21 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป Nissin จะวางจำหน่ายบะหมี่ถ้วยรสแตงกวาดอง (Cup Noodles Dill Pickle) ตามซูเปอร์มาร์เก็ตและช่องทางออนไลน์ในสหรัฐฯ ตามแผนเพิ่มรสชาติใหม่ต่อเนื่องจากรสอาหารเช้า, สโมร์ส และซุปฟักทอง ก่อนหน้านี้ ที่เรียกเสียงฮือฮาและกระแสตอบรับดีพอสมควร
พริสซิล่า สแตนตัน รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดของ Nissin Foods USA เผยว่า รสแตงกวาดองกำลังมาแรง โดยเฉพาะกับกลุ่ม Gen Z และ Millennial ที่ตามเทรนด์ชิมบน TikTok หลังรสชาตินี้เริ่มมีในเมนูของร้านดังอย่าง Popeyes และ Shake Shack ซึ่งนี่ ยังเป็นการ ข้ามขีดจำกัดเดิมๆ อีกครั้งหลัง Nissin เป็นที่รู้จักจากบะหมี่ถ้วยรสไก่และรสผักอีกด้วย
บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาทางการตลาด Circana วิเคราะห์ว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอาหาร เครื่องดื่ม และขนมรสแตงกวาดองได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ จากหลายเหตุผล โดยหนึ่งในนั้นคือรสชาติที่จัดจ้านของแตงกวาดองสามารถนำไปปรับให้หวานหรือเผ็ดได้ในอาหารหลากหลายชนิด
นอกจากนี้ ใครๆ ก็เคยลองแตงกวาดองมาแล้ว และ มันยังเป็น รสชาติที่คุ้นเคยและเป็นที่ชื่นชอบของ ชาวอเมริกัน ดังนั้น ผู้บริโภคชาวอเมริกันจึงกล้าลองเมนูใดก็ตามที่รสแตงกวาดองมากขึ้น
ด้านข้อมูลจาก Tastewise บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาทางการตลาดอีกแห่งระบุว่า ยอดโพสต์เรื่องแตงกวาดองบนโลกออนไลน์ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกือบ 12% และการเพิ่มเมนูที่มีรสแตงกวาดองก็เพิ่มขึ้น 8% จากปี 2024

บะหมี่ถ้วยรสแตงกวาดองซึ่งราคาขายอยู่ที่ถ้วยละ 1.17 ดอลลาร์ (ราว 43 บาท) นี้ จะช่วยดันยอดขายของ Nissin ในสหรัฐฯ หลังเมื่อปี 2024 ยอดขายโตมากกว่า 20% และตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบซองในสหรัฐฯ ซึ่งในกรอบเวลาเดียวกันโต 7% ท่ามกลางความต้องการในการประหยัดค่าใช้จ่าย และลดค่าอาหารของผู้บริโภคชาวอเมริกันในยุคที่เงินเฟ้อเป็นปัญหาใหญ่

การเติบโตของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในสหรัฐฯ ยังกระตุ้นให้มีแบรนด์ใหม่เข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาด โดย Nestlé ได้นำ Maggi noodles ซึ่งเป็นแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ขายดีที่สุดในอินเดีย เข้ามาทำตลาดในสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกเมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา และมาแบบหลายรส เช่น อินเดียมะสะหร่า บาร์บีคิวเกาหลีรสเผ็ด และ กระเทียมจีนรสเผ็ด
เนลสัน เปน่า หนึ่งในผู้บริหาร Nestlé กล่าวว่า ความต้องการอาหาร รสชาติแปลกใหม่ จากทั่วโลกกำลังเฟื่องฟูในสหรัฐฯ โดยเฉพาะผู้บริโภครุ่นใหม่ ดังนั้นพวกเขาจึงเห็นว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นจืดชืดเกินไป และแทบไม่มีรสชาติเอาเสียเลย
นอกจากนี้ ยังมีการคาดกันว่า มูลค่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในสหรัฐฯ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 2,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 68,400 ล้านบาท) โดยจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในอีก 10 ปีข้างหน้า
ความเคลื่อนไหวของ Nissin ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาดในการจับกระแสและเจาะกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่เปิดรับรสชาติแปลกใหม่ โดยเฉพาะในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของสหรัฐฯ ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาตัวเลือกที่ทั้งประหยัดและหลากหลาย แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดของแบรนด์ใหญ่ๆ ที่พร้อมนำเสนอนวัตกรรมและรสชาติที่แตกต่าง เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งในตลาดที่มีมูลค่ามหาศาลและมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต / cnn
