Product Positioning หรือ การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ หมายถึง กระบวนการที่องค์กรสร้างและสื่อสารภาพลักษณ์หรือคุณค่าของสินค้าและบริการในใจของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้สินค้านั้นแตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่ง การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ช่วยให้ลูกค้ารับรู้ถึงความเป็นเอกลักษณ์และเหตุผลที่ควรเลือกสินค้าแทนที่จะเป็นสินค้าของคู่แข่ง

ความสำคัญของ Product Positioning

  1. สร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
    การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดที่มีสินค้าและบริการคล้ายคลึงกัน
  2. เพิ่มความชัดเจนในตัวสินค้า
    การกำหนดตำแหน่งผลิตภัณฑ์ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าใจคุณค่าหรือประโยชน์ของสินค้าได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน
  3. สนับสนุนกลยุทธ์การตลาด
    ตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนช่วยให้องค์กรสามารถออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาด เช่น การตั้งราคาหรือการเลือกช่องทางการจัดจำหน่าย ได้อย่างสอดคล้อง
  4. สร้างความจดจำในระยะยาว
    ตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งช่วยให้ลูกค้าจดจำสินค้าและบริการขององค์กรได้ในระยะยาว
  5. ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
    การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ช่วยให้องค์กรสามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกับความต้องการและความคาดหวัง

ประเภทของ Product Positioning ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ที่องค์กรเลือกใช้:

  1. Positioning Based on Features and Benefits (วางตำแหน่งตามคุณสมบัติและประโยชน์)
    เน้นการสื่อสารถึงคุณสมบัติที่โดดเด่นหรือประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ ตัวอย่างเช่น โทรศัพท์มือถือที่ชูจุดขายเรื่องกล้องถ่ายรูปคุณภาพสูง
  2. Positioning Based on Price and Quality (วางตำแหน่งตามราคาและคุณภาพ)
    การวางตำแหน่งสินค้าตามความคุ้มค่าหรือระดับราคาที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น สินค้าหรูหราที่เน้นภาพลักษณ์พรีเมียม หรือสินค้าราคาประหยัดที่เน้นความคุ้มค่า
  3. Positioning Based on Use or Application (วางตำแหน่งตามการใช้งานหรือประโยชน์เฉพาะ)
    เน้นการนำเสนอว่าสินค้านั้นเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานการณ์หรือบริบทเฉพาะ เช่น รองเท้าวิ่งที่ออกแบบสำหรับนักวิ่งมืออาชีพ
  4. Positioning Based on User (วางตำแหน่งตามกลุ่มผู้ใช้)
    การกำหนดตำแหน่งสินค้าสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานเฉพาะ เช่น ผลิตภัณฑ์สำหรับวัยรุ่นหรือผู้สูงอายุ
  5. Positioning Based on Competitors (วางตำแหน่งเปรียบเทียบคู่แข่ง)
    เน้นการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งโดยตรง เช่น การสื่อสารว่าสินค้าของตนมีคุณภาพที่ดีกว่าหรือราคาที่ถูกกว่า
  6. Positioning Based on Cultural Symbol (วางตำแหน่งตามสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม)
    ใช้สัญลักษณ์หรือความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมเพื่อสร้างตำแหน่งในใจลูกค้า ตัวอย่างเช่น แบรนด์ที่สื่อถึงความรักชาติหรือความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น

วิวัฒนาการของ Product Positioning

  • ยุคเริ่มต้น: การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์มักเน้นที่คุณสมบัติพื้นฐาน เช่น ฟังก์ชันการใช้งานหรือราคาที่แข่งขันได้
  • ยุคต่อมา: เน้นความแตกต่างที่ชัดเจน เช่น การสร้างแบรนด์พรีเมียมหรือสินค้าเฉพาะทาง
  • ยุคปัจจุบัน: การใช้ข้อมูลและเทคโนโลยี เช่น Big Data และ AI ช่วยให้การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์มีความแม่นยำและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น การสร้างสินค้าเฉพาะสำหรับลูกค้ารายบุคคล

สรุป
Product Positioning เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดและสื่อสารคุณค่าของสินค้าในใจลูกค้าได้อย่างชัดเจน การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ความภักดีของลูกค้า และความสำเร็จในระยะยาว โดยการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์นี้ ♦


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer