คอสเดนท์ (COSDENT) ยกระดับการออกแบบรอยยิ้ม สู่การมอบประสบการณ์ที่ยากจะเลียนแบบกับ Roadmap แบบ AI-first
แม้ธุรกิจคลินิกทันตกรรมจะมี High barriers for entry แต่เมื่อดูจำนวนแล้วก็มากพอ ๆ กับร้านสะดวกซื้อ โดยในประเทศไทยมีคลินิกทันตกรรมกว่า 7,000 แห่ง มูลค่าตลาดราว 2.4 หมื่นล้านบาท (ช่วงปี 2565–2569) ทันตแพทย์กว่า 18,000 คน และคาดว่าในปี 2025 จะมีอัตราส่วนประชากรต่อทันตแพทย์แตะ 2,500:1 ในปี 2025 ขณะเดียวกัน เทรนด์ผู้บริโภคขยับจาก “ฟอกขาว จัดฟัน” ไปสู่การ Smile Design แบบองค์รวม ส่งผลให้ “ประสบการณ์” กลายเป็นเกมตัดสินผลมากกว่า “การรับบริการทันตกรรมทั่วไป”
‘คอสเดนท์’ (COSDENT) แบรนด์คลินิกทันตกรรมยอดนิยมอันดับหนึ่งในใจคนไทย เลือกยืนบนยุทธศาสตร์ใหม่อย่าง การผสาน คุณภาพทางการแพทย์ ประสบการณ์ลูกค้า และเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าด้วยกัน ภายใต้ปรัชญา “รอยยิ้มของคุณคือผลงานศิลปะชิ้นเดียวในโลก” และยกระดับด้วย AI เพื่อทำ Hyper-Personalized Experience ทั้งฝั่งทีมงานและคนไข้ เปลี่ยนจาก “รอคนไข้มาหา” เป็น “ยกคลินิกไปอยู่ในมือผู้คน”

เมื่อทักษะคือรากฐาน แต่ “ประสบการณ์” คือหมัดน็อก
“ปีที่ผ่านมา ใครบอกว่าง่าย คุณเก่งมาก เพราะมันคือปีทดสอบฝีมือของจริง” คุณแซม-สรรเสริญ เกียรติเวชสุนทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอสเดนท์ จำกัด สรุปสั้น ๆ แต่ถึงแรงกระแทกจากเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลง และสภาพการแข่งขันที่ไม่ได้แค่ “เพิ่มคู่แข่ง” หากแต่ ลอกเลียนแบบได้ง่ายขึ้น
คำว่า “ออกแบบรอยยิ้ม” จากเดิมที่คอสเดนท์เป็นผู้บุกเบิกถูกนำไปใช้ในวงกว้างจนมาตรฐานคลอนแคลน การทำวีเนียร์ถูกดั้มพ์ราคาลงมีตั้งแต่ล่างถึงบน จนผู้บริโภคสับสน และที่ปลายทางคือ เคสแก้งาน ที่คลินิกมาตรฐานต้องรับช่วงต่อ
“คอสเดนท์ จึงยืนยันหลักคิดเดิมให้ชัดกว่าเดิม ทักษะทางการแพทย์คือมาตรฐานที่ “ต้องทำได้อยู่แล้ว” แต่ตัวแปรที่สร้างความต่างจริงคือ ประสบการณ์ ที่ลูกค้าสัมผัสได้ตั้งแต่หน้าจอมือถือ สู่หน้าร้าน และต่อเนื่องหลังการรักษา”
เทรนด์ที่เปลี่ยน จาก “ฟันขาว” สู่ “บุคลิกภาพที่ออกแบบได้”
คุณแซมเล่าถึงเทรนด์การดูแลช่องปากในยุคนี้ให้ฟังว่า สิบปีก่อน ผู้บริโภคจำนวนมากรู้จักเพียงการฟอกสีฟันเพื่อความมั่นใจ วันนี้การดูแลช่องปากก้าวไปไกลกว่านั้น Smile Design คือการออกแบบองค์รวมที่ประสาน เฉดสี รูปร่าง สัดส่วนฟัน ให้สอดคล้องกับโครงหน้า บุคลิก เป้าหมายชีวิต และงานอาชีพ
“บางเคสต้องการ “ดูเด็กลง” บางเคสต้อง “ดูโตขึ้น/มืออาชีพขึ้น” การออกแบบที่ “ใช่” จึงไม่ใช่สูตรสำเร็จ หากคือ ดีไซน์เฉพาะบุคคล ที่ทำงานร่วมกับแพทย์จริง”

สรุป 5 กลยุทธ์สำคัญของคอสเดนท์
1) Positioning: จากคลินิกสู่ “สตูดิโอออกแบบบุคลิกภาพ”
ภายใต้ปรัชญา “รอยยิ้มของคุณคือผลงานศิลปะชิ้นเดียวในโลก” “คอสเดนท์ ริ่มต้นด้วย Data-Driven Insights เพื่อแปลข้อมูลทางคลินิก ความต้องการ ไลฟ์สไตล์ และบุคลิกภาพ ให้เป็นแผนรักษาที่ เฉพาะตัว จึงไม่ใช่เพียง “สวย” แต่ “ใช่” สำหรับเจ้าของรอยยิ้มคนนั้นจริง ๆ
2) Product & Innovation: “คลินิกในมือคุณ” (Web App) และ “Tooth Age Scan” ด้วย AI
COSDENT ยกประสบการณ์เริ่มต้นไปไว้ในมือถือ
- Web App ล่าสุด เปิดให้ถ่ายภาพรอยยิ้มตามคำแนะนำ ระบบ AI วิเคราะห์เบื้องต้นและส่งผลประเมินพร้อมคำแนะนำจากทีมแพทย์แบบ personalized ทลายกำแพง “เขิน-กลัว-ไม่มีเวลา” ก่อนเข้าพบหมอ
- Tooth Age Scan เทคโนโลยี AI ที่ (ถูกเปิดตัวเป็นรายแรกในไทยของคลินิก) ใช้การสแกนโครงสร้างและเฉดสีฟันอย่างละเอียด โดยไม่ต้องสัมผัส แล้วประมวลผลร่วมกับทันตแพทย์ เพื่อชี้ให้เห็นว่า ไลฟ์สไตล์ การดูแล และสภาพฟันที่ผ่านมา ส่งผลต่อ “อายุฟันจริง” อย่างไร กลายเป็น เครื่องมือวินิจฉัยเชิงการสื่อสาร ที่ทำให้คนไข้ “เข้าใจตัวเอง” และวางแผนฟื้นฟูได้ตรงจุดยิ่งขึ้น
3) Operating Model: ทีมมัลติสเปเชียลติ + ผู้ช่วยส่วนตัวหนึ่งต่อหนึ่ง
อุตสาหกรรมนี้ไม่ใช่ one-man show อีกต่อไป คลินิกหนึ่งต้องรวมทีมแพทย์/ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา คอสเดนท์ จึงพัฒนา AI-driven assistant สำหรับทุกบทบาท สรุปงานรายวัน แจ้งสิ่งที่ต้องโฟกัส เชื่อมงานข้ามแผนกแบบเรียลไทม์ เพื่อ คืนเวลาให้ทีมไปอยู่กับคนไข้มากที่สุด ขณะที่คนไข้เองก็มีผู้ช่วยส่วนตัวคอยดูแล แจ้งนัด เตือนเมื่อถึงเวลาตรวจเช็คสุขภาพช่องปาก
ข้อมูลทั้งหมดเก็บบน Cloud ของคอสเดนท์เอง คุมความปลอดภัยและสิทธิ์การลบได้ ระบบถูกออกแบบเป็น on-top layer ที่ plug-in กับซอฟต์แวร์คลินิกมาตรฐานผ่าน API รองรับการขยายข้ามสาขาและพาร์ตเนอร์ในอนาคต
“เราผลักดันให้ทีม “คุ้นชินกับ AI” ผ่านการใช้งานจริงในงานประจำวัน เป้าหมายไม่ใช่แทนที่คน แต่คือ คืนเวลาให้คน ไปทำสิ่งที่เครื่องมือทำแทนไม่ได้เพื่อให้ทุกคนโฟกัส ‘คนไข้’ ได้มากขึ้น”
4) Go-to-Market: โฟกัสกลุ่มรายได้คุณภาพ และ Educate ตลาดอย่างต่อเนื่อง
ปีล่าสุด รายได้ของคอสเดนท์ก้าวผ่านหลักร้อยล้านบาท กลุ่มลูกค้าหลักคือ Gen Y/Gen X อายุ 35–55 ปี (ผู้ประกอบการและอินฟลูเอนเซอร์/ผู้ต้องการเสริมความมั่นใจ) ปริมาณผู้ใช้บริการ เฉลี่ย 120–150 คน/เดือน กลยุทธ์การตลาดจึงเน้น Educate & Experience จากออนไลน์สู่หน้าร้าน ให้ลูกค้าได้ “ลอง-เห็น-เข้าใจ” ก่อนตัดสินใจ ลดช่องว่างความคาดหวัง และย้ำมาตรฐาน
5) Regional Play: Medical Aesthetics Tourism ระดับไฮเอนด์
ก้าวถัดไปคือจับตลาดต่างชาติ โดยเฉพาะ ยุโรประดับไฮเอนด์ ใช้ข้อได้เปรียบของไทยด้าน “คุณภาพเทียบราคา” ทดลองรูปแบบบริการในตลาดนอกก่อน หากเวิร์กจึง ย้อนกลับมาปรับใช้ในไทย อย่างมั่นใจ เป็นการเติบโตที่ “กว้าง” โดยไม่ต้องพึ่ง “จำนวนสาขา”

“สิ่งที่คอสเดนท์ย้ำมาตลอดคือ “ยึดคนไข้เป็นศูนย์กลาง ไม่หยุดพัฒนา และไม่ประนีประนอมต่อมาตรฐาน” เราเดินหน้าสร้าง Digital Dental Ecosystem ที่ครบวงจร ผสาน AI การดูแลเฉพาะบุคคล ความสะดวกไร้รอยต่อ และนำฟีดแบ็กของลูกค้าเข้าสู่ R&D อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานทั้งองค์กร และทั้งอุตสาหกรรม
ในปีนี้ คอสเดนท์ ยังคงเป็น No.1 Brand Thailand แบรนด์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของคนไทยทั่วประเทศประจำปี 2568 ในหมวด “คลินิกทันตกรรม” (Dental Clinic) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
“เราการันตีไม่ได้ว่าจะเป็นเบอร์หนึ่งตลอดไป แต่ยืนยันว่าจะ “ไม่ยอมแพ้” และจะพัฒนาประสบการณ์ให้ดีขึ้นต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือ ความจริงใจต่อคนไข้ และการ ยึดคนไข้เป็นศูนย์กลาง” คุณแซมกล่าวทิ้งท้าย
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
