คนไทยเรียกได้ว่าความเป็นสายมูอยู่ในสายเลือด แม้ว่าในปัจจุบันจะเป็นยุคของเทคโนโลยีและดิจิทัล แต่ความเชื่อเกี่ยวกับการมูเตลูยังคงมีอิทธิพล เป็นที่พึ่งได้รับความนิยมอยู่เสมอ พบคนไทยในปีนี้สนใจกว่า 3,917 ล้านเอนเกจเมนต์ เผยคน Gen Z สนใจมูเตลูมากที่สุดและทำให้เกิดเป็น มูเก็ตติ้ง (Muketing) ที่นำความเชื่อมาปรับใช้กับการตลาดในแบรนด์ชั้นนำ
แสนรู้ (Zanroo) ผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลดาต้า เปิดเผยข้อมูลการวิเคราะห์เสียงในโซเชียลมีเดียจาก Social Listening tools เกี่ยวกับ มูเตลู ในช่วงปีนี้ วันที่ 1 ม.ค.-16 ก.ย. 2567 พบความสนใจ 3,917 ล้านเอนเกจเมนต์
จาก Tiktok จำนวน 4,499,934,898 เอนเกจเมนต์ คิดเป็น 94.5%
Youtube จำนวน 218,400,707 คิดเป็น 4.6%
Facebook จำนวน 19,233,319 เอนเกจเมนต์ คิดเป็น 0.4%
X (Twitter) จำนวน 14,130,965 เอนเกจเมนต์ คิดเป็น 0.3%
Instagram จำนวน 9,541,644 เอนเกจเมนต์ คิดเป็น 0.2%
ในแง่ความรู้สึก (Sentiment) เกี่ยวกับ มูเตลู เสียงเชิงบวกของการกล่าวถึงเกี่ยวกับมูเตลูคิดเป็น 190 ล้านเอนเกจเมนต์ จากความคิดเห็นทั้งหมด พบว่าส่วนใหญ่กล่าวว่าการมูเตลูทำให้ผลลัพธ์ต่าง ๆ ดีขึ้น หรือ ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง โดยเฉพาะด้านโชคลาภและการเสี่ยงโชค นอกจากนี้ บางส่วนที่ยังไม่บรรลุความคาดหมาย ก็ถือว่าการมูเตลูนั้นเป็นเหมือนสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่ทำให้เกิดความสบายใจมากขึ้น หรือมีแรงจูงใจในการทำสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น เป็นต้น
ในทางกลับกัน ความเชื่อเหล่านี้ก็เป็นเหมือนดาบสองคม ที่เป็นช่องโหว่ให้มิจฉาชีพนำไปใช้ในการหลอกลวงผู้บริโภค เช่น แอบอ้างเป็นร่างทรงผู้วิเศษที่มีความสามารถในการหยั่งรู้ต่าง ๆ หรือแอบอ้างเป็นบัญชีสายบุญ เพื่อหลอกให้โอนเงินทำบุญ เป็นต้น โดยจากข้อมูลพบว่าผลตอบรับเชิงลบคิดเป็นสัดส่วนเพียง 4.8 ล้านเอนเกจเมนต์
พฤติกรรมมูเตลู หากเจาะลึกไปในแต่ละ Generation พบว่า Gen Z (อายุ 12-27 ปี) เป็นวัยที่ให้ความสนใจ มูเตลู มากที่สุด ถึง 50% หรือ 2,380 ล้านเอนเกจเมนต์ ส่วนใหญ่เป็นความสนใจเรื่อง องค์เทพ วอลเปเปอร์มงคล สีมงคล รวมไปถึงการแต่งหน้าตามสีมงคล และมุ่งเน้นการขอพรในเรื่องความรัก ขอให้สมหวังเรื่องความรัก เจอเนื้อคู่ และบางส่วนขอให้มีเสน่ห์เป็นที่รัก
ถัดมาเป็น Gen Y (อายุ 28-43 ปี) มีความสนใจ 26% หรือ 1,236 ล้านเอนเกจเมนต์ เป็นการให้ความสนใจในการมูเตลูกับองค์เทพและพระหรือวัด ไปกราบไหว้เพื่อขอพรตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ รวมไปถึงการบูชาเครื่องราง โดยพบว่า Gen Y ส่วนใหญ่เป็นการ มู เพื่อให้ประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องงานและการดำเนินชีวิต เช่น เรื่องครอบครัว ลูก และคนรอบตัว
และ Gen X (อายุ 44-59 ปี) มีความสนใจ 12% หรือ 502 ล้านเอนเกจเมนต์ มักมีความสนใจ การมูเตลู พระหรือวัดและฮวงจุ้ย การไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และความสนใจเรื่องทำเลที่อยู่อาศัย และคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีการมูเตลูเพื่อโชคลาภ คาดหวังการถูกลอตเตอรี่ และรวมไปถึงการขอพรให้หายจากโรคหรือมีสุขภาพที่แข็งแรง เป็นต้น
โดย “มูเก็ตติ้ง” ได้ขยับมาเป็นกระแสหลักในไทยที่แบรนด์ชั้นนำจากกลุ่มธุรกิจใหญ่อย่างธนาคารยังเลือกใช้กลยุทธ์นี้ โดยนำมาปรับใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถสร้างความสนใจให้กับผู้บริโภคได้ โดยผสมผสานระหว่างความเชื่อเข้ากับผลิตภัณฑ์ เช่น
- ธนาคารกสิกรไทย ได้นำเสนอบัตรเดบิตลายองค์เทพ และยังมีการออกวอลเปเปอร์ และใบสลิปโอนเงินเป็นลายองค์เทพ ซึ่งเป็นการใช้ลวดลายขององค์เทพที่เป็นเคารพนับถือ เช่น พระพิฆเนศ, ท้าวเวสสุวรรณ และพระแม่ลักษมี โดยรับความสนใจกว่า 7 ล้านเอนเกจเมนต์
- ธนาคารกรุงไทย ได้มีการออกบัตรเดบิตสายมู โดยเป็นการออกลายบัตรที่มีลายอัตลักษณ์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาทิ ท้าวเวสสุวรรณ, ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ และพญานาค เป็นต้น เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล โดยรับความสนใจกว่า 3 ล้านเอนเกจเมนต์
- ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีการ ออกโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าใหม่บัญชีออมทรัพย์ดิจิทัล หรือลูกค้าใหม่สินเชื่อส่วนบุคคล Happy Cash รับบัตรแรบบิท Success Infinite Prestige Collection “4 มหาเทพ” พระพิฆเนศ, พระพรหม, พระแม่ลักษมี, เจ้าแม่กวนอิม โดยรับความสนใจกว่า 3 แสนเอนเกจเมนต์
กระแส “มูเตลู” ที่กำลังมาแรงในปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อและความหวังของผู้คนในการแสวงหาสิ่งที่ดีกว่าในชีวิต และการมูเตลูก็เป็นหนึ่งในวิธีการที่ผู้คนเลือกใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น และกลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่น่าสนใจ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความเชื่อเรื่องมูเตลูในสังคมไทยปัจจุบัน และการปรับตัวของภาคธุรกิจเพื่อตอบสนองต่อความเชื่อนี้ ♦
–

