ถ้าคุณไม่ใช่คนที่ร่าเริง มีพลังเหลือล้น ชอบเข้าสังคมอยู่เป็นนิจ หรือในทางตรงกันข้ามไม่ใช่คนเก็บตัว เลี่ยงการพบปะกับสังคม อยู่ตัวคนเดียว ถ้าคุณไม่ใช่คนในสองแบบนี้เพียงแต่อยู่กึ่งกลางนี้ก็อาจเข้าข่ายคำว่าการเป็นคน Otrovert
Otrovert คืออะไร?
คำศัพท์ที่เพิ่งบัญญัติขึ้นใหม่นี้ใช้เรียกคนที่เป็นคนที่อยู่ตรงกลางระหว่าง introvert กับ Extrovert (ตามที่นำมาจาก Otherness Institute)
Otrovert มาจากภาษาสเปน (ซึ่งสืบทอดมาจากภาษาละติน) คำว่า “otro” แปลว่า “อื่น” และ “vert” มาจากภาษาละติน แปลว่า “หัน” ในคำว่า “ทิศทาง”
คำว่า Otrovert จึงแปลว่า “ผู้ที่หันหน้าไปในทิศทางที่ต่างออกไป”
ลักษณะของ Otrovert
คือผู้ชอบอยู่ในสังคมแบบเท่าที่จำเป็น แต่ไม่ได้มีปัญหาในการเข้าสังคม โดยปกติก็เป็นคนอัธยาศัยดี เข้ากับคนง่าย แต่ไม่ได้เปิดกว้างให้ใครเข้ามาก็ได้ขนาดนั้น หลีกเลี่ยงภาระผูกพันทางสังคมที่ไม่จำเป็น
บ่อยครั้งที่คนกลุ่มนี้อาจถูกมองว่า “ห่างเหิน” หรือ “ระมัดระวัง” ในการเข้าสังคม หรือบางทีอาจถึงขั้นเป็นคนที่ “คาดเดาไม่ได้” เพราะพวกเขาสามารถเปลี่ยนไปมาระหว่าง introvert และ extrovert ได้เสมอ
อย่างไรก็ดี แม้ไม่ชอบการพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ หรือมีวงสังคมที่กว้างขวาง แต่พวกเขาก็มีปฏิสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งและจริงใจแบบตัวต่อตัว
Otrovert เป็นคนรักอิสระที่จะสร้างสรรค์ คิด และระบายสีนอกกรอบ เป็นนักสังเกตการณ์ นักคิดอิสระ เน้นเติมพลังให้ตัวเอง จึงเป็นที่มาของคำนิยามว่า otrovert คือ “คนนอกรีตผู้อ่อนโยน”
จะไม่สนใจเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ไม่ถูกยอมรับก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ได้วัดคุณค่าของตนเองจากคำพูดของคนอื่น สามารถพึ่งพาตนเองทางอารมณ์ได้ ไม่แสวงหาการยอมรับจากคนภายนอก คนกลุ่มนี้จึงค่อนข้างเข้มแข็งทางจิตใจ ไม่หวั่นไหวกับคำพูดของสังคม
หากถามคนกลุ่มนี้ว่า ‘มองตัวเองเป็น introvert หรือ extrovert’ พวกเขามักจะตอบว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกเป็นคนกลุ่มไหนเลย ไม่ขึ้นตรงกับกลุ่มใด มองทุกอย่างเป็นปัจเจกบุคคล ไม่ได้มองว่าการเป็น introvert หรือ extrovert นั้นผิดอะไร
พยายามทำตัวเหมือนมนุษย์ล่องหน ไม่โดดเด่นเตะตาแต่อยู่รอดในสังคมได้ ซึ่งผลดีของการเป็น Otrovert ยังช่วยให้สุขภาพจิตดี เพราะไม่ต้องไปคอยคิดมากกับคำพูดของคนอื่น
