ตลาดรถอีวีในนอร์เวย์ กลับมามีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอีกครั้ง หลังรถอีวีแบรนด์จีนสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดได้เพิ่มขึ้น เป็น 10% จนสร้างแรงกดดันได้พอสมควรต่อแบรนด์ดังๆ ในอุตสาหกรรมนี้อย่าง Tesla รวมไปถึงแบรนด์อื่นจากประเทศแถบตะวันตก ทั้งในทวีปยุโรปเองและแบรนด์อเมริกัน
ความสำเร็จของแบรนด์รถอีวีจีนในนอร์เวย์ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มีปัจจัยสำคัญหลายประการ เริ่มจากราคาและเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยรถยนต์อีวีจีนหลายรุ่น หลายแบรนด์ มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าคู่แข่ง
ในขณะที่ประสิทธิภาพและเทคโนโลยีของตัวรถก็ทันสมัย จึงจูงผู้บริโภคชาวนอร์เวย์ที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า และเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี
สาเหตุต่อมาคือ นโยบายทางภาษี โดย นอร์เวย์แตกต่างจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปที่เรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์อีวีของจีนเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศ
ดังนั้นการที่นอร์เวย์ไม่มีการเรียกเก็บภาษีดังกล่าว ทำให้รถยนต์อีวีจีนสามารถทำราคาให้น่าซื้อและถูกกว่าแบรนด์คู่แข่ง
อีกสาเหตุคือ รถอีวีจีนได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคชาวนอร์เวย์ดีขึ้นเรื่อยๆ โดย คริสติน่า บู เลขาธิการสมาคมรถอีวีแห่งนอร์เวย์ (NEVA) ระบุว่ามุมมองของผู้ซื้อชาวนอร์เวย์ต่อรถอีวีจีนได้ เปลี่ยนไปมาก
โดยพวกเขาเห็นว่าเป็นรถยนต์ที่มีคุณภาพดี มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ขณะเดียวกันยังมีราคาใหเลือกมากมาย ตั้งแต่รุ่นที่ราคาค่อนข้างถูกไปจนถึงรุ่นที่ราคาแพง ท่ามกลางข้อมูลว่า ปัจจุบันมีรถอีวีแบรนด์จีนขายอยู่นอร์เวย์มากถึงกว่า 20 แบรนด์แล้ว
ส่วนสาเหตุสุดท้ายคือ นอร์เวย์เป็นประเทศที่เปิดรับรถอีวีมากที่สุดในโลก โดยรถอีวีกินสัดส่วนสูงเกือบ 94% ของรถใหม่ และยังเป็นที่รู้กันในวงการรถอีวีว่า นอร์เวย์คือประเทศที่เปลี่ยนผ่านจากรถเครื่องยนต์สันดาปใช้น้ำมันเป็นรถอีวีประเทศแรกๆ ในโลก และปัจจุบันจำนวนรถอีวีมีมากกว่ารถสันดาปใช้น้ำมันแล้ว
ดังนั้นค่ายรถจึงพากันส่งรถอีวีมาขายและเจาะตลาดนอร์เวย์ให้ได้ ประเดิมด้วย MG เมื่อปี 2020 จนล่าสุดปี 2025 ส่วนแบ่งของแบรนด์รถอีวีจีนในนอร์เวย์เพิ่มเป็น 10% ตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น
ฟิลิปเป้ มูโนซ นักวิเคราะห์จาก JATO Dynamics มองว่านอร์เวย์เป็นเหมือนห้องทดลอง สำหรับรถอีวี ในยุโรป เพราะด้วยกฎระเบียบ วัฒนธรรม และขนาดตลาดที่เอื้ออำนวย ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นที่ง่ายกว่าสำหรับแบรนด์ที่ไม่เป็นที่รู้จักที่ต้องการเข้ามาทำตลาดในทวีปยุโรป
นูโนซ ชี้ด้วยว่าการที่นอร์เวย์ไม่มีอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นของตัวเอง ทำให้แบรนด์ต่างชาติสามารถเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดได้ง่ายกว่า โดยไม่ต้องสนใจว่าจะเผชิญคู่แข่งจากแบรนด์เจ้าถิ่น
นอกจากนี้ นอร์เวย์ก็ไม่ได้เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป จึงไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรการหรือนโยบายใดๆ รวมไปถึงขึ้นกำแพงภาษีนำเข้ากับแบรนด์รถจีน ดังที่เป็นอยู่อีกด้วย
ความสำเร็จของแบรนด์รถอีวีจีนในนอร์เวย์จึงเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงศักยภาพในการรุกตลาดที่ใหญ่ขึ้นในประเทศอื่นๆ ของยุโรป
โดยอีกกลุ่มประเทศยุโรปที่ทิศทางของรถอีวีจีนเป็นไปในทางบวกเช่นกันคือ สหราชอาณาจักร หลังมีข้อมูลว่า เมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา รถอีวีใหม่ทุกๆ 1 ใน 10 คันมีการซื้อกันไปเป็นแบรนด์จีนและเพิ่มขึ้น 6% จากเดือนนี้ของเมื่อปี 2024 / cnbc, bbc
