Trends / ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) กำลังเร่งพลิกโฉมเศรษฐกิจครั้งใหญ่ จากเดิมที่พึ่งพาน้ำมันอย่างมากไปสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมขั้นสูง นี่ไม่ใช่แค่ความทะเยอทะยานภายในประเทศ แต่ยังเป็นกลยุทธ์ฉลาดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับ สงครามการค้า รอบใหม่ โดยเฉพาะจากการสั่งตั้งกำแพงภาษีนำเข้าของรับบาลสหรัฐฯ ที่นำมาสู่สงครามการค้ารอบใหม่ จากนั้นก็ต่อฐานการผลิตในเอเชียอย่างจีน เวียดนาม และไทย

สถานการณ์นี้เปิดโอกาสทองให้ประเทศแถบตะวันออกลางผงาดขึ้นมาเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่กำลังมองหาฐานการผลิตที่มั่นคงและได้เปรียบ

เดิมที จีน เวียดนาม และไทย คือฐานการผลิตสำคัญของบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ตั้งแต่ Adidas ไปจนถึง Apple แต่เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการภาษีนำเข้าในอัตราสูง ทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องหาทางปรับตัว ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำกว่า ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เริ่มมาหลายปีแล้วจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน

อย่างไรก็ตาม การซาอุดีอาระเบียและยูเออี เจอกำแพงภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ เพียง 10% เท่านั้น จึงทำให้กลายเป็น “ที่หลบภัย” ที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่ต้องการเลี่ยงภาษีสูงและความไม่แน่นอนทางการค้า

ทั้งซาอุดีอาระเบียและยูเออีต่างมีแผนยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในการกระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจ โดยซาอุดีอาระเบียก็มี “Vision 2030” ที่มุ่งเน้นการเติบโตของภาคการผลิตและอุตสาหกรรมในประเทศ ส่วนยูเออีมี “Operation 300bn” เมื่อปี 2021 ได้มีการตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนภาคอุตสาหกรรมท้องถิ่นต่อรายได้ประชาชาติ (GDP) ให้สูงถึง 300,000 ล้านดีร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ประมาณ 2.66 ล้านล้านบาท)

สัญญาณการลงทุนจากต่างชาติเริ่มปรากฏชัดเจนแล้ว โดยเฉพาะซาอุฯ หลังมีรายงานว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Dell และ HP จากสหรัฐฯ กำลังสำรวจพื้นที่สำหรับสร้างโรงงานใหม่ในซาอุดีอาระเบีย ขณะที่ Lenovo ของจีนก็กำลังสร้างโรงงานประกอบคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์

นอกจากนี้ บริษัท Alat ของซาอุฯ ที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนมหาศาล กำลังร่วมมือกับ SoftBank Group ของญี่ปุ่นในด้านหุ่นยนต์อุตสาหกรรม และยังมีข่าวอีกด้วยว่ารัฐบาลาซาอุฯ กำลังเจรจาทาบทาม Foxconn บริษัทรับจ้างผลิต (OEM) รายใหญ่สุดของ iPhone ให้มาลงทุนในประเทศ

ซาอุฯ และยูเออีจุดแข็งมากมายที่สามารถนำใช้เพื่อดึงดูดการลงทุน เริ่มจาก ทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ไม่ใช่แค่น้ำมัน แต่ยังมีทรัพยากรอื่นๆ อีกมาก ต่อด้วยตลาดภายในประเทศขนาดใหญ่มีกำลังซื้อรองรับสินค้าที่ผลิตในประเทศ ส่วนที่ตั้งยุทธศาสตร์ เป็นสะพานเชื่อมระหว่างเอเชีย แอฟริกา และยุโรป

นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ผ่านโยบายที่ส่งเสริมการกระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจ พร้อมกันนี้ยัง โครงสร้างพื้นฐานที่ดี มีระบบโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ และข้อได้เปรียบด้านภาษี เพราะมีอัตราภาษีต่ำหรือไม่มีภาษี และสกุลเงินท้องถิ่นที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง ทำให้การส่งออกได้เปรียบด้านต้นทุนอีกด้วย

ทว่าในทางกลับกันก็มีความท้าทายอยู่พอสมควร เริ่มจากภาคการผลิตของทั้งสองประเทศยังไม่พัฒนาเต็มที่ เพราะส่วนใหญ่ยังจำกัดอยู่ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับไฮโดรคาร์บอน หากต้องการแข่งขันด้านไฮเทค ต้องสู้กับยักษ์ใหญ่อย่างจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เยอรมนี

ขณะเดียวกันก็ขาดประสบการณ์ เพราะประเทศคู่แข่งมีประสบการณ์ด้านการผลิตมานานหลายทศวรรษ มีโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรที่พร้อมกว่า พร้อมกันนี้ยังมีปัจจัยเชิงลบอื่นๆ เช่น ประเด็นทางวัฒนธรรมที่อาจเกิดขึ้นจากการที่แรงงานต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้ภูมิภาคร้อนขึ้นเร็ว และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์

นอกจากนี้ยังความเสี่ยงของโครงการ โดยแม้จะกระตือรือร้นกับโครงการเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่หลายโครงการก็ยังไม่เกิดขึ้นจริงตามแผน

จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ภาคธุรกิจนอกเหนือจากน้ำมัน (Non Oil) มีส่วนช่วยเพิ่มรายได้ประชาชาติทุกปีรัฐบาลจึงทำให้ซาอุดีอาระเบียและยูเออีกำลังเดินหน้าสร้างโรงงานเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เศรษฐกิจโลก ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้กลุ่มอ่าวขาดเงินทุนในการลงทุนในแผนการใหญ่ และมีการเพิ่มภาษีภายในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อข้อได้เปรียบด้านต้นทุนของเขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆ

ด้วยข้อมูลทั้งหมดจึงกล่าวได้ว่า แม้ซาอุดีอาระเบียและยูเออีจะมีความมุ่งมั่นและมีศักยภาพในการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีแห่งใหม่ของโลก เพราะได้รับประโยชน์จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และเอเชีย แต่เพื่อให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว ต้องผลักดันศักยภาพและความสามารถของประเทศในการเอาชนะความท้าทายภายในและภายนอก รวมถึงต้องมีการบริหารจัดการความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย  / dw

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer