ในวันนี้โลกกำลังเข้าสู่ยุค Cashless Society แต่ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศยังไม่หายไปไหน ตรงกันข้ามกลับยิ่งเต็มไปด้วยการแข่งขันจากหลายทิศทาง ทั้งร้านแลกเงินรายย่อยที่กระจายตัวตามย่านท่องเที่ยว ธนาคารพาณิชย์ที่ขยายบริการบัตร Travel Card และฟินเทคต่างชาติที่มุ่งเข้ามาเจาะตลาดด้วยจุดขายด้านความสะดวกและค่าธรรมเนียมต่ำ

ในบริบทนี้ สิ่งที่ตัดสินการอยู่รอดไม่ใช่ “เรทดีที่สุด” แต่คือ “มาตรฐานและความเชื่อถือดีที่สุด” เพราะลูกค้าที่ต้องการแลกเงินไม่ได้ต้องการเพียงแค่ตัวเลขที่คุ้มค่า แต่ยังมองหาความมั่นใจว่าเงินของพวกเขาปลอดภัยและมีพร้อมให้แลกทุกครั้งที่ต้องการ

ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซุปเปอร์ริช (สีส้ม) คือหนึ่งในผู้เล่นของตลาดที่มีอายุยาวนานกว่า 60 ปี ที่มีการปรับตัวสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น การเป็นร้านแรกที่มีสาขาในห้างสรรพสินค้า และการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อบริการด้านการเงิน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่มีอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ตลอดจนการเปิดบริการโอนเงินไปยังประเทศต่างๆ ผ่านพาร์ตเนอร์ที่จับมือร่วมกันให้บริการ

แม้ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวนิยมใช้ Cashless ผ่านแอปพลิเคชัน บัตรเครดิต เดบิต หรือแม้แต่บัตร Travel Card ในการชำระเงินต่างๆ เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ จนทำให้อัตราการแลกเงินผ่านซุปเปอร์ริช (สีส้ม) มียอดแลกเงินเฉลี่ยแต่ออร์เดอร์เหลือเพียง 20,000 บาทต่อออร์เดอร์ จากในอดีตที่มีการแลกเงินเฉลี่ยออร์เดอร์ละ 100,000 บาท เนื่องจากนักท่องเที่ยวต้องการแลกเงินเพื่อใช้ยามฉุกเฉินเท่านั้น

ซึ่งสิ่งที่ทำให้ซุปเปอร์ริช (สีส้ม) เติบโตด้านมูลค่าแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้น มาจากการมีลูกค้าในจำนวนที่เพิ่มขึ้น ผ่านการขยายสาขา และการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ พร้อมกับรักษาฐานลูกค้าเดิม โดยปัจจุบันลูกค้าเดิมของซุปเปอร์ริชกลับมาเป็นลูกค้าประจำถึง 15% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมด

 

โดยที่ผ่านมาซุปเปอร์ริช (สีส้ม) มีมูลค่าแลกเปลี่ยนรวม ดังนี้

2562 มูลค่าแลกเปลี่ยนรวม 99,022 ล้านบาท

2563 มูลค่าแลกเปลี่ยนรวม 30,512 ล้านบาท (ช่วงโควิด-19)

2564 มูลค่าแลกเปลี่ยนรวม 11,520 ล้านบาท (ช่วงโควิด-19)

2565 มูลค่าแลกเปลี่ยนรวม 57,088 ล้านบาท

2566 มูลค่าแลกเปลี่ยนรวม 82,405 ล้านบาท

2567 มูลค่าแลกเปลี่ยนรวม 94,433 ล้านบาท

คาดการณ์ 2568 มูลค่าแลกเปลี่ยนรวม 98,000 ล้านบาท

 

ในอีก 2 ปีข้างหน้า ปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด มั่นใจว่า ซุปเปอร์ริช (สีส้ม) จะสามารถสร้างยอดมูลค่าแลกเปลี่ยนรวมมากกว่า 100,000 ล้านบาท

 

การไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ ปิยะ วางกลยุทธ์ ในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ  สร้างความถี่ในการใช้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในรูปแบบต่างๆ เพื่อมาชดเชยกับพฤติกรรมการแลกเงินฝากสาขาน้อยลงดังนี้

 

1.Branch Excellence ให้บริการหน้าสาขาแบบครบวงจร ทั้งบริการแลกเงินตราต่างประเทศมากกว่า 34 สกุลเงิน บริการรับและโอนเงินระหว่างประเทศ (Money Transfer) ผ่านเครือข่าย SPEEDSEND โดยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และ MoneyGram ครอบคลุมกว่า 200 ประเทศทั่วโลก

ตลอดจนจับมือกับบริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของแบรนด์ Turtle เปิดร้าน SuperRich Turtle ตามสถานีรถไฟฟ้า เพื่อสร้างความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จนปัจจุบัน ซุปเปอร์ริช (สีส้ม) และ SuperRich Turtle มีสาขารวมกันกว่า 50 สาขา

2.พัฒนา SuperRich Application โฉมใหม่ ให้ลูกค้าใช้งานง่ายและปลอดภัยขึ้น รวมถึงเพิ่มบริการ Real-time FX Rates ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนได้ทันที, Online Booking จองหลายสกุลเงินล่วงหน้า พร้อมการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-KYC และมารับได้ที่สาขา โดยไม่ต้องเสียเวลารอคิว หรือกังวลเรื่องไม่มีสกุลเงินที่ต้องการ, Branch Locator ค้นหาสาขาที่สะดวกที่สุด

 

3.มองเห็นโอกาสจาก Cashless Society ด้วยการออกบริการใหม่ SuperRich Tourist e-Wallet กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะให้บริการภายใน Q4 ของปีนี้

โดยการให้บริการ SuperRich Tourist e-Wallet เป็นการร่วมมือกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ใช้จ่ายผ่าน QR PromptPay ได้เหมือนคนไทย ด้วยการเติมเงินในระบบ e-Wallet ผ่านสมาร์ทโฟน หรือเติมผ่านบัตรเครดิต VISA

 

4.สื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติ ผ่านสื่อต่างๆ ที่ในแต่ละชาติให้ความนิยม เพื่อตอกย้ำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักก่อนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

 

5.สร้างการรับรู้ผ่านมาสคอต “น้องซุปเปอร์”เพื่อเป็นตัวแทนแบรนด์ในการสร้างการจดจำ

 

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันซุปเปอร์ริช 1965 (สีส้ม) ให้บริการลูกค้ากว่า 2.4 ล้านรายต่อปี โดย 50% เป็นชาวต่างชาติ 48% เป็นคนไทย และ 2% มาจากการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยสกุลเงินยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ USD, EUR, JPY, HKD และ TWD

 

 Marketeer FYI

ซุปเปอร์ริช (สีส้ม) ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เริ่มต้นจาก วิบูลย์ และพจมาลย์ ตันติเวชยานนท์ (บิดา มารดาของปิยะ ตันติเวชยานนท์) เปิดร้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศชื่อ “จิตวานิช” ก่อนจะพัฒนาสู่แบรนด์ซุปเปอร์ริชในปี 2508 พร้อมกับใช้สีส้ม เพื่อสื่อถึงความเป็นมงคลเนื่องจากคนจีนนิยมมอบส้มเพื่อเป็นมงคลให้กัน

ส่วนซุปเปอร์ริช (สีเขียว) เป็นธุรกิจของ อภิชัย สุสมาวัตนะกุล น้องของภรรยาวิบูลย์ แยกตัวออกมาเปิดบริษัทของตัวเองในปี 2542


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer