Work/ความท้าทายใหญ่ของทุกบริษัทในยุคนี้ คือบริหารจัดการอย่างไรให้พนักงานถึง 4 รุ่น คือ Babybooom, Gen X, Gen Y และ Gen Z ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

นี่ทำให้วิธีบริหารและปฏิบัติกับพนักงานรุ่นต่าง ๆ จำเป็นอย่างมากต่อความก้าวหน้าของบริษัท ซึ่งในบรรดาพนักงานทั้ง 4 กลุ่ม Gen Z ถูกพูดถึงมากสุด เพราะมีลักษณะนิสัย และพฤติกรรมต่างจากรุ่นพี่ ๆ มากสุด

เช่น Gen Z รักสุขภาพ และระวังภาพต่าง ๆ ที่จะไปปรากฏบนสื่อออนไลน์ จึงไม่ชอบสังสรรค์หลังเลิกงาน หรือถ้าจำเป็นต้องสังสรรค์ก็ขอไม่ดื่มแอลกอฮอล์

พฤติกรรมอีกอย่างที่ Gen Z ต่างจากรุ่นพี่ ๆ ในบริษัทคือ กระหายอยากรู้ว่าตนทำงานเป็นอย่างไรจนถึงขั้นถ้าบริษัทขาดเรื่องนี้ก็พร้อมลาออกเลยทีเดียว

ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างพนักงาน Gen Z สหรัฐฯ เมื่อไม่นานมานี้ เผยว่า Gen Z ไม่พอใจ ถ้าหัวหน้าหรือบริษัทไม่แจ้งผลประเมินประสิทธิภาพในการทำงาน (KPI) เป็นประจำ โดยพวกเขามองว่านี่คือองค์กรที่การสื่อสารล้มเหลว

และหากเจอกับสถานการณ์นี้เข้า กลุ่มตัวอย่าง Gen Z มากถึง 73% ก็พร้อมลาออก นี่จึงทำให้ Gen Z ถูกมองว่าเอาใจยากและการสื่อสารโดยเฉพาะเรื่องการประเมินผลงานกับพวกเขาสำคัญอย่างมาก

 

เก่าไปใหม่มา: เคล็ดลับข้อแรกในการสื่อสารเรื่อง KPI ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และลดการลาออกของ Gen Z ต้องเริ่มจากการปรับทัศนะของตัวผู้บริหารเองเสียก่อน โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้บริหารกลุ่ม Babyboom และ Gen X

ความห่างของอายุของ Babyboom และ Gen X กับ Gen Z ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างวัยเกิดขึ้น โดยแม้กลุ่มหลังอยากรู้ว่าตนทำงานเป็นอย่างไร

แต่พวกเขาก็อ่อนไหวต่อคำวิจารณ์และเห็นว่าสุขภาพจิตสำคัญ ดังนั้น จึงต้องประเมินผลงานพวกเขาอย่างระมัดระวัง และจำไว้เสมอว่า พูดตรงได้แต่อย่าแรง  

ชูโปร่งใสเป็นธงนำ: เคล็ดลับข้อต่อมาในการสื่อสารเรื่อง KPI กับ Gen Z คือต้องเน้นความโปร่งใส เพราะนี่คือคนรุ่นที่คล่องแคล่วในการหาข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์  ชื่นชมองค์กรที่ผลักดันและให้โอกาสพนักงาน

ดังนั้น หากผิดไปจากนี้ Gen Z จะมองว่าไม่โปร่งใส ขัดกับความต้องการ และจะตัดสินใจลาออกทันทีโดยไม่ลังเลหรือเสียดาย

ปลูกฝังความเชื่อใจ: เคล็ดลับอีกข้อในการสื่อสารเรื่อง KPI กับ Gen Z คือต้องทำให้พวกเขาเชื่อใจ โดยฝั่งหัวหน้าควรชี้เห็นถึงข้อดี-ข้อด้อยในการทำงานของ Gen Z แต่ละคน อย่างเป็นเหตุเป็นผลพร้อมตัวอย่างเสมอ

ขณะเดียวกันก็ต้องเปิดโอกาสให้ Gen Z ได้แสดงความคิดเห็นด้วย เพราะ Gen Z ชอบแสดงความคิดเห็น อยากเห็นว่าสิ่งที่ตนทำลงไป สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อส่วนรวมได้มากแค่ไหน

Greta Thunberg 

ดังจะเห็นได้จาก Greta Thunberg วัยรุ่นสาวชาวสวีเดนที่ปลุกให้โลกหันมาใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นต้นแบบนั่นเอง

ชี้ให้เห็นอนาคต: เคล็ดลับข้อสุดท้ายในการสื่อสารเรื่อง KPI กับ Gen Z คือ ชี้ให้เห็นถึงเส้นทางการทำงานต่อไปของพวกเขา ต้องพัฒนาทักษะอะไรเพิ่มเติม และแก้ไขข้อบกพร่องจุดไหน

การชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าเช่นนี้ จะช่วยให้ Gen Z สามารถวางแผนอนาคตได้ และรั้งตัวพวกเขาให้อยู่กับองค์กรได้ต่อไปในระยะยาว เพราะโดยเฉลี่ยแล้ว Gen Z จะทำงานกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งเพียง 3 ปีเท่านั้น/fastcompany, resources, cnbc


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer