Trend/สิ่งหนึ่งเกี่ยวกับญี่ปุ่นที่ปรากฏชัดและสัมผัสได้ในสายตาชาวโลกช่วงไม่กี่ปีมานี้ คือขาลงแทบทุกวงการ ซ้ำร้ายยังมีข้อมูลบ่งชี้ถึงการตามหลังเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกด้วยกันทางเทคโนโลยี

แต่กับอุตสาหกรรมบันเทิงญี่ปุ่นต้องบอกว่ายังไปได้ เป็นความหวังมีจุดแข็ง และฐานแฟนอยู่พอสมควร

ยืนยันได้จากการ์ตูนที่ยังทำเงินเข้าประเทศได้ต่อเนื่องจนมีข้อมูลว่าตัวเลขส่งออกการ์ตูนกลุ่มอนิเมะ กำลังจะเท่าตัวเลขส่งออกชิปและเหล็กแล้ว

ล่าสุดพบข้อมูลน่าสนใจอุตสาหกรรมบันเทิงอีกสาขาของญี่ปุ่น นั่นคือเพลง J-pop ซึ่งข้ามไปฮิตในเกาหลีใต้จนครึ่งหลังปี 2024 มีการจัดคอนเสิร์ตของศิลปินหลายเบอร์

เรื่องนี้น่าสนใจ เพราะเป็นทั้งการเจาะตลาดบ้านเกิดเพลง K-pop และเป็นที่รู้กันว่านี่คือประเทศที่เคยปิดกั้นวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างมากจากเหตุผลด้านประวัติศาสตร์อีกด้วย 

สื่อเกาหลีใต้รายงานไปในทิศทางเดียวกันถึงปรากฏการณ์ที่นักร้องและวงดนตรีญี่ปุ่น ราว 20 เบอร์ ประกาศมาจัดคอนเสิร์ต

ซึ่งในจำนวนนี้มีที่ดัง ๆ อย่าง Yoasobi, Atarashii Gakko, Fuji Kaze และ Hige Dandism หรือแม้กระทั่งวงที่ยังพอเป็นที่รู้จักอยู่อย่าง AKB 48 รวมอยู่ด้วย

โดยจุดที่ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจ ไม่ใช่แค่จำนวนคอนเสิร์ตและศิลปินเท่านั้น เพราะบางโชว์เป็นการแสดงในเทศกาลดนตรีญี่ปุ่นในสถานที่จัดจุผู้ชมได้เรือนหมื่น

ส่วนบางโชว์บัตรก็เป็นที่ต้องการอย่างมาก จนบัตรขายหมดเป็นที่เรียบร้อย 

ปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากชาวเกาหลีใต้หันมาฟังเพลง J-pop กันมากขึ้นและได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลเลิกปิดกั้นสื่อบันเทิงญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2004

ประกอบกับเพลง J-pop ก็มักปรากฏอยู่ในอนิเมะอยู่แล้ว เช่นในกรณีของ Yoasobi, และ Hige Dandism

รายงานบริษัทจัดอันดับชาร์ตเพลงในเกาหลีใต้เผยว่า ปี 2024 ยอดฟังเพลง J-pop แบบสตรีมมิ่งเพิ่มขึ้นถึง 93% จากปี 2023

และครองสัดส่วนการฟังผ่านช่องทางดังกล่าวเพิ่มเป็น 1.2% แม้น้อยมากแต่ก็มีนัยสำคัญ เพราะแซงเพลงประเภทอื่น ๆ อย่าง Jazz และ Classics แล้ว

นอกจากนี้ ยังเพิ่มขึ้นจากปี 2018 ซึ่งครองสัดส่วนการฟังผ่านสตรีมมิ่งเพียง 0.4% อีกด้วย 

สื่อเกาหลีใต้รายงานต่อว่า การเข้าถึงเพลงญี่ปุ่นได้ในทุก ๆ ช่องทางของชาวเกาหลีใต้ ไล่ตั้งสตรีมมิ่ง ต่อเนื่องสู่ Youtube และโทรทัศน์

รวมถึงการมองข้ามเรื่องเลวร้ายทางประวัติศาสตร์สมัยเกาหลีใต้ (เมื่อครั้งยังไม่แยกออกจากเกาหลีเหนือ) ถูกผนวกเข้าเป็นดินแดนของญี่ปุ่น

และเน้นที่การฟังเพลงมากกว่า ก็ทำให้ชาวเกาหลีใต้รุ่นใหม่ ณ ปัจจุบัน ฟังเพลง J-pop ได้แบบไร้อคติ

ขณะที่นักร้องญี่ปุ่นบางคน อย่าง Ai Tomioka ก็เปิดตัวในเกาหลีใต้ก่อนบ้านเกิดจนมีฐานแฟนอยู่พอสมควรอีกด้วย

ด้านศิลปิน J-pop เอง และผู้จัดในเกาหลีใต้ก็เห็นว่า การจัดคอนเสิร์ต J-pop ที่มีวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน เป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน และเดินทางไปไม่ไกลนั้น สามารถจะคุ้มทุน

และทำกำไรได้มากกว่าศิลปินนักร้องหรือวงจากประเทศตะวันตกอีกด้วย

สถานการณ์ทั้งหมดทำให้มีแนวโน้มว่า ในอนาคตนักร้องและวงจากญี่ปุ่นคงจะหันมาเจาะตลาดและเปิดคอนเสิร์ตในเกาหลีใต้มากขึ้น

ซึ่งในทางกลับกันนักร้องและวงจากเกาหลีใต้ก็คงไปเปิดคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นมากขึ้นด้วย ถือเป็นการแลกเปลี่ยนกัน ย้ำความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศ

เหมือนที่ NewJeans วงเกิร์ลกรุ๊ปเบอร์ต้น ๆ วงการเพลง K-pop ยุคนี้เพิ่งไปจัดคอนเสิร์ตใน โตเกียว โดม

สถานที่จัดคอนเสิร์ตขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นมาถึง 2 รอบเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งจำนวนผู้ชมรวมกันมากถึง 90,000 คน

ขาขึ้นของเพลง J-pop ในเกาหลีใต้ ยังย้ำถึงความชื่นชอบสื่อบันเทิงญี่ปุ่นในเกาหลีใต้ที่กำลังเพิ่มขึ้น ต่อเนื่องจากเมื่อปี 2023 ที่ Slamdunk มังงะเรื่องดังยุค 90 กลับมาขายดีในเกาหลีใต้ตามกระแสหนังภาคใหม่

และการที่ Even if This Love May Disappear เป็นหนังญี่ปุ่นเรื่องแรกในรอบกว่า 22 ปีที่ขายตั๋วในเกาหลีใต้ได้มากเกิน 1 ล้านใบ/koreatimes, chosun


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer