Trends / ท่ามกลางกระแสต่อต้านสินค้า แบรนด์ และแพลตฟอร์มของสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้การขึ้นกำแพงภาษี ที่เริ่มมีให้เห็นทั่วโลกและเป็นข่าวดัง ซึ่งยังเป็นการจุดชนวนสงครามการค้ารอบใหม่ซึ่งขยายวงมากกว่าเมื่อหลายปีก่อนอีกด้วย   

แต่ก็มีอีกประเด็นที่ผุดขึ้นมา นั่นคือในความเป็นจริงที่ว่า แล้วเราจะสามารถต่อต้านหรือเมินอะไรต่าง ๆ ที่ Made in USA ได้แค่ไหน เพราะอิทธิพลของสหรัฐฯ ครอบคลุมแทบจะทั่วโลก แบรนด์จากประเทศนี้ก็มีขายอยู่ในทุกประเทศ และยังเป็นเบอร์ต้น ๆ อีกด้วย

ประเทศที่สะท้อนความจริงข้อนี้ได้ดีที่สุดคือฝรั่งเศส โดยเห็นได้จากพฤติกรรมการจับจ่ายสินค้าของคนรุ่นใหม่

หลังสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากฝรั่งเศสเมื่อปลายมีนาคมที่ผ่านมา ก็เกิดกระแสต่อต้านหรือคว่ำบาตรสินค้าจากสหรัฐฯ ทั้งในหมู่นักการเมือง ผู้นำทางความคิด และสื่อดัง ๆ ของฝรั่งเศส ที่อาจเรียกตามภาษาฝรั่งเศสได้ว่า Le Boycott

Liberation หนังสือพิมพ์ดังของฝรั่งเศส ได้สำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่าง โดยปรากฏว่า 6 จาก 10 คน จะคว่ำบาตรไม่ใช้สินค้า แบรนด์ และแพลตฟอร์มของสหรัฐฯ ส่วนในสื่อโซเชียล ชาวฝรั่งเศสก็พากันแชร์ #BoycottUSA

จนมีการวิเคราะห์กันว่า นี่ถือเป็นกระแสต่อต้านสหรัฐฯ ที่รุนแรงสุดในสังคมฝรั่งเศสยุคใหม่ ทว่าก็ยังมีอีกความเคลื่อนไหวในทางตรงกันข้าม ที่สะท้อนความเป็นจริงอีกด้านท่ามกลางเทรนด์  #BoycottUSA

สาขาต่าง ๆ ของ McDonald’s ในฝรั่งเศส ยังคงเปิดตามปกติ โดยวัยรุ่นชาย 3 คนที่อายุระหว่าง 15-17 ปี ที่ต่อแถวซื้อแฮมเบอร์เกอร์จากสาขาในกรุงปารีสกล่าวว่า พวกตนยังจะซื้อเมนูของ McDonald’s ต่อไปเพราะเป็นอาหารราคาถูก สอดคล้องกับเงินในกระเป๋าของนักเรียนที่ยังไม่มีรายได้  

ส่วนการคว่ำบาตรสินค้าสหรัฐฯ ก็รับรู้ได้ว่ากำลังเกิดขึ้นในหมู่เพื่อนร่วมชาติ แต่พวกตนเห็นว่ากลุ่มที่จะทำได้จริง ๆ คงเป็นคนรวยหรือมีรายได้พอกินพอใช้เท่านั้น

ด้านหนุ่มวัย 43 ปีที่ประกอบอาชีพกำจัดแมลงตามบ้านและอาคาร ซึ่งเพิ่งเดินออกมาพร้อมรองเท้า Nike คู่ใหม่เอี่ยมจากร้านขายรองเท้าในกรุงปารีส กล่าวว่า การคว่ำบาตรสินค้าสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่สำหรับตนแล้ว จะซื้อสินค้าแบรนด์ของประเทศนี้ต่อไป เพราะเห็นว่า เป็นแบรนด์ที่ดีที่สุด

ตามผลสำรวจความคิดเห็นของ Ifop สะท้อนระบุว่า ชาวฝรั่งเศสที่จะร่วมคว่ำบาตรสินค้าสหรัฐฯ จริง ๆ เป็นกลุ่มที่อายุ 65 ปี หรือ Babyboomer ฐานะค่อนดี ที่มีรายได้มากกว่า 2,400 ยูโร (ราว 95,000 บาท) ต่อเดือน  

ส่วนกลุ่มอายุ 40 ปีลงมา หรือ Gen Y และ Gen Z ที่มีรายได้น้อยกว่า โดยแม้ไม่เห็นด้วยกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ แต่ก็ไม่ต่อต้านสหรัฐฯ รุนแรงเหมือน Babyboomer เห็นได้จาก 22% ยังจะไปเที่ยวพักผ่อนหรือไปทำธุรกิจในสหรัฐฯ 22% อยากไปอยู่อาศัยในสหรัฐฯ และ 20% อยากไปทำงานในสหรัฐฯ

แม้สัดส่วนดังกล่าวลดจากการสำรวจครั้งก่อนเมื่อหลายปีที่แล้วมากพอสมควร แต่ 20-22% ก็ยังมีนัยสำคัญ เพราะคิดเป็น 1-5 ของกลุ่มตัวอย่างเลยทีเดียว

พฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ชาวฝรั่งเศสตามรายงานจากสื่ออังกฤษชิ้นนี้ถือเป็นการสะท้อนว่า แม้กระแสคว่ำบาตรสหรัฐฯ และเทรนด์ #BoycottUSA จะเห็นได้ทั่วไปในสื่อโซเชียล

แต่ในความเป็นจริงชาวฝรั่งเศสจำนวนอีกไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ยังกินยังใช้สินค้าของสหรัฐฯ ต่อไป เพราะสินค้าสหรัฐฯ มีให้เห็นทั่วไปในชีวิตประจำวัน และที่สุดผู้บริโภคจะเลือกเองว่าจะซื้อสินค้าสหรัฐฯ หรือสินค้าฝรั่งเศสและจากเพื่อนบ้านร่วมทวีปยุโรป

รายงานของสื่ออังกฤษชิ้นนี้ ทิ้งท้ายผ่านทัศนะของหญิงวัย 35 ปีซึ่งประกอบอาชีพผู้ช่วยดูแลผู้ป่วย ที่ว่า การเลือกซื้อสินค้าคงตัดสินใจเป็นกรณี ๆ ไป เพราะต้องดูเงินในกระเป๋าและสภาพเศรษฐกิจเป็นหลัก รวมไปถึงสินค้าแบรนด์ฝรั่งเศสคุณภาพสมราคาเมื่อเทียบกับแบรนด์จากสหรัฐฯ หรือไม่

สุดท้ายจึงอาจทำให้การคว่ำบาตรดูดีแต่ในทางทฤษฎี ทว่ากลับไม่สามารถทำได้ในชีวิตจริง/ theguardian  


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer