ในวันนี้ เนสท์เล่ เจ้าของแบรนด์เนสกาแฟ ยื่นเรียกร้องค่าเสียหายจากการคำนวณความสูญเสียที่ต้องหยุดจำหน่ายเนสกาแฟ 8 วัน ผ่านเม็ดเงินจำนวน 577 ล้านบาท ต่อตระกูลมหากิจศิริ ด้วยเหตุผลต้องหยุดจำหน่ายเนสกาแฟ ห้ามผลิต และนำเข้าเนสกาแฟชั่วคราวเป็นเวลา 8 วัน ก่อนที่จะหลุดพ้นจากคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่งมีนบุรี ที่ตระกูลมหากิจศิริเป็นผู้เรียกร้อง

โดยเม็ดเงินมูลค่า 577 ล้านบาท ที่เนสกาแฟต้องสูญเสียในเวลา 8 วัน ถือเป็นเม็ดเงินที่มีมูลค่าทางธุรกิจที่น่าสนใจ เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา คดีพิพากษาของเนสกาแฟ สร้างความไม่มั่นใจและเข้าใจผิดให้กับผู้บริโภคในด้านต่าง ๆ เช่น การยุติจำหน่ายในประเทศไทย การหาซื้อยาก และอื่น ๆ ที่อาจจะทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มเปลี่ยนแบรนด์ไป โดยไม่รู้ว่าเนสกาแฟยังคงทำตลาดอยู่

และการเปลี่ยนไปแบรนด์อื่นอาจทำให้ไม่กลับมาเป็นลูกค้าเนสกาแฟอีกครั้ง เนื่องจากติดใจในรสชาติใหม่ไปแล้ว

เพราะถ้ามองไปที่ตลาดกาแฟในบ้าน (รวมกาแฟสำเร็จรูปและกาแฟกระป๋อง) มีมูลค่ามากถึง 33,000 ล้านบาท และเนสกาแฟลงเล่นในทุกกลุ่มเซกเมนต์ที่มี รวมถึงเป็นผู้นำในตลาด 3 in 1 ซึ่งเป็นเซกเมนต์ใหญ่สุด

ที่ผ่านมา ตลาดกาแฟในบ้าน (รวมกาแฟสำเร็จรูปและกาแฟกระป๋อง) แบ่งเป็น

  • 3 in 1 สัดส่วน 49% เนสกาแฟมีส่วนแบ่ง 50%

  • กาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม 31% เนสกาแฟมีส่วนแบ่งตลาด 37%

  • กาแฟผงสำเร็จรูป 14% เนสกาแฟเจาะกลุ่มลูกค้าหลักร้านกาแฟต่าง ๆ

  • กาแฟสุขภาพ 6% เนสกาแฟมีส่วนแบ่งตลาด 10%

และการหายไป 8 วันของเนสกาแฟ นอกเหนือจากการพลาดโอกาสไปช่วงเวลาหนึ่ง ยังมาพร้อมกับความท้าทายในตลาดกาแฟในบ้านหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น

  1. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่หันไปเลือกดื่มกาแฟสดมากขึ้น จากการมองเห็นถึงความหลากหลายของเมนูทั้งร้อนและเย็น ซึ่งกาแฟสดอย่าง 3 in 1 ส่วนใหญ่จะเน้นการชงร้อนเป็นหลัก นอกจากนี้ ผู้บริโภคบางกลุ่มมองว่าภาพลักษณ์ของกาแฟสำเร็จรูป เป็นภาพลักษณ์ที่ไม่พรีเซนต์ตัวตนของผู้ดื่มเท่ากับกาแฟสดที่จำหน่ายตามร้านเครื่องดื่มต่าง ๆ

  2. การแข่งขันของแบรนด์กาแฟด้วยกันเอง ที่ต่างต้องการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดผ่านการกระจายสินค้า ช่องทางการขาย และอื่น ๆ ตามกลยุทธ์ที่แตกต่างกันไป เพื่อเข้าถึงและสร้างรายได้ให้เกิดกับธุรกิจ รวมถึงการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคบางกลุ่มที่หันไปดื่มกาแฟสำเร็จรูปในกลุ่มสุขภาพมากขึ้น เพราะต้องการคุณประโยชน์เฉพาะที่ได้จากการดื่ม เช่น มุ่งเน้นดูแลรูปร่างและสุขภาพ อย่างเนเจอร์กิ๊ฟ, เพรียว

  3. ในส่วนของกาแฟกระป๋องมีความท้าทายจากผู้เล่น โดยเฉพาะกลุ่มกาแฟสดพร้อมดื่ม เช่น แบรนด์ Arabus, Boss ที่เข้ามาแย่งชิงโอกาสจากจุดขายเรื่องความสดของรสชาติที่มากกว่ากาแฟกระป๋องทั่วไป

เพราะการแข่งขันในวันนี้ ความท้าทายรอบด้านนัก


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer