ไปรษณีย์ไทยและกรมประมงร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อส่งเสริมการส่งออกสัตว์น้ำสวยงามของไทยสู่ตลาดโลก ผ่านการส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามไปยังต่างประเทศด้วยเครือข่ายไปรษณีย์เป็นครั้งแรก

คุณบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ตลาดสัตว์น้ำสวยงามโลกมีมูลค่าสูงถึงกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยประเทศไทยมีส่วนแบ่งการส่งออกปลากัดและสัตว์น้ำสวยงามประมาณ 11% คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะปลากัดที่มีมูลค่าถึง 40% ของการส่งออกทั้งหมด 

ปัจจุบันประเทศไทยมีเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงามที่ขึ้นทะเบียนกว่า 10,000 ราย ในปี 2024

กรมประมงจึงร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรไทยสามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้มากขึ้นผ่าน ‘โครงการส่งเสริมสัตว์น้ำสวยงามไปต่างประเทศทางไปรษณีย์’

ดร. ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า โครงการส่งเสริมสัตว์น้ำสวยงามไปต่างประเทศทางไปรษณีย์ มุ่งเน้นการช่วยเกษตรกรรายย่อยที่อาจมีข้อจำกัดในการขนส่ง 

ไปรษณีย์ไทยได้วางระบบบริการแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง โดยมีจุดรับฝากเฉพาะ มีบริการจัดการเอกสารให้ และมีบรรจุภัณฑ์พิเศษสำหรับสัตว์น้ำ พร้อมระบบติดตามสถานะพัสดุได้ตลอดเส้นทาง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อทั่วโลก 

ทั้งทำให้ไปรษณีย์ไทยสามารถรวบรวมสินค้าจากเกษตรกรรายย่อย เพื่อทำราคาให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และจะไม่ให้แพงกว่าราคาที่ฟาร์มขนาดใหญ่ใช้ในการส่ง โดยเกษตรกรรายย่อยสามารถส่งได้แม้เพียง 2-3 ชิ้น

ซึ่งก่อนหน้านี้ ไปรษณีย์ไทยได้ทดลองให้บริการส่งสัตว์น้ำในประเทศ และประสบความสำเร็จด้วยยอดจัดส่งกว่า 110,000 ชิ้น ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิงหาคม 2025

บริการส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามไปต่างประเทศ ซึ่งรองรับสัตว์น้ำสวยงามตามมาตรฐานการเพาะเลี้ยงระดับส่งออกจากการกำกับดูแลโดยกรมประมง จะเริ่มเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2025 ณ ไปรษณีย์จังหวัดนครปฐมเป็นแห่งแรก ซึ่งเป็นจังหวัดที่นิยมเพาะเลี้ยงปลากัดในจำนวนมากที่สุดของไทย โดยในระยะแรกจะเน้นการขนส่งไปยัง 5 ประเทศ ที่มีการส่งออกสัตว์น้ำสวยงามไปมาก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, จีน, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, อินโดนีเซีย

ในอนาคต ไปรษณีย์ไทยยังมีแผนที่จะขยายประเทศปลายทางเพิ่มเติมตามความต้องการของตลาด โดยวางออสเตรเลียเป็นเป้าหมายถัดไป

ไปรษณีย์ไทยคาดการณ์ว่าโครงการนี้จะสร้างรายได้ให้บริษัทประมาณ 40-50 ล้านบาทต่อปี ในเบื้องต้น ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการช่วยสร้างภาพลักษณ์ของไทยให้เป็นศูนย์กลางสัตว์น้ำสวยงามในระดับโลกต่อไป

คุณบัญชา สุขแก้ว กล่าวเสริมว่า กรมประมงจะเริ่มต้นการทำงานกับเกษตรกรและผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงที่สนใจใช้บริการส่งด่วนสัตว์น้ำสวยงามไปยังต่างประเทศผ่านไปรษณีย์ไทย ในจังหวัดที่มีการเลี้ยงจำนวนมากก่อน เช่น นครปฐม, ราชบุรี, สุพรรณบุรี 

ความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมการสนับสนุนด้านวิชาการและกฎหมาย โดยกรมประมงจะให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงตามมาตรฐาน การขึ้นทะเบียน และการออกเอกสารรับรองสุขภาพสัตว์น้ำ เพื่อให้การส่งออกเป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานสากล 

สำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถติดต่อสำนักงานประมงจังหวัดเพื่อขึ้นทะเบียนกับกรมประมง และดำเนินการขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก ซึ่งทางไปรษณีย์ไทยจะร่วมกับกรมประมงจัดเวิร์กชอปให้ความรู้เพื่อเตรียมความพร้อมแก่เกษตรกรต่อไป


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer