Trend / การท่องเที่ยวถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้หลายประเทศ โดย 1-2 ปีจากนี้ภาคท่องเที่ยวของหลายประเทศรวมถึงไทย จะทวีความคึกคักไปด้วยแฟน ๆ หนังและซีรีส์

ไทยขึ้นอันดับต้น ๆ ของประเทศที่เงินจะสะพัดจากการเที่ยวตามรอยหนังและซีรีส์ เพราะผู้ชมอยากมาเห็น มาสัมผัส ถ่ายภาพฉากต่าง ๆ จากเรื่องโปรดที่ดู ตามเทรนด์ Set-jetting ซึ่งทำให้หลายประเทศคึกคักมาแล้ว ตามการวิเคราะห์ของแพลตฟอร์มจองที่พัก Expedia

เช่น นอร์เวย์ที่นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 65% จากการเที่ยวตามรอยซีรีส์ Succession ซีซั่นสุดท้าย ขณะที่เกาะฮาวายของสหรัฐฯ และเกาะซิซิลีของอิตาลีไปไกลกว่านั้น ด้วยจำนวนนักเที่ยวที่เพิ่มขึ้นมา 300% เพราะเมืองที่ใช้ถ่ายทำซีรีส์ The White Lotus ใน 2 ซีซั่นแรก

ส่วนกรณีของไทย Expedia ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่การท่องเที่ยว โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เกะสมุย ภูเก็ต จะคึกคักและมีเงินสะพัด เพราะใช้เป็นที่ถ่ายทำ The White Lotus ซีซั่น 3 ที่มีกำหนดสตรีมให้ชมกันในปี 2025 และได้มีการเผยให้เห็นตัวอย่างไปแล้ว

เทรนด์ Set-jetting มีมานานแล้ว ซึ่งประเทศที่ได้ประโยชน์อย่างชัดเจนช่วง 20 ปีมานี้คือเกาหลีใต้ แต่ปี 2024 เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หลังโลกพ้นกลับสู่ภาวะปกติ

ขณะที่หนังกับซีรีส์ก็มีให้ชมกันอย่างต่อเนื่องในหลายแพลตฟอร์ม และทุกเรื่องต่างก็แข่งกันใช้เมืองหรือตึกรามบ้านช่องสวยสะดุดตาเป็นจุดขายเพื่อตรึงผู้ชม จนผู้ชมพากันไปเที่ยวตามรอยนั่นเอง

และเมื่อผู้ที่ไปถึงพากันแชร์ภาพขึ้นสื่อโซเชียล จึงทำให้คนอีกกลุ่มใหญ่อยากไปบ้าง ซึ่งถือเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว และเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเมืองหรือประเทศที่ใช้เป็นฉากในเรื่องอย่างมาก

เมืองที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวคึกคักเพิ่มขึ้นอีกอย่างมากจากเทรนด์ Set-jetting ในช่วง 3-4 ปีมานี้คือกรุงปารีสของฝรั่งเศส เพราะแฟน ๆ Emily in Paris พากันไปเที่ยวตามรอยซีรีส์เรื่องนี้

ขณะที่นครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ก็มีนักท่องเที่ยวตบเท้าไปกันเป็นจำนวนมากในแต่ละปี เพราะได้เห็นกันผ่านหนังและซีรีส์มากมาย เช่น ซีรีส์ Sex in the City และหนัง Spider-Man ทุกภาค

อย่างไรก็ตาม เทรนด์ Set-jetting ก็มิได้มีแต่เรื่องดี ๆ เท่านั้น โดยเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหานักท่องเที่ยวล้นจนเมืองช้ำ (Overtourism) ขณะเดียวกันก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่เมื่อไปเที่ยวตามรอยแล้วผิดหวังกลับมา

เช่น กรณีของกรุงปารีส ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า แม้อาคารต่าง ๆ จะสวยงามและแหล่งท่องเที่ยวดัง ๆ มากมาย แต่คนในเมืองกลับไม่ค่อยเป็นมิตร และบางจุดในเมืองก็สกปรกไปด้วยกองขยะ

ขณะที่นครนิวยอร์กแม้เป็นเมืองในฝันที่แฟนหนัง-คอซีรีส์อยากไปเที่ยวตามรอยให้ได้ แต่เอาเข้าจริงภาพในหนังและซีรีส์ที่ตัวละครมีชีวิตหรูหราในอพาร์ตเมนต์กว้างขวางนั้น กลับเป็นภาพลวงตา

เพราะคนในเมืองส่วนใหญ่ไม่ได้อาศัยอยู่ในห้องใหญ่โต หลายจุดในเมืองยังมีแหล่งเสื่อมโทรม และรถไฟใต้ดินแม้ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ก็มีมิจฉาชีพ คนไร้บ้าน และยังมีกลิ่นเหม็นอับอีกด้วย

สำนักข่าว BBC ที่นำเรื่องนีัมาตีแผ่ สรุปทิ้งท้ายว่า แม้เทรนด์ Set-jetting จะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยว แต่ถ้าฝ่ายปกครอง หน่วยงานด้านการท่องเที่ยว ไม่ได้บริหารจัดการ

และคนในพื้นที่ไม่ให้ความร่วมมือด้วยการทำตัวเป็นมิตรให้พร้อมรับนักท่องเที่ยว เทรนด์นี้ก็อาจกระตุ้นการท่องเที่ยวได้เพียงระยะสั้น ๆ หรือช่วงที่หนังและซีรีส์ยังเป็นกระแสเท่านั้น ซ้ำร้ายก็อาจไม่เกิดการต่อยอดอีกด้วย

ส่วนตัวนักท่องเที่ยวเองก็ควรทำความเข้าใจว่า ความเป็นจริงกับสิ่งที่เห็นในหนังหรือซีรีส์นั้นต่างกัน และการไปแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ของเมืองหรือประเทศนั้น ๆ หลังเที่ยวตามรอยแล้ว อาจทำให้ได้รับประสบการณ์แปลกใหม่และความประทับใจมากกว่าแค่ที่เห็นในหนังหรือซีรีส์ / bbc


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer