MG เปิดแผนงานปี 2025 เปิดตัวรถยนต์ใหม่ 2 รุ่น เน้นกลุ่มพรีเมียมเอสยูวีไฟฟ้า 100% แต่ยังบาลานซ์พอร์ตเป็นทั้งรถไฟฟ้าและสันดาป เดินหน้าเข้าสู่ทศวรรษที่สองด้วยเป้าส่วนแบ่งตลาดขยับเป็น 5% 

คุณซู๋ว์ หยิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด กล่าวว่า ยอดขายของบริษัทปี 2024 อยู่ที่ 17,000 คัน มีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์นั่งที่ 3% หรืออันดับ 7 แบ่งสัดส่วนการขาย อีวีและพลังงานทางเลือก 50% นำโดยรุ่น MG4, สันดาป 50% นำโดยรุ่น MG5 เป้ายอดขายปี 2025 อยู่ที่ 20,000 คัน ขยับสัดส่วนกลุ่มแรกเป็น 60%   

แผนงานในปี 2025 ซึ่งเป็นการเข้าสู่ปีที่ 11 ที่แบรนด์ MG เข้ามาทำตลาดในไทย บริษัทวางแพลนเปิดตัวรถยนต์ใหม่ 2 รุ่นในปีนี้ ได้แก่ ‘MG IM6’ และ ‘MG S5 EV’ ขณะที่ปี 2026 เปิดใหม่อย่างน้อย 2 รุ่น มีทั้งเอสยูวีอีวี และรถยนต์อเนกประสงค์ (เอ็มพีวี MPV) 

บริษัทมียอดขายรถยนต์สะสม ณ ปัจจุบันรวมกว่า 220,000 คัน ทั้งยังมียอดการส่งออกรถยนต์จากฐานการผลิตในไทยไปยังภูมิภาคอาเซียนแล้วมากกว่า 32,000 คัน โดยวางเป้าส่วนแบ่งตลาดรถยนต์นั่งในไทยของ MG ขยับเป็น 5% ภายในทศวรรษที่สองของการดำเนินงาน

วันนี้ (18 มี.ค. 2025) บริษัทเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกของปีนี้ ‘MG IM6’ พรีเมียมเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้า 100% มี 4 สีให้เลือก ชมพู, ขาว, ดำ, เทา ตัวรถแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย รุ่น Premium ราคา 1.39 ล้านบาท มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง พละกำลังสูงสุด 295 แรงม้า แบตความจุ 75 kWh ระยะที่วิ่งได้ 550 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)

และรุ่น Performance ราคา 1.79 ล้านบาท มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ พละกำลังสูงสุด 787 แรงม้า แบตความจุ 100 kWh ระยะที่วิ่งได้ 634 กม./ชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) 

MG IM6 เป็นการนำเข้า CBU ล็อตแรก 300 คัน พร้อมส่งมอบภายในช่วงกลางเดือนเมษายน 2025 

นอกจากการขยายพอร์ตรถยนต์ให้หลากหลาย บริษัทยังมุ่งมั่นยกระดับบริการหลังการขายให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนา E-Workshop ระบบบริการดิจิทัลที่ให้ลูกค้าติดตามงานซ่อมได้แบบเรียลไทม์ และยังตั้งเป้าอัตราการจัดหาอะไหล่ 99% เพื่อให้บริการได้รวดเร็ว ลดระยะเวลารอคอย พร้อมเสริมด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง

ภาพรวมตลาดรถยนต์นั่งในไทย ปี 2024 ยอดขายอยู่ที่ราว 572,000 คัน สัดส่วนของรถยนต์อีวี 12% ประเมินปี 2025 ยอดขายอยู่ที่ 550,000 – ไม่เกิน 600,000 คัน สัดส่วนของรถยนต์อีวีกว่า 10% โดยการขยายตัวของอีวีส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มรถเอสยูวี และฐานผู้บริโภคหลักเป็นกลุ่มคนเมือง

ขณะที่ทิศทางตลาดรถยนต์นั่ง ผ่านช่วงตกสุดไปตั้งแต่ไตรมาส 4/2024  ในปี 2025 ตลาดจะอยู่ในทิศทางที่ค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น และสงครามราคาจะเริ่มทุเลาความรุนแรงลง เนื่องจากผู้เล่นมาถึงจุดการทำราคาขายที่อยู่ในภาวะตึงตัวแล้ว 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer