เต็ดตรา แพ้ค ผู้นำเสนอโซลูชันการแปรรูปบรรจุภัณฑ์และกระบวนการผลิตอาหารชั้นนำของโลก โดยที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับลูกค้าและซัพพลายเออร์ระดับโลกมากมาย เพื่อมอบผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการ หนึ่งในนั้นคือดัชมิลล์ กรุ๊ป บริษัทผู้ผลิตและการตลาดผลิตภัณฑ์นมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำเสนอโซลูชันบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะให้กับผลิตภัณฑ์ของดัชมิลล์ ในแคมเปญสะสมแต้ม “Dutch Mill Point Rewards”
อันเป็นแคมเปญครั้งสำคัญของดัชมิลล์ ที่เต็ดตรา แพ้ค ได้เสนอโซลูชันการพิมพ์บนบรรจุภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์กลยุทธ์การตลาดของดัชมิลล์ โดยการวางคิวอาร์โค้ดให้สแกนบนบรรจุภัณฑ์
การที่ต้องมีลูกเล่นใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นผู้บริโภคเช่นนี้ เพราะเทรนด์ของผู้บริโภคไทยกำลังมุ่งให้ความสำคัญกับการค้นหาแรงบันดาลใจและประสบการณ์ที่ชวนตื่นเต้น ทำให้แบรนด์ต้องมี movement ใหม่เพื่อสร้างความสดใหม่อยู่เสมอ
คุณสุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เต็ดตรา แพ้ค ได้พัฒนาโซลูชันที่ช่วยเปลี่ยนกล่องที่บรรจุผลิตภัณฑ์ของดัชมิลล์ให้กลายเป็นช่องทางในการสร้างปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกับแบรนด์ และสร้างการมีส่วนร่วมโดยตรงกับผู้บริโภค แต่ยังคงต้นทุนที่ดีไว้ ซึ่งดัชมิลล์เป็นพาร์ทเนอร์ที่ทำงานร่วมกับบริษัทมาอย่างยาวนาน
คุณจิตรภณ ไตรรัตน์วรวุฒิ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท ดัชมิลล์ จำกัด เล่าถึงแคมเปญว่า เป็นแคมเปญสะสมแต้ม “Dutch Mill Point Rewards” โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดมุมบนของกล่อง ซึ่งผู้บริโภคต้องเปิดบรรจุภัณฑ์ก่อนจึงจะสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเฉพาะบนกล่องบรรจุภัณฑ์ ซึ่งช่วยสร้างการมีส่วนร่วมและเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ นวัตกรรมการออกแบบลักษณะนี้ยังช่วยป้องกันการสแกนโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งยังมั่นใจได้ว่าแต้มสะสมจะถูกเก็บโดยผู้บริโภคจริง
แต่ระหว่างทางก็มีข้อจำกัดอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ทำลายข้อจำกัดการวางคิวอาร์โค้ด ให้มีความปลอดภัย อีกทั้งเพื่อให้ผู้บริโภคมองเห็นได้ง่าย การจะพิมพ์คิวอาร์โค้ดลงบนกล่องบรรจุภัณฑ์ ต้องอาศัยนวัตกรรม ความแม่นยำ และเทคนิคในการผลิตสูง ซึ่งเต็ดตรา แพ้ค รับมือกับความท้าทายในการผลิตที่ซับซ้อนได้
ซึ่งจะช่วยให้ดัชมิลล์สามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าเพื่อนำอินไซต์มาต่อยอด แคมเปญการตลาดและพัฒนาโปรดักซ์ตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงจุด
แคมเปญสะสมแต้มนี้จะช่วยสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคในตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อลูกค้าสแกนคิวอาร์โค้ดบนกล่องผลิตภัณฑ์ดัชมิลล์ เพื่อเข้าสู่ระบบสะสมแต้ม “Dutch Mill Point Rewards” ซึ่งเป็นLoyalty program รวดเร็วในการสะสมคะแนน และสามารถเลือกนำคะแนนสะสมแลกรับของรางวัลได้ โดยแคมเปญจะมีขึ้นไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2568
หลังการลอนช์แคมเปญดังกล่าวนับแต่เดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา พบอินไซต์ในเบื้องต้นว่า นมเปรี้ยวดัชมิลล์ยังคงเป็นสินค้าเรือธงของบริษัทที่ขับเคลื่อนยอดขายโดยรวมกว่า 60% ของยอดขายทั้งหมด ตามมาด้วยนมถั่วเหลืองดีน่าที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ซื้อนมเปรี้ยวดัชมิลล์คือ Gen X และ Gen Y เป็นหลัก ขณะที่ดีน่าเป็นกลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุ
อย่างไรก็ตาม นอกจากทำการตลาดและแคมเปญในไทยแล้ว ดัชมิลล์ให้ความสำคัญกับการขยายตลาดต่างประเทศ จากที่มีการส่งออกไปในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ตั้งเป้าขยับสัดส่วนการขายในต่างประเทศ 20% โดยในปีนี้จะโฟกัสสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก