Trend/หนึ่งในคอนเทนต์ที่ไม่เคยห่างหายไปและถูกนำมาทำใหม่นับครั้งไม่ถ้วน ทั้งในวงการภาพยนตร์และซีรีส์ คือ คอนเทนต์ย้อนยุุค
แต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะประสบความสำเร็จ สามารถสร้างปรากฏการณ์ได้ และโดดเด่นเหนือคอนเทนต์ย้อนยุคเรื่องอื่น ๆ
นี่จึงทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเรื่องไหนจะปังขึ้นมา และทั้งทีมผู้สร้างแพลตฟอร์ม รวมไปถึงคนในอุตสาหกรรมคอนเทนต์ต้องลุ้นกันหนักว่าเรื่องที่ตนสร้างนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่
ทว่าช่วง 4 ปีมานี้ Bridgerton สามารถทลายกำแพงเหล่านี้ลงได้
ยุครีเจนซี่
ทั้งที่ย้อนไปไกลถึงอังกฤษช่วงปี 1811-1820 ที่เรียกกันว่ายุครีเจนซี่ แต่ซีรีส์ Netflix ที่เล่าถึงเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ของชนชั้นสูงของอังกฤษ เรื่องนี้กลับประสบความสำเร็จอย่างมาก
และยังสามารถครองใจคนรุ่นใหม่กลุ่ม Gen Z ได้ จนมีให้ชมแล้ว 3 ซีซั่นกับอีกหนึ่งภาคแยก (Spin-off) พร้อมช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอังกฤษ
ผ่านการสร้างงาน ปลุกกระแสแฟชั่น และจุดประกายให้เกิดสินค้าต่าง ๆ รวมไปถึงการท่องเที่ยวตามรอยซีรีส์ คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงถึง 350 ล้านดอลลาร์ (ราว 12,800 ล้านบาท) อีกด้วย
ย้อนยุคแต่ดูสนุกร่วมสมัย: ปัจจัยแรกที่ส่งให้ซีรีส์ย้อนยุุคเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ คือมีความร่วมสมัยอย่างมาก
เช่น เรื่องการหาคู่ ที่ไม่ว่าจะยุคไหนก็ต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องภูมิหลังครอบครัว สีผิว และเชื้อชาติ การซุบซิบนินทาที่มีอยู่ทุกยุคสมัยเช่นกัน
และที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลย คือ การโอบรับความหลากหลาย ซึ่งเห็นชัดมาก จากทัพนักแสดงหลายเชื้อชาติ สีผิว ภูมิหลัง และรูปร่าง ทั้งคนผิวดำ ชาวเอเชียใต้ และสาวรูปร่างท้วม ที่สอดคล้องกับยุคปัจจุบันซึ่งเน้นเรื่องความหลากหลาย
ได้มือดีคุมงานสร้าง: ปัจจัยต่อมาที่พาให้ Bridgerton ประสบความสำเร็จคือ ได้บริษัท Shondaland ของ Shonda Rhimes ซึ่งถือเป็นเบอร์ใหญ่ในวงการคอนเทนต์สหรัฐฯ มาคุมงานสร้าง
Shonda Rhimes
Shonda Rhimes ปั้นให้ Grey Anatomy เป็นซีรีส์ดราม่าทางการแพทย์ยอดนิยม และคว้ารางวัลมามากมาย โดยการที่ Netflix คว้าตัวเธอมาสร้าง Bridgerton เมื่อปี 2017 จึงเป็นข่าวใหญ่
เพราะถูกจับตามองว่าจะปังได้เหมือนผลงานที่ผ่าน ๆ มาหรือไม่และที่สุดความสำเร็จของ Bridgerton ก็ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ ยืนยันว่าเธอคือ Producer มือทอง
สถานการณ์โลกเข้าข้าง: ปัจจัยต่อมาที่ส่งให้ Bridgerton ประสบความสำเร็จคือ สถานการณ์โลกเข้าข้าง เพราะซีรีส์เรื่องนี้ประเดิมซีซั่นแรกในปี 2020 ซึ่งคนทั่วโลกที่ถูกล็อกดาวน์ต้องการคอนเทนต์ดูฆ่าเวลา
ยิ่งเป็นคอนเทนต์ย้อนยุคไปไกลจึงเพิ่มความท้าทาย แต่ Bridgerton ก็จัดการโจทย์ยากเหล่านี้ทั้งหมด ผ่านความสำเร็จที่ปรากฏออกมาให้เห็น และยังสร้างต่อเนื่องมาถึง 3 ซีซั่นกับอีกหนึ่งภาคแยก
เพลินตาตลอดทาง: ปัจจัยสุดท้ายที่ส่งให้ Bridgerton ปังทั่วโลก คือเครื่องแต่งกายของบรรดาตัวแสดงในเรื่องที่นอกจากสวยตระการ มากมาย และเปี่ยมสีสันแล้ว ยังหลากหลายสอดคล้องกับนักแสดงที่มีหลายเชื้อชาติอีกด้วย
มีรายงานว่าเฉพาะซีซั่นแรกดีไซเนอร์ก็ต้องใช้งบมากถึง 80,000 ดอลลาร์ (ราว 3 ล้านบาท) ในการออกแบบและตัดเย็บชุดออกมามากถึง 1,800 ชุด และซีซั่นต่อๆ มางบส่วนนี้ก็เพิ่มขึ้น ๆ
แต่ก็คุ้มเพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่พาให้ซีรีส์ประสบความสำเร็จลำดับต้น ๆ ของ Netflix/theguardain, bbc
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ