม่ ๆ โซเชียลมีเดีย, อินฟลูเอนเซอร์ อิทธิพลหลักการตัดสินใจ พบ ‘เครื่องสำอางแบบไฮบริด’ ติดเทรนด์ เผยแบรนด์ต้องดึงดูดลูกค้าด้วยกลยุทธ์หลากหลายตามกลุ่มอายุประชากร
มินเทล ประเทศไทย เผยผลสำรวจด้านความงามและการดูแลส่วนบุคคล ฉบับล่าสุด พบผู้บริโภคชาวไทยเกือบครึ่ง (48% ของผู้ตอบแบบสอบถาม) มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปใช้แบรนด์เครื่องสำอางใหม่ ๆ ซึ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นที่แบรนด์ต่าง ๆ จะต้องปรับกลยุทธ์การดึงดูดลูกค้าให้ตรงกับกลุ่มประชากรในตลาดต่าง ๆ ที่หลากหลาย
คุณชยาภัสร์ รัชตวิภาสนันท์ (Chayapat Ratchatawipasanan) นักวิเคราะห์หลักด้านผลิตภัณฑ์ความงามและการดูแลส่วนบุคคลของ Mintel Reports Thailand กล่าวว่า
“ตลาดเครื่องสำอางแต่งสีผิวมีความผันผวนเป็นพิเศษ โดยมีการพัฒนาเทรนด์อย่างรวดเร็ว ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ด้วยเหตุนี้เอง ความภักดีต่อแบรนด์ในกลุ่มเครื่องสำอางแต่งสีผิวจึงมีจำกัด ผู้บริโภคกระตือรือร้นที่จะติดตามเทรนด์ รวมถึงเปิดรับผลิตภัณฑ์และแบรนด์ยอดนิยมที่กำลังมาแรง ซึ่งมักได้รับอิทธิพลจากโซเชียลมีเดีย”
ไม่มีอะไรที่เหมาะกับทุกคน: จำเป็นต้องกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายตามข้อมูลประชากร
แม้จะถือว่าเป็นกลุ่มคนที่เพิ่งหัดแต่งหน้า แต่กลุ่มลูกค้า ‘Gen Z’ ที่มีอายุระหว่าง 18-26 ปีก็เริ่มใช้เครื่องสำอางในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดย (21%) บอกว่าพวกเขาแต่งหน้าไปมหาวิทยาลัย
และรายงานชี้ให้เห็นว่า Gen Z ต้องการเสริมบุคลิกและเพิ่มความมั่นใจผ่านเครื่องสำอาง โดยมี 34% ต้องการให้แบรนด์ต่าง ๆ สื่อสารข้อความในเชิงบวก
ขณะที่ลูกค้ากลุ่ม ‘Gen Y’ ที่มีอายุระหว่าง 27-42 ปี กว่าหนึ่งในสาม (35%) ชอบซื้อผลิตภัณฑ์ที่กำลังติดเทรนด์บนโลกโซเชียลมีเดีย การมีส่วนร่วมของพวกเขาขยายไปไกลกว่าแค่การบริโภคคอนเทนต์ด้านความงาม
โดย 26% ผู้ตอบแบบสอบถาม มีส่วนร่วมในการรีวิวผลิตภัณฑ์ และ 23% มีส่วนร่วมในชุมชนความงามออนไลน์ จากข้อมูลของคุณชยาภัสร์ แบรนด์ต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายที่จะรักษาความภักดีของกลุ่มประชากรนี้ สามารถมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมชุมชนออนไลน์ และสนับสนุนเหล่าอินฟลูเอนเซอร์
ส่วนลูกค้ากลุ่ม ‘Gen X’ ที่มีอายุระหว่าง 43-58 ปี กว่าสองในสาม (67%) ยังคงเพลิดเพลินกับการบริโภคคอนเทนต์ด้านความงาม (เช่น วิดีโอหรือคลิปสั้น) แต่ความสนใจในการแต่งหน้าลดลง
โดย 28% บอกว่าพวกเขามีความมั่นใจในตัวเองขณะอยู่นอกบ้านแม้ไม่ได้แต่งหน้า ยิ่งไปกว่านั้น เกือบครึ่ง (48%) ให้ความสำคัญกับเครื่องสำอางแต่งสีผิวที่มีคุณสมบัติในการดูแลผิว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงแบรนด์ต่าง ๆ ให้ปรับตัวสอดคล้องกับความต้องการของประชากรกลุ่มนี้ ที่ต้องการผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่มีนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหาผิว และข้อความเชิงบวกเกี่ยวกับการชะลอวัย
เครื่องสำอางแบบไฮบริดยังคงติดเทรนด์
หลังจากการระบาดใหญ่ กลุ่มเครื่องสำอางแต่งสีผิวได้หันมาเน้นผลิตภัณฑ์แบบไฮบริด เพื่อช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคกลับมาแต่งหน้าอีกครั้ง ข้อมูลจากระบบ Mintel Global New Products Database (GNPD) เปิดเผยว่าการเปิดตัวเครื่องสำอางแต่งสีผิวที่มีการกล่าวถึง ‘การดูแลผิว’ บนเวทีโลกเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 26% ระหว่างเดือน ต.ค. 2018 – ก.ย. 2023
นอกจากนั้น คุณชยาภัสร์ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ความปรารถนาที่จะมีผิวที่ดูสุขภาพดีควบคู่ไปกับเทรนด์ผิวสวยดูเป็นธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยม จะยังคงผลักดันความต้องการผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติในการดูแลผิวให้เพิ่มสูงขึ้น”
“ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ช่วยมอบลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งเหมาะสำหรับการแต่งหน้าในชีวิตประจำวัน ช่วยดึงดูดกลุ่ม Gen Z ไปพร้อมกับตอบสนองความต้องการด้านการดูแลผิวของลูกค้าที่สูงวัย”
ข้อมูลของ Mintel GNPD พบว่าในช่วงเดือน ต.ค. 2022 – ก.ย. 2023 รองพื้น (42%) เครื่องสำอางสำหรับทาริมฝีปาก (20%) และ คอนซีลเลอร์ (15%) กลายเป็นหมวดหมู่ยอดนิยมสำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีการกล่าวอ้างว่ามีคุณสมบัติในการดูแลผิว
“ขณะที่งบประมาณมีจำกัดมากขึ้น เทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาของลูกค้าที่อยากจะใช้เงินลงทุนด้านความงามอย่างคุ้มค่า พร้อมเพลิดเพลินไปกับคุณประโยชน์เพิ่มเติมด้านการดูแลผิว” คุณชยาภัสร์กล่าว
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ