Trends / จีนยุคใหม่เปลี่ยนไปจนแทบเป็นคนละประเทศกับจีนในอดีต โดยมีหลักฐานมากมายให้คนทั่วโลกได้เห็นประจักษ์ ไล่ตั้งแต่สารพัดแบรนด์จีน ตลาดสินค้าเทคโนโลยี และแวดวงยานยนต์ ต่อเนื่องไปจนถึงการเป็นขั้วอำนาจที่ขยับแต่ละทีแกนโลกก็มีสะเทือน
ทว่าช่วงไม่กี่ปีมานี้จีนเผชิญภาวะเศรษฐกิจซบเซาที่กระทบแทบทุกภาคส่วนของประเทศรวมไปถึงตลาดแรงงาน จนบีบให้คนรุ่นใหม่ช็อกกับความจริงที่ว่าการทำงานตรงสายรายได้ดีเป็นแค่เรื่องฝันกลางวัน และต้องจำใจทำงานต่ำกว่าวุฒิไปก่อน
อัตราว่างงานในหมู่คนรุ่นใหม่หรือกลุ่ม Gen Z ของจีนตามตัวเลขล่าสุดเมื่อพฤศจิกายน 2024 อยู่ที่ 16.1% ลดลงเพียงเล็กน้อยจาก 18.8% ของสิงหาคมปีเดียวกัน และยังต้องจับตามองต่อไปว่าปี 2025 จะดีขึ้นได้หรือไม่ และถ้าดีขึ้นจะดีขึ้นไปแค่ไหน
วิกฤตดังกล่าวทำให้บริษัทส่วนใหญ่ในจีนเปิดรับสมัครงานใหม่น้อยมาก และบริษัทที่เงินทุนร่อยหรอหรือขาดทุนก็จำเป็นต้องปิดกิจการไป ซึ่งกระทบต่อเนื่องให้ตลาดงานหดตัว และบัณฑิตจบใหม่ ไม่ว่าสาขาไหนต่างก็ต้องจำใจทำงานต่ำกว่าวุฒิ
มีรายงานว่า เด็กเสิร์ฟในร้านสุกี้-ชาบูจีนบางคนจบปริญญาโท ขณะที่ตัวประกอบโรงถ่ายในเหิงเตี้ยน มณฑลเจ้อเจี้ยง ที่ถ่ายทำหนังและซีรีส์ดัง ๆ มากมาย จนได้ฉายาว่า ฮอลลีวู้ดแดนตะวันออก ก็เต็มไปด้วยตัวประกอบเป็นบัณฑิตระดับหัวกะทิจากหลายคณะ รวมไปถึงคณะวิศวกรรม

นอกจากนี้ ยังมีตำรวจชั้นประทวนจบดอกเตอร์ อดีตนักวิเคราะห์หุ้นรุ่นใหม่ที่กลายมาเป็นนักกายภาพบำบัด หรือแม้กระทั่งภารโรงโรงเรียนประถมบางแห่งที่จบปรัชญาเลยก็มี
สื่อดังของอังกฤษที่นำเรื่องนี้มาตีแผ่รายงานว่า การตัดสินใจทำงานต่ำกว่าวุฒิของ Gen Z จีน ล้วนทำให้คนในครอบครัวผิดหวัง และแม้ทุกคนต่างก็พยายามหางานใหม่เงินดีที่ตรงกับที่จบมา แต่ก็ไม่มีทางเลือกจึงทำงานต่ำกว่าวุฒิไปก่อน
นี่เป็นการแสดงเห็นว่าจีนกำลังเสียโอกาสทางเศรษฐกิจที่บัณฑิตสาขาวิชาชั้นสูงจะได้ร่วมใช้วิชาที่ร่ำเรียนมาไปพัฒนาประเทศ
สื่ออังกฤษรายงานทิ้งท้ายโดยอิงจากบทวิเคราะห์ของนักวิชาการด้านจีนมหาวิทยาลัยในฮ่องกงว่า นี่ถือเป็นความจริงแสนโหดร้ายที่ Gen Z ต้องเผชิญ ทำให้พวกเขาต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอด
โดยระหว่างช่วงประคองตัวนี้พวกเขาต้องพยายามสร้างกำลังใจให้ตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้จ่ายอย่างจำกัดขณะที่ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศก็ต่ำมาก และสับสนกับชีวิตตัวเอง ซึ่งทั้งหมดเป็นปัญหาที่รัฐบาลจีนต้องเร่งแก้ไข/bbc
–
