ใครจะคาดคิดว่าแบรนด์รองอย่าง Ford จะกล้าขายรถกระบะรุ่นใหม่อย่าง Ford Ranger RAPTOR คันละ 1.69 ล้านบาท
สถานะของ Ford ณ เวลานี้ไม่ใช่แชมป์ยอดขายรถกระบะ แต่กลายเป็นแชมป์ราคาขายรถกระบะแพงที่สุดในตลาดเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อย
Ford Ranger RAPTOR
ฮีโร่ที่จะปฎิวัติตลาดรถกระบะ
“RAPTOR ถือเป็นรถกระบะที่สุดของเราที่เคยผลิตมา แล้วจะเข้ามาปฎิวัติ ตลาดรถกระบะ ในเมืองไทยอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน” ยุคนธร วิเศษโกสิน ประธาน ฟอร์ด อาเซียน ประกาศในงาน มอเตอร์โชว์ 2018 ที่ผ่านมา
ปฎิวัติครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ราคาขายแพงสุดเพียงอย่างเดียว แต่กระบะคันใหม่ของ Ford กำลังทำในสิ่งที่คู่แข่งไม่ทำ
เพราะนี่คือรถกระบะออฟโรดคันแรกของเอเชียมี4ประตู พื้นที่โดยสารมากกว่ารถกระบะขนของทั่วไป เครื่องยนต์ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร (1,996 ซีซี) ใช้เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ความแรงระดับ 213 แรงม้า
สุดท้ายคือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือกว่ารถกระบะธรรมดาทั่วไปที่วิ่งบนถนน
คำถามที่น่าหาคำตอบมากที่สุดในเวลานี้ คือรถกระบะคันละ 1.69 ล้านบาทของ Ford จะขายใคร หลายคนอาจคิดเช่นนั้นเพราะตลาดรถกระบะที่ใหญ่สุดในบ้านเราคือกลุ่มราคา 5.5 – 6 แสนบาทคิดเป็นสัดส่วน 60% ของ ตลาดรถกระบะ เมืองไทยเลยทีเดียว
แต่…อย่าลืมว่าช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมา Ford เองแทบจะหยุดความเคลื่อนไหวในตลาดรถเก๋งแล้วหันมาทำตลาดรถกระบะอย่างจริงจังจนสร้างยอดขายกระบะในปีที่ผ่านมา 45,533 คันคิดเป็น 80% จากยอดขายทั้งหมดของ Ford
รถกระบะจึงเปรียบเสมือนลมหายใจของ Ford ณ เวลานี้
เพราะฉะนั้นเมื่อ Ford มาจริงจังกับตลาดรถกระบะ ก็ย่อมรู้ว่าในตลาดเมืองไทยยังมีช่องว่างให้ตัวเองเดิน นั้นคือยังมีกลุ่มเศรษฐีชาวไร่และคอรถกระบะระดับไฮโซ ที่ต้องการดีไซน์รถน่าเกรงขาม เทคโนโลยี่ล้ำๆ และสมรรถนะรถที่เหนือชั้นกว่าคู่แข่ง ซึ่ง Ford เลือกจะตอบสนองลูกค้ากลุ่มนี้
แล้ว Ford ก็มาถูกทาง ยอดจอง 2,000 คันกับรถกระบะราคาขายคันละ 1.69 ล้านบาท ก็ทำให้ Ford ยิ้มขึ้นมาได้ทันที เพราะในสถานะแบรนด์รองการจะขายรถกระบะที่ราคาแพงที่สุดในเมืองไทยไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่แบรนด์รองรายอื่นๆ จะทำได้เหมือนตัวเอง (ล๊อตแรก ของ RAPTOR กำหนดส่งมอบไตรมาส 3)
ที่สำคัญแนวรุกรถกระบะพันธุ์ RAPTOR ยังกลายเป็น Item ชิ้นพิเศษที่มาช่วยอัพเกรดแบรนด์รองอย่าง Ford ให้ค่อยๆ ขยับเข้ามาเทียบชั้น Toyota และ Isuzu
แล้วผู้นำตลาดอย่าง Isuzu ไม่คิดที่จะผลิตรถกระบะไฮโซมาชนกับแบรนด์รองอย่าง Ford เหรอ ?
จากการเปิดเผยของผู้บริหาร Isuzu มองว่า Demand ของลูกค้าที่จะควักเงินซื้อรถกระบะราคาระดับ 1.69 ล้านบาทในเมืองไทยมีอยู่ไม่มากน่าจะประมาณ 2-3%
ถึง Ranger RAPTOR จะมียอดจอง 2,000 คันเวลานี้ แต่จะขายได้เพิ่มมากน้อยแค่ไหน คงต้องวิเคราะห์ความลังเลใจของลูกค้าที่จะซื้อกระบะตัวท้อปของ Ford
เหตุผลหลักๆ คือเรื่องราคาขายต่อในตลาดมือสอง เพราะปฎิเสธไม่ได้เลยว่าทั้ง Isuzu และ Toyota ขับแล้วอยากขายต่อเปลี่ยนรถคันใหม่ ราคาไม่ค่อยจะผิดคาดอย่างที่คาดหวังไว้เท่าไร
ผิดกับรถกระบะค่ายแบรนด์รองร่วมถึง Ford ที่ราคาขายต่อทำให้เจ้าของ “บาดเจ็บหนัก” กลุ่มแบรนด์รองรถกระบะจึงถูก 2 ค่ายยักษ์ใหญ่นี้ ดักหน้าดักหลังในความรู้สึกลูกค้าเวลาจะตัดสินใจเลือกซื้อรถกระบะสัก 1 คัน ยิ่งกระบะคันละ 1.69 ล้านบาท คนที่คิดจะซื้อก็ต้องมองไปที่ราคาขายมือสอง
ขณะที่สภาวะตลาดรถกระบะช่วง 3 เดือนแรกปีนี้เติบโตเกือบๆ 11% มียอดขายอยู่ที่ 118,252 คัน สาเหตุของการเติบโต เพราะไตรมาสแรกเป็นช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ หลายคนซื้อรถใหม่ ขับกลับเยี่ยมบ้านเกิด รวมถึงบรรดาค่ายรถเองก็อัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายในงาน Motor Show แบบจัดเต็ม
เมื่อตลาดรถกระบะเติบโตหวือหวาสวนทางกับเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นนับจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2018 จึงเป็นเวลาของการช่วงชิงยอดขายของผู้ผลิตรถกระบะทุกราย
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ