อิชิตัน โชคร้ายหรือดี บางทีก็อยู่ที่มุมมอง จากวิกฤตสู่แบรนด์ชาเขียวอันดับหนึ่ง 5 ปีซ้อน (วิเคราะห์)
ในตลาดเครื่องดื่มที่มีการแข่งขันสูง มีแบรนด์หนึ่งที่ไม่เคยหลุดจากโฟกัสของคนไทยนั่นคือ “อิชิตัน” ที่นำโดยความเป็น “นักสู้” และ “ไม่เคยยอมแพ้” ของ ตัน ภาสกรนที สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมแบรนด์ DNA ของอิชิตันที่ฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย แต่ยังก้าวขึ้นมาแข็งแกร่งกว่าเดิม ล่าสุดคว้ารางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand ติดต่อกันถึง 5 ปี
ตัวเลขบ่งบอกถึงความสำเร็จได้เป็นอย่างดี ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สามารถทำยอดขายสูงถึง 8,050 ล้านบาท และกำไร 1,100 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 13 ปี ความสำเร็จอันน่าอิจฉานี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ได้เป็นอย่างด
“ในช่วงวิกฤตที่หลายคนท้อแท้ ถอดใจบอกไม่เอาดีกว่า แต่ผมจะใช้โอกาสช่วงนี้ทำงานเต็มที่ ขยันกว่าเดิม ผมมั่นใจว่าความเป็นนักสู้ของคนอิชิตันคือเบื้องหลังของการได้รับรางวัลนี้

อิชิตันได้รับรางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand แบรนด์ชาพร้อมดื่มอันดับหนึ่งในใจคนไทยเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บอกว่ารางวัลที่ได้คือกำลังใจสำคัญของเขาและทีมงานในการที่จะพัฒนาสินค้าคุณภาพและมอบประสบการณ์ที่ดีสำหรับลูกค้าต่อไป และทำให้เขามั่นใจที่จะตั้งเป้าหมายทำยอดขายทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ในปี 2568 ด้วย
ต้องยอมรับว่า Key Success อย่างหนึ่งของบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คือความเป็นนักสู้และความมุ่งมั่นของตันที่ถูกส่งต่อและกลายเป็น DNA สำคัญของพนักงานทำให้ทุกคนมีพลังในการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าด้วยกัน ตลอดเส้นทาง 13 ปีของการสร้างอาณาจักรอิชิตัน กรุ๊ป ตันเจออุปสรรคมากมายหลายครั้ง ตั้งแต่น้ำท่วมโรงงานจนสายการผลิตเสียหายเกือบทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่เปิดบริษัทได้เพียงปีเดียว
ปี 2561 กำไรดิ่งลงเหลือเพียง 43 ล้านบาท จากกำไรกว่าพันล้านเมื่อปี 2557 เพราะปัญหาเรื่องภาษีน้ำตาล
รวมทั้งยังต้องเจอกับเรื่องสงครามราคา ตลาดชาพร้อมดื่มเริ่มตกต่ำ วิกฤตโควิด-19 จนปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว แต่เขาก็สามารถฟันฝ่าวิกฤตมาได้ทุกครั้ง และยังคงสามารถนำพาองค์กรยืนหยัดได้อย่างแข็งแรง
“ผมเชื่อว่าพระอาทิตย์ขึ้นแล้วก็ลง ลงแล้วก็ขึ้น ช่วงนี้คือช่วงขึ้น อีกไม่นานก็อาจจะลงอีก ในตอนที่ลงถ้าเราท้อแท้ อ่อนแอ หมดแรง ไม่มีเงิน แล้วคิดวน ๆ อยู่แค่นี้ว่ามีปัญหา หมดแรงไม่มีเงินก็ไม่ต้องไปไหน ให้คิดใหม่ว่าโอกาสมันยังมีแล้วก็สู้ต่ออย่าท้อแท้”
เวลาเกิดวิกฤตเศรษฐกิจอย่าลืมว่าเป็นช่วงที่คู่แข่งน้อยกว่าช่วงที่เศรษฐกิจดี ๆ เพราะมีคนหายไปส่วนหนึ่ง และอีกหลายคนยังไม่กล้าลงทุน กลายเป็นโอกาสของเราถ้าเราเข้มแข็งแล้วทำงานให้หนักขึ้น
“อิชิตันมักจะได้ดีตอนวิกฤตเกือบทุกครั้ง เพราะเรามีความเชื่อว่าเราจะต้องสู้ ต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นเพื่อพลิกวิกฤตเป็นโอกาส”
ในความเป็นนักสู้ ตันจะเชื่อว่าในวิกฤตยังมีโอกาสเสมอ แต่เครื่องมือตัวหนึ่งที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้นคือ ต้องให้ความสำคัญในเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพราะถ้าสู้โดยไม่มีเครื่องมือไม่มีนวัตกรรมโอกาสก็ไม่เกิดหรือเกิดได้ยากเช่นกัน
เขาบอกว่าในชีวิตการทำงานการตัดสินใจที่ภูมิใจมากที่สุด คือ การไปสร้างโรงงานผลิตที่จังหวัดอยุธยาให้เป็นโรงงานสีเขียว แล้วลงทุนในเรื่องเครื่องจักรที่เป็นไฮเทคโนโลยีอย่างเต็มที่
โดยในปี 2567 นี้ตั้งเป้ายอดขาย 9,000 ล้านบาท และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อทำเป้ายอดขายให้ถึง 10,000 ล้านบาทในปีหน้า โดยยังไม่ต้องสร้างโรงงานเพิ่ม ที่สำคัญโรงงานที่ทันสมัยทำให้อิชิตันผลิต Product ที่มีคุณภาพ มีศักยภาพในการแข่งขันด้วย

นอกจากนั้น ความสำเร็จของอิชิตัน ยังมาจากการให้ความสำคัญในการฟังลูกค้า เข้าใจความต้องการ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง ทำให้โปรดักต์ที่ออกมาโดนใจลูกค้า มีคอนเซ็ปต์ที่แข็งแรง
รวมถึงคุณภาพที่มั่นใจได้ที่สำคัญทุกขวดที่ส่งถึงลูกค้า ผลิตด้วยเทคโนโลยี Cold Aseptic ที่ช่วยรักษารสชาติ คุณค่าของสินค้า และลดการใช้พลาสติกรวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ (Brand Experience)
ไม่ว่าจะเป็นการ Collab กับแบรนด์ที่คาดไม่ถึง เช่นล่าสุด อิชิตันได้จับมือ “Mackcha” ศิลปินรุ่นใหม่ผู้มีอุดมการณ์เดียวกัน เปิดตัวอิชิตัน กรีนที 500 มล. บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลได้ 100% ทั้งขวด ฝา ฉลาก
พร้อมเจาะกลุ่มเป้าหมาย Gen Z ผ่านการออกแบบฉลากคอลเลกชั่นพิเศษ “Chalotte เด็กหญิงจากท้องทะเล” ร่วมตอกย้ำการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านคอนเซ็ปต์ ReLife The Plastic, ReLife The Ocean เพื่อสร้างการตระหนักรู้ถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค
สร้างแบรนด์ให้ “คนรัก” และต้อง “รักโลก”
ด้วยการผลิตอย่างรับผิดชอบ เพื่อการบริโภคอย่างยั่งยืน
ตันยังเป็นผู้นำที่ให้ความสำคัญในเรื่อง Sustainability โดยกำหนดโรดแมปการดำเนินธุรกิจควบคู่ความยั่งยืน และวางเป้าหมายผลักดันองค์กรสู่การเป็นกลางทางคาร์บอนหรือ Carbon Neutrality ภายในปี 2593
มุ่งใช้บรรจุภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ใช่เพิ่งมาทำตามกระแส แต่ทำมานานแล้ว เพราะโรงงาน อิชิตัน กรีน แฟคทอรี ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2555 นั้นก็เป็นโรงงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เขาย้ำว่า
“การช่วยเหลือสังคม ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้คนเห็นเรา คือ ลูกค้าสามารถรับรู้ได้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ให้กับสังคมและโลกบ้าง”
สุดท้ายตันบอกว่า รางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand ที่ได้คือกำลังใจสำคัญของเขาและทีมงานในการที่จะพัฒนาสินค้าคุณภาพและมอบประสบการณ์ที่ดีสำหรับลูกค้าต่อไป
–
Website: Marketeeronline.co/Facebook: www.facebook.com/
