Creatrip แพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้เผยว่า ยอดจองโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชาวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึง 17 สิงหาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 

โดยที่เพิ่มมากสุดคือ เวิร์กช็อปทำเครื่องประดับแบบดั้งเดิมของเกาหลีอย่าง โนริแก ที่มียอดจองพุ่งสูงขึ้นถึง 2,133% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อันเป็นผลมาจากการที่ โนริแก ปรากฏอยู่ใน K-pop Demon Hunters หนังแอนิเมชันเกาหลีใต้ที่ดังมากในปีนี้ 

Creatrip ยังรายงานเพิ่มอีกว่า ยอดจองโปรแกรมทำกิมจิที่ศูนย์วัฒนธรรมกิมจิในกรุงโซล เพิ่มขึ้น 45% และ ยอดทริปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวดังๆ ของเกาหลีใต้จากชาวต่างชาติ อย่าง อิมจินกักในเมืองพาจู , อุโมงค์ที่ 3 และหอดูดาวโดรา ก็เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งก็มีสาเหตุมาจาก K-pop Demon Hunters ด้วยเช่นกัน 

สำหรับ K-pop Demon Hunters ผลิตโดยฝ่ายแอนิเมชันของ Sony แต่ Netflix ซื้อมาลงในแพลตฟอร์ม โดยหลังสตรีมเมื่อกลางปีก็โด่งดังอย่างรวดเร็ว จนปัจจุบันขึ้นมาเป็นหนังมียอดวิวสูงสุดในแพลตฟอร์มโดยทะลุ 236 ล้านวิวไปแล้ว 

จากนั้น Netflix ก็ต่อยอดความสำเร็จด้วยการส่งเวอร์ชั่นที่ Sing Along ที่สามารถร้องเพลงจากในหนังตามออกมา และส่งหนังในสร้างกระแสไปฉายตามโรงในสหรัฐฯ เพื่อให้ผู้ชมได้ดูกันบนจอใหญ่ ซึ่งปรากฏว่าก็ครองแชมป์หนังทำเงินได้อีกด้วย 

ขณะที่ตัวเพลงต่างๆ ก็ทยอยขึ้นชาร์ตเพลงทั้งของ Billboard และ Spotify ในอันดับสูงๆ แซงเพลงของวง K-pop ดังๆ ที่มีตัวตนอยู่จริง ทั้ง BTS และ Blackpink 

ท่ามกลางข่าวว่า ทาง Sony กับ Netflix ได้มีการเจรจาเรื่องภาคต่อของ K-pop Demon Hunters กันแล้ว และ Maggie Kang จะยังคงนั่งเก้าอี้ผู้กำกับต่อไป 

ด้านเกาหลีใต้ก็ได้อานิสงส์จาก K-pop Demon Hunters ด้วย โดยก่อนหน้านี้ ยอดขายสินค้าและของที่ระลึกของวงหรือนักร้อง K-pop ในแพลตฟอร์ม อี-คอมเมิร์ซจากลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากนั้นก็ต่อยอดสู่ ยอดจองคอร์สเรียนทำ โนริแก กับ กิมจิ ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว 

จากทั้งหมดเป็นการย้ำว่า เกาหลีใต้ ทำถูกทางแล้วที่ส่งออกวัฒนธรรมตามนโยบายผลักดันอำนาจอ่อน (Soft Power) ซึ่งมี หนัง ซีรีส์ และเพลง เป็นแกนหลัก ตั้งแต่ปลายยุค 90 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ นำเงินเข้าประเทศจากยอดการส่งออกที่เพิ่มขึ้น 

พร้อมช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้เกาหลีใต้ มีความทันสมัยและเป็นแหล่งผลิตคอนเทนต์ระดับโลก ต่อเนื่องไปถึงเป็นต้นแบบความสำเร็จด้านนโยบาย Soft Power ยุคใหม่ที่หลายประเทศจะดำเนินรอยตาม 

อย่างไรก็ตาม ยังมีฝ่ายที่ดูเหมือนจะเจ็บใจ กับสำเร็จของ K-pop Demon Hunters โดยมีรายงานว่า ค่ายแอนิเมชันของ Sony ได้เงินไม่มากจากการขายสิทธิ์ในการเผยแพร่ของหนังให้ Netflix 

แต่ Netflix กำลังต่อยอดทำเงินจากความสำเร็จของ K-pop Demon Hunters ได้อย่างมากมาย ซึ่งในอนาคตอาจส่งผลต่อการอยู่รอดของค่ายแอนิเมชันของ Sony เอง / koreatimes, theguardain


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer