Trend / สภาพซบเซาและเงียบเหงาไม่ต่างจากเมืองร้างช่วงเกือบ 4 ปีที่ผ่านมาของสถานการณ์โควิด คือฝันร้ายที่ทุกคนในวงการท่องเที่ยวไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก แต่หลังพ้นวิกฤตดังกล่าวมาได้วงการนี้ก็มาเจอกับปัญหาใหม่ที่อยู่ในขั้วตรงข้าม

นั่นคือ Overtourism หรือปริมาณนักท่องเที่ยวล้นเกิน โดยกรณีตัวอย่างของปัญหานี้ที่เป็นข่าวดัง คือ เมื่อช่วงพฤษภาคมฝ่ายปกครองในเมืองฟูจิคาวะกูจิโกะ จังหวัดยามานิชิ ของญี่ปุ่น ต้องขึ้นสแลนบังวิวกันไม่ให้นักท่องเที่ยวไปรวมตัวบริเวณถนนหน้าร้านสะดวกซื้อ Lawson เพื่อถ่ายภาพวิวสาขานี้กับภูเขาไฟฟูจิ เพื่อแก้ปัญหาความวุ่นวายและการจราจรติดขัด
ปัญหา Overtourism ยังเกิดขึ้นในหลายประเทศในยุโรปเช่นกัน โดยประเทศหนึ่งที่รุนแรงถึงขั้นผู้คนในหลายเมืองประท้วงไล่นักท่องเที่ยว แต่ก็กระทบเพียงไม่นานและล่าสุดยังคาดกันด้วยว่าปริมาณนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง

สเปน มีการประท้วงไล่นักท่องเที่ยวของผู้คนในหลายเมือง เริ่มจากเกาะคานารี เมื่อเมษายน ตามด้วยที่เกาะมายอร์ก้า ในเดือนถัดมา และบาร์เซโลนา เมืองใหญ่ชื่อดังของประเทศ ในเดือนกรกฎาคม โดยในการประท้วงเหล่านี้คือ การรวมตัวเดินขบวน ขึ้นป้ายขับไล่นักท่องเที่ยว และต่อต้านการท่องเที่ยว
การประท้วงที่ดูเหมือนจะกระทบต่อนักท่องเที่ยวมากสุดคือที่เมืองบาร์เซโลนา เพราะถึงขนาดมีการใช้ปืนฉีดน้ำฉีดใส่นักท่องเที่ยวให้รู้ว่าชาวเมืองไม่พอใจกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากเกินไป

การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากประชาชนในเมืองเหล่านี้ได้รับผลกระทบจาก Overtourism เช่น ราคาค่าเช่าบ้านและอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้น บ้านหรือห้องว่างที่น้อยลงหลังเจ้าของพากันปล่อยให้เช่าหรือทำเป็นห้องพัก
พฤติกรรมไม่เหมาะสมต่าง ๆ ทั้งในเรื่องการไปรวมตัวถ่ายรูปของนักท่องเที่ยวทั่วไป อินฟลูเอนเซอร์ตามแหล่งท่องเที่ยวดัง ๆ และการแต่งกายไม่เหมาะสม
ท่ามกลางข้อมูลที่ชี้ให้เห็นถึงความย้อนแย้งของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสเปน โดยขณะที่กลุ่มตัวอย่างชาวสเปนกว่า 1 ใน 3 ที่เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติมากเกินไปแล้ว แต่ปี 2024 เศรษฐกิจกำลังโตแซงหน้าประเทศอื่น ๆ ที่ใช้เงินสกุลยูโร หรือยูโรโซน ซึ่งปัจจัยหลักก็มาจากการท่องเที่ยว

หลังการท่องเที่ยวสร้างงานหลายแสนตำแหน่งให้คนในประเทศ มีการสร้างโรงแรมหรือทำห้องพักใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดย 8 เดือนที่ผ่านมาของปี 2024 สเปนเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปแล้ว 64.8 ล้านคน แปรเป็นเงินสะพัดเข้าประเทศ 93,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.1 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 17.6% จากกรอบเวลาเดียวกันของปี 2023
และรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของสเปนจะเพิ่มขึ้นอีก เพราะคาดกันว่าสเปนจะปิดปี 2024 ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวมากถึง 90 ล้านคน
ขณะที่บรรดาคนในงานภาคบริการตามแหล่งท่องเที่ยวต่างก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ที่ต้องอาศัยในรถบ้านเพราะห้องเช่าในเมืองทำเป็นห้องพักให้นักท่องเที่ยวไปหมด
ส่วนการประท้วงไล่นักท่องเที่ยวก็แทบไม่ส่งผลอะไร โดย Booking.com แพลตฟอร์มจองที่พักใหญ่สุดของยุโรป เผยว่า ช่วงกรกฎาคมที่เกิดการประท้วงยอดจองในสเปนในแพลตฟอร์มลดลงไป 23% แต่ 6 สัปดาห์หลังสถานการณ์สงบยอดจองก็กลับมาเพิ่มขึ้นอีก

ด้านฝ่ายปกครองตามเมืองท่องเที่ยวของสเปนก็ไม่ได้นิ่งเฉย โดยได้มีการออกมาตรการต่าง ๆ เช่น สั่งปรับนักท่องเที่ยวที่แต่งตัวไม่เหมาะสม งดออกใบอนุญาตดัดแปลงห้องเป็นห้องพักนักท่องเที่ยวและเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน
ขณะที่ ฆอร์ดี้ เฮเรอ รัฐมนตรีท่องเที่ยวสเปน ยอมรับว่าต้องบริหารจัดการการท่องเที่ยวอันเป็นรายได้สำคัญของประเทศให้ดี แต่ก็ไม่ได้รับปากว่าจะระงับการขยายสนามบิน และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ตามที่กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องหรือไม่
นี่ทำให้แกนนำหนึ่งในกลุ่มประท้วงไล่นักท่องเที่ยว วิจารณ์ว่ารัฐบาลไม่จริงใจแก้ไขปัญหา หรือแก้ปัญหาแบบผักชีโรยหน้าเท่านั้น

สถานการณ์การท่องเที่ยวในสเปนถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของประเทศที่ได้รับผลกระทบจาก Overtourism ซึ่งนักวิชาการด้านการท่องเที่ยววิเคราะห์ว่า เป็นปัญหาด้านการบริหารจัดการที่ทุกฝ่ายตั้งแต่รัฐบาล ฝ่ายปกครองท้องถิ่น และชาวเมือง รวมไปถึงนักท่องเที่ยวต้องร่วมมือกันแก้ไข
เพราะหากไม่แก้ไขอย่างจริงจัง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะโตอย่างไม่ยั่งยืน และที่สุดจะกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนตามแหล่งท่องเที่ยว และในระยะยาวสิ่งที่ได้มาอาจไม่คุ้มกับที่เสียไป/cnbc, cnn, wikipedia, theguardian
–
