ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง หรือ Energy Drink ในประเทศไทย โดยการเติบโตของตลาดส่วนหนึ่งมาจากการแข่งขันของแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างฐานรายได้จากเครื่องดื่มชูกำลังกลุ่มแมส เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้ใช้แรงงาน พร้อมกับขยายโอกาสไปยังเครื่องดื่มชูกำลังกลุ่มพรีเมียม ผ่านสินค้า นวัตกรรม แคมเปญการตลาด และพรีเซ็นเตอร์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะ Gen Z และกลุ่มวัยทำงาน

โดยในปีนี้ การแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังยังคงขับเคี่ยวอย่างต่อเนื่อง จากการทำตลาดอย่างต่อเนื่องของแบรนด์หลัก 3 แบรนด์ ได้แก่ M-150, คาราบาวแดง และกระทิงแดง เพื่อคาดหวังการเติบโตทางด้านรายได้และส่วนแบ่งตลาด
สำหรับ M-150 ในปีนี้ยังคงรักษาผู้นำตลาดผ่านกลยุทธ์บุกตลาดเครื่องดื่มชูกำลังกลุ่มแมส และพรีเมียมควบคู่กันไป ซึ่งประกอบด้วย
-กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังแมส M-150 เดินหน้ากลยุทธ์ด้านราคา โดยส่ง M-150 ฝาเหลืองลิมิเต็ดอิดิชั่นในราคา 10 บาท เข้ามาเสริมตลาด เพื่อมุ่งขยายฐานผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าด้านราคา และแข่งขันกับเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์อื่นที่ยังจำหน่ายในราคา 10 บาท
ตลอดจนจับมือกับไททศมิตร สื่อสารผ่าน Music Marketing เพลง “ใจเกินร้อย” ในการตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ และขยายไปยังฐานแฟนคลับไททศมิตร เพื่อคาดหวังการเติบโต 5% ในปีนี้
-M-150 ยังคงให้ความสำคัญกับเครื่องดื่มชูกำลังกลุ่มพรีเมียม “M-150 Sparkling” ด้วยการสื่อสารผ่านพี่จอง และคัลแลน ขยายฐานลูกค้าเข้าถึงกลุ่ม Gen Z และ Millennial อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตให้กับ M-150 Sparkling มากถึง 30% ในปีนี้
ขณะที่คาราบาวแดงยังคงเดินเกมการตลาดในเครื่องดื่มชูกำลังกลุ่มแมส ผ่านกลยุทธ์ตรึงราคา 10 บาทเป็นหลัก พร้อมกับขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ด้วยการจับมือคู่ค้ารายย่อยใหม่ ๆ เพื่อขยายเครือข่ายครอบคลุมลงลึกไปยังระดับอำเภอและตำบลมากขึ้น
ในส่วนกระทิงแดง เดินเกมขับเคลื่อนตลาดที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
-กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังระดับแมส ได้ปรับเปลี่ยนฉลากดีไซน์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น พร้อมกับแต่งตั้ง แบมแบม–กันต์พิมุกต์ ภูวกุล และโจอี้–ภูวศิษฐ์ อนันต์พรสิริ เป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์กระทิงแดงให้มีความทันสมัย และขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังฐานแฟนคลับของทั้งสองศิลปิน ผ่านหนังโฆษณา และ Music Marketing ผ่านเพลงพิเศษ “วัดใจ” เข้ามาสร้างความรับรู้มากขึ้น
-ในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังพรีเมียม ได้เปิดตัวรสชาติใหม่ พร้อมสื่อสารการตลาดผ่านแบมแบม–กันต์พิมุกต์ ภูวกุล เพื่อเข้าถึงฐานแฟนคลับในกลุ่ม Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่ Red Bull ต้องการขยายฐานลูกค้าออกไป จากเดิมที่กลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่ม 18–35 ปี
-Collab กับกาแฟพันธุ์ไทย ออกเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมจากกระทิงแดง 4 เมนู เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังคนรุ่นใหม่ พร้อมกับสร้างสีสันให้กับแบรนด์ พร้อมประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในการดื่มกระทิงแดงอีกทางหนึ่ง
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังไทยยังคงเป็นสมรภูมิที่ไม่มีทีท่าจะชะลอ แต่กลับยิ่งร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จากกลยุทธ์การตลาดที่เข้มข้นของผู้เล่นหลักทั้งสามราย ซึ่งต่างก็เดินหมากในมิติของตัวเอง เพื่อรักษาและเพิ่มส่วนแบ่งตลาด และผลักดันให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้
