MI Group วิเคราะห์ภูมิทัศน์สื่อรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุค ‘มหาสื่อครองเมือง’ สู่ ‘AI กำหนดเกม’ มุ่งทรานส์ฟอร์มรับการเปลี่ยนแปลงการเสพสื่อของผู้บริโภค จาก ‘เอเจนซีตัวกลาง’ สู่ ‘ผู้ประกอบร่างโซลูชั่นสำหรับธุรกิจ’ นำเสนอผ่าน 7 โซลูชั่น

MI Group วิเคราะห์ภูมิทัศน์สื่อและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ณ งานฉลองครบรอบ 25 ปี การดำเนินธุรกิจ ‘MI Group 25th Anniversary Press Conference’

‘มหาสื่อครองเมือง’ สู่ยุค ‘AI กำหนดเกม’

เทรนด์เสพสื่อของผู้บริโภค 2 ทศวรรษที่ผ่านมา

6 ยุคของสื่อ (ปี ค.ศ.) ภูมิทัศน์สื่อ พฤติกรรมการรับสื่อของผู้บริโภค
1. ก่อนปี 2008 มหาสื่อครองเมือง จอเดียวครองใจทั้งแผ่นดิน โทรทัศน์และวิทยุเป็นสื่อหลัก เช่น รายการข่าวภาคค่ำมีอิทธิพลสูง

 

ผู้บริโภครับข้อมูลแบบทางเดียว เชื่อถือสื่อกระแสหลัก และมีทางเลือกในการรับข้อมูลจำกัด

2. ปี 2008 – 2012 โซเชียลเปลี่ยนโลก จุดกำเนิดสื่อทางเลือก โซเชียลเริ่มบุก เฟซบุ๊กเริ่มเป็นที่นิยม ขณะที่ทีวียังคงมีอิทธิพล

 

ผู้บริโภคเริ่มแสดงความคิดเห็น ออนไลน์ แบ่งกลุ่มตามความสนใจ แต่ยังผูกติดกับสื่อดั้งเดิม

3. ปี 2013 – 2015 โลกที่ไม่เหมือนเดิม แตกกระจายแต่ทรงพลัง ช่วงเวลาที่โซเชียลท้าชนสื่อเก่า แพลตฟอร์มมีหลากหลายและมีบทบาทมากขึ้น

 

ผู้บริโภคเริ่มสร้างเนื้อหาเอง

แชร์ประสบการณ์ผ่านโซเชียล แต่ยังเสพสื่อหลักควบคู่กัน

4. ปี 2016 – 2018 โซเชียลขับเคลื่อนโลก จากผู้บริโภคเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ ผู้บริโภคสร้างและแลกเปลี่ยนเนื้อหากันเอง แชร์ประสบการณ์ผ่าน

โซเชียล อินฟลูเอนเซอร์มาแรง ยูทูบและทวิตเตอร์เติบโต

 

ผู้บริโภคติดตามบุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิด เชื่อถือรีวิวและความเห็นจากโซเชียลมากขึ้น

 

5. ปี 2019 – 2022 ข้อมูลเปลี่ยนโลก เทคโนโลยีกำหนดทิศ

 

สื่อถูกหลอมรวม TikTok ระเบิดความนิยม พอดแคสต์เฟื่องฟู

 

ผู้บริโภค

เสพสื่อแบบข้ามแพลตฟอร์มไปมา ชอบเสพเนื้อหาสั้นกระชับ และต้องการความเฉพาะเจาะจง

6. ปี 2023 เป็นต้นไป AI กำหนดเกม ตัวถึงตัวแบบใจถึงใจ เกิดชุมชนเฉพาะกลุ่มแตกย่อยมากขึ้น สื่อโซเชียลเป็นแบบกระจายศูนย์ (decentralized social media) อยากได้ยอดขาย ต้องใช้เนื้อหาที่โดนใจเพื่อให้ได้ใจผู้บริโภคในแต่ละบริบท (ถูกคน-ถูกใจ-ถูกที่-ถูกเวลา)

 

ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการสร้างและแชร์เนื้อหามากขึ้น การมาของ Generative AI ช่วยเอื้อและสนับสนุนความเป็นไปได้มากขึ้น

ที่มา: MI Group, ตุลาคม 2024

คุณภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์กรุ๊ป จำกัด หรือ MI Group กล่าวภายในงานว่า ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์สื่อและพฤติกรรมผู้บริโภคมากมาย จากยุค ‘มหาสื่อครองเมือง’ สู่ยุค ‘AI กำหนดเกม’

บริษัทได้ปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง วันนี้บริษัทจึงเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นเพียง Media Agency (เอเจนซีตัวกลาง) สู่การเป็น Integrated Solution Providers (ผู้ประกอบร่างโซลูชั่นสำหรับธุรกิจ) ที่ไม่เพียงแค่เสนอกลยุทธ์ด้านการสื่อสารการตลาด แต่ยังรวมถึงการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจและการเลือกใช้เครื่องมือการตลาดที่ทันสมัย เพื่อช่วยเสริมแกร่งให้ธุรกิจของผู้ประกอบการสามารถเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วางตำแหน่งการเป็น Integrated Solution Providers ของบริษัทผ่าน 7 โซลูชั่น

1. MarCom Solution Master: กูรูด่านแรก ร่วมวิเคราะห์ วางกลยุทธ์ เชื่อมต่อโซลูชั่นที่ใช่

โซลูชั่นนี้ถือเป็นด่านแรกที่จะช่วยวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาทางการตลาดของแบรนด์ ด้วยความเชี่ยวชาญในการวางกลยุทธ์ทั้งด้านสื่อแบบดั้งเดิมและดิจิทัล มุ่งเน้นการสร้างผลลัพธ์ที่วัดผลได้ ผ่านการใช้ข้อมูลและการวางแผนสื่อแบบเจาะจง ทีมผู้เชี่ยวชาญจะปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจ

2. Trading Excellence: ดันเพดานความคุ้มค่าการลงทุน โปร่งใส ยืดหยุ่นสูง

โซลูชั่นนี้เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของการลงทุนในเครื่องมือทางการตลาด (ROI) โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและผลลัพธ์จากหลายแพลตฟอร์ม (Multi-platform) ทีมผู้เชี่ยวชาญจะนำข้อเสนอที่ดีที่สุดจากสื่อ พร้อมจัดการกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ ทีมงานยังมุ่งสำรวจโอกาสใหม่ ๆ เพื่อเสริมความได้เปรียบในการแข่งขันของธุรกิจ ช่วยให้แบรนด์สามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ด้วยการทำงานที่โปร่งใสและมีความยืดหยุ่นตามเงื่อนไขของตลาด

3. FUZE: CONTENT l COMMUNITY l EXPERIENCE: สร้างสรรค์ประสบการณ์ครบวงจร ผูกแบรนด์มัดใจชุมชน

โซลูชั่นนี้มุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคแบบบูรณาการ ผ่านการสร้างชุมชนและการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค โดยนำเสนอกิจกรรมและเนื้อหาที่ตรงใจผู้บริโภคในแต่ละกลุ่ม (Personalized Content) สร้างความผูกพันและการจดจำระยะยาว ผ่านการตลาดที่ผสมผสานทั้งช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์ และออนกราวด์ เพื่อสร้างประสบการณ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค

4. Bridge: การพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศ: ขับเคลื่อนด้วยเครือข่ายและกลยุทธ์ เชื่อมต่อแบรนด์ไทยสู่พลเมืองโลก

โซลูชั่นนี้มุ่งเน้นการช่วยเหลือแบรนด์ไทยในการขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศ ด้วยกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์การเจาะตลาดใหม่ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันระดับสากล ทีมงานของบริษัทมีความเชี่ยวชาญในกลุ่มเป้าหมายต่างชาติที่หลากหลาย และมีเครือข่ายในต่างประเทศครอบคลุมเกือบทั่วโลก

โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียนที่บริษัทมีทีมงานแข็งแกร่ง โซลูชั่นนี้ไม่เพียงช่วยให้แบรนด์ขยายโอกาสทางธุรกิจในต่างประเทศ แต่ยังช่วยแบรนด์เข้าถึงตลาดใหม่ ๆ ที่เข้ามาในประเทศด้วย เช่น แรงงานข้ามชาติในประเทศไทย และกลุ่มนักท่องเที่ยว

5. MI Learn Lab: พลิกเกมกลยุทธ์ ด้วยข้อมูลเชิงลึก เพื่อแนวโน้มที่แม่นยำ

บริษัทให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการใช้ข้อมูลในการกำหนดกลยุทธ์ต่าง ๆ หน้าที่หลักของ MI Learn Lab จึงเป็นการนำเสนอการวิเคราะห์แนวโน้มและทิศทางของอุตสาหกรรม (Trends and Industry Projection) ช่วยให้แบรนด์สามารถวางแผนกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มุ่งเน้นการให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อสร้างความเข้าใจในกลุ่มผู้บริโภคและตลาด (Deep Customer and Market Insights)

นอกจากนี้ MI Learn Lab ยังมีโครงการวิจัยของตนเอง ที่มุ่งสำรวจและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงรวบรวมข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของแบรนด์

MI Learn Lab มีบทบาทสำคัญในการผลักดันการพัฒนาโซลูชั่นใหม่ ๆ ด้วยข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึกที่ครอบคลุม ทำให้ MI Group สามารถพัฒนาโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ได้อย่างต่อเนื่อง

6. Commerce Solution: ปลดล็อกศักยภาพการขาย ตอบโจทย์ทุกช่องทางใหม่ไม่รู้จบ

โซลูชั่นนี้ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด ช่องทางการขาย-ซื้อสินค้า รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ตอบโจทย์การเป็น Trusted Advisor โดยพัฒนาทีมผู้เชี่ยวชาญที่สามารถวางกลยุทธ์และให้คำแนะนำในด้าน Commerce Service Solutions ช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการค้าของตนได้สูงสุด

ทีมงาน Commerce Solution มุ่งเน้นการทดสอบและเรียนรู้ เพื่อพัฒนาความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ขยายขอบเขตการเรียนรู้ให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มที่เกิดขึ้น ตลอดจนการขายในรูปแบบใหม่ๆ (Modern Commerce) และการปรับปรุงประสบการณ์การค้าทางด้านแบ็กเอนด์ (Backend Commerce Experience) เพื่อให้การค้าขายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

7. Data Ecosystem: เสริมการขับเคลื่อนตลาด ด้วยนิเวศข้อมูลที่ทรงพลัง

ในยุคของ Data และ AI การใช้ข้อมูลที่ครอบคลุมหลายมิติเป็นกุญแจสำคัญในการวางกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น MI Data Ecosystem จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อมุ่งเน้นการสร้างระบบข้อมูลที่เชื่อมโยงและมีความต่อเนื่อง (Consistent and Cohesive Data) ข้อมูลที่จัดเก็บมาจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย จะถูกเชื่อมโยงในนิเวศเดียวกัน เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์และวางกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โซลูชั่นนี้ยังผสานการใช้ AI-powered personalization เพื่อช่วยปรับแผนการตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะบุคคล ช่วยให้แบรนด์สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้อย่างชัดเจนและเจาะจงมากขึ้น นำไปสู่การสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่แม่นยำและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนั้น ภายในงานยังได้มีการเปิดตัว ‘มี-อาย (MI-AI)’ เอไอจากบริษัท ซึ่งจะเข้ามาช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะพร้อมใช้งานในเดือนธันวาคม 2024 วางตำแหน่งสำหรับให้บริการกลุ่มเอสเอ็มอี และพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท

คุณภวัต กล่าวปิดท้าย รายได้รวมของ MI Group ปี 2023 เติบโต 8% ตั้งเป้าปี 2024 เติบโต 10% หลังมีการนำ AI เข้ามาส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทต่อเนื่อง


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer