เหนื่อยมาทั้งวัน แต่ทำไมพอจะได้พักผ่อนนอนหลับกลับมีไอเดียบรรเจิดแล่นเข้ามาในหัว

เคยสังเกตไหมว่าก่อนที่เราจะหลับ ความคิดต่าง ๆ กลับพรั่งพรูออกมา ราวกับสมองเฉียบแหลมที่สุดในเวลานั้นของวัน โดยเฉพาะในด้านครีเอทีฟ

ทำไมช่วงเวลาก่อนเข้าสู่ช่วงนิทราจึงเป็นเวลาทองของไอเดีย

ช่วงจังหวะแห่งการเปลี่ยนผ่านระหว่างภาวะตื่นแล้วกำลังจะหลับ เรียกว่า “ภาวะหลับไหล” จิตใจของเราในช่วงนั้นมีอิสระในการปล่อยวางสูง หรือสภาวะสุญญากาศ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความคิดสร้างสรรค์แบบฉับพลันได้

ตลอดวันที่เรารับข้อมูลมามากมาย ช่วงก่อนนอนสมองจะเริ่มจัดระเบียบข้อมูลพวกนั้นโดยอัตโนมัติ ทำให้เกิดการเชื่อมโยงหรือสังเกตเห็นความสัมพันธ์ที่เราไม่เคยคิดมาก่อน

ศิลปินหลายคนอาศัยช่วงจังหวะนี้ในการสร้างผลงานมาสเตอร์พีซของตนเอง ตัวอย่าง แมรี เชลลีย์ ก็เผยว่านวนิยายเรื่อง แฟรงเกนสไตน์ ของเธอก็เกิดขึ้นระหว่างสภาวะนี้เช่นกัน

หรืออย่าง “โบกี้ ไลอ้อน” ก็เคยเล่าว่าเพลงที่ฮิตทั่วเมือง เช่น เพลง ลงใจ แต่งขึ้นตอนที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่น ละเมอแล้วบันทึกไว้

นักวิจัยจาก Paris Brain Institute มูลนิธิวิจัยด้านประสาทวิทยา และแผนกพยาธิวิทยาการนอนหลับที่โรงพยาบาล Pitié-Salpêtrière ในปารีส ได้ศึกษาเกี่ยวกับช่วงต้นของการหลับ (hypnagogia) และพบว่าเป็นช่วงเวลาที่ความคิดสร้างสรรค์สูงมาก โดยอ้างอิงจากแรงบันดาลใจของโทมัส เอดิสัน ที่เคยใช้ช่วงนี้แก้ปัญหาและสร้างไอเดียใหม่ ๆ ได้ดี เขามักนั่งหลับพร้อมถือวัตถุไว้ พอมือคลายแล้ววัตถุตกลงพื้นก็จะตื่นขึ้นมาทันที พร้อมจดไอเดียที่ได้

ตัวอย่างรายงานในบทความ Science Advances เรื่อง Sleep onset is a creative sweet spot เกี่ยวกับการซ่อนกฎลับในโจทย์คณิตศาสตร์ ผู้เข้าร่วม 16 คนจาก 103 คน ไขรหัสได้ก่อนที่จะได้รับโอกาสพักและเข้านอน พวกเขาถูกตัดออกจากการวิเคราะห์ ส่วนที่เหลือในบรรดาผู้เข้าร่วมที่เหลือ 83% สามารถไขโจทย์ได้มากกว่าหลังจากพักแบบ hypnagogic rest นานถึง 20 นาที โดยถือวัตถุไว้ในมือ

ทั้งหมดเป็นเรื่องของคลื่นสมอง เมื่อคุณตื่น สมองจะถูกควบคุมโดย “คลื่นเบต้า” ในเวลานี้ จิตสำนึกของคุณจะถูกจดจ่อและขับเคลื่อนด้วยสิ่งที่คุณอยากทำ เมื่อเราผ่อนคลาย สมองจะเข้าสู่โหมด “คลื่นอัลฟา” และเริ่มเข้าสู่สภาวะการเรียนรู้ขั้นสูง

หลังจากคลื่นอัลฟ่าจะมี “คลื่นเธต้า” (Theta wave) ซึ่งสัมพันธ์กับการฝัน การจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ เป็นคลื่นที่มักเกิดขึ้นในช่วงหลับระหว่างช่วง REM หรือเมื่อเราอยู่ในสมาธิลึก สภาวะจิตที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์นี้สามารถมีอิทธิพลต่อจิตใต้สำนึกของเรา ส่วนใหญ่ตอนเกิดไอเดียดีขณะหลับ มักตรวจพบคลื่นเธต้าระดับสูงด้วย เพราะสมองในช่วงเปลี่ยนจากคลื่นเบต้า (ขณะตื่น) ไปสู่อัลฟาและเธต้า (ช่วงก่อนหลับและฝัน)

เพราะช่วงก่อนนอน โดยเฉพาะตอนที่กำลังจะหลับ สมองเข้าสู่โหมด Default Mode Network (DMN) ซึ่งเปิดให้ความคิดไหลเวียนอิสระ ไร้ความเครียด ไร้สิ่งรบกวน เป็นช่วงที่จิตสำนึกลดบทบาทและจิตใต้สำนึกทำงานมากขึ้น ปล่อยให้ความคิดล่องลอยอิสระ ทำให้เกิดการเชื่อมโยงของข้อมูลที่เรานึกไม่ถึงในช่วงตื่น

เนื่องจากสมองไม่ต้องจัดการกับงานหรือความเครียดแบบตอนกลางวัน จึงมีพื้นที่สำหรับเล่นกับความคิดใหม่ ๆ โดยไม่กลัวผิดพลาดหรือถูกตัดสิน

เคล็ดลับ: ถ้าไอเดียดี ๆ เกิดตอนก่อนนอน

  • วางสมุดจดสักเล่มไว้ข้างเตียง เพื่อจดสารที่หลั่งไหลออกมาก่อนนอน
  • ฝึกทำสมาธิก่อนนอน เพื่อกระตุ้นคลื่นเธต้า
  • ไม่ดูหน้าจอก่อนนอน เพราะแสงสีฟ้าจะไปรบกวนสมองไม่ให้เข้าสู่โหมดผ่อนคลาย

“โหมดการนอนหลับ”

ทุกคนมีจังหวะไอเดียบรรเจิดในแบบของตัวเอง

บางคนช่วงที่สมองแจ่มใสเป็นพิเศษอาจเป็นช่วงอาบน้ำ เดินเล่น ตื่นนอน ดื่มชา แต่ก็มีไม่น้อยที่สมองจะโลดแล่นในช่วงก่อนหลับใหล เพราะจิตใจทำงานต่างกัน บางคนไอเดียพรั่งพรูตอนเช้า บางคนไอเดียพรั่งพรูตอนเที่ยงคืน บางคนสมองแล่นตอนวิ่ง แต่บางคนสมองแล่นตอนอยู่นิ่ง ๆ

แต่การนอนหลับมักถูกมองว่าเป็นการเสียเวลาและสิ้นเปลืองพลังงาน ทั้งที่จริง ๆ จำเป็นต่อประสิทธิภาพการสร้างสรรค์ของสมองมาก การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสร้างสรรค์ Science Advances ต้องนอนหลับอย่างมีคุณภาพจึงจะมีความคิดดี ๆ

 

อ้างอิง : medium, BBC Science Focus Magazine, scienceadvance

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer