วันนี้ “วันกาแฟสากล” (International Coffee Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี โดยหากมองมายังตลาดกาแฟในประเทศไทย พบว่ายังคงแสดงศักยภาพเติบโตต่อเนื่องสวนกระแสภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ในความท้าทาย

| วันกาแฟสากล
ตลาดกาแฟในไทยแสนล้าน Specialty Coffee ชงดื่มสนุก |
||
| มูลค่าตลาดกาแฟในไทย ครอบคลุมกลุ่มกาแฟชงและกาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่ม | ล้านบาท | |
| ปี 2025 | 114,917 | |
| ปี 2026 | 118,433 | |
| ปี 2027 | 121,949 | |
| สัดส่วนตลาดปี 2025 | ตลาดกาแฟนอกบ้าน หรือจากร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม
มูลค่าตลาดราว 88,589 ล้านบาท |
ตลาดกาแฟในบ้านรวมถึงกาแฟสำเร็จรูปและกาแฟกระป๋อง
มูลค่าตลาดราว 26,089 ล้านบาท |
| Marketeer FYI: ปัจจุบันคนไทยมีการบริโภคกาแฟเฉลี่ย 340 แก้วต่อคนต่อปี หรือคิดเป็นเฉลี่ยประมาณ 1.7 แก้วต่อคนต่อวัน | ||
| อัตราแลกเปลี่ยน 1 USD = 32.45 บาท | ||
| ที่มา: Statista, International Coffee Organization / ตุลาคม 2025 | ||
อ้างอิงข้อมูลจาก “Statista” มูลค่าตลาดกาแฟในประเทศไทย ครอบคลุมกลุ่มกาแฟชงและกาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่ม อยู่ที่กว่าแสนล้านบาท คาดการณ์การเติบโตระหว่างปี 2025-2030 ขยายตัวเฉลี่ยปีละ 3.06%
ตลาดการบริโภคนอกบ้าน เชนร้านกาแฟยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญ ขณะที่ร้านกาแฟอิสระกำลังปรับตัวรับการแข่งขันที่สูงด้วยการใช้จุดเด่นด้านคุณภาพกาแฟและประสบการณ์ที่แตกต่างมาดึงดูดผู้บริโภค ตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยนจากการดื่มกาแฟสำเร็จรูปไปสู่การดื่ม “กาแฟสด” (Fresh Coffee) และ “กาแฟพิเศษ” (Specialty Coffee) มากขึ้น
โดยตลาดกาแฟในไทยแสนล้าน สามารถแบ่งเป็นตลาดกาแฟพรีเมียม 20,000 ล้านบาท และในจำนวนนี้เป็นตลาดกาแฟพิเศษอยู่ 2,000 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของตลาดรวม ซึ่งแม้จะยังเป็น niche market แต่กาแฟพิเศษมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 25% ทุกปี เพราะผู้บริโภคให้คุณค่ากับคุณภาพกาแฟมากขึ้น
อีกทั้งธุรกิจกาแฟในปัจจุบัน ไม่ได้ขายแค่เครื่องดื่ม แต่เป็นการขายประสบการณ์ ความสร้างสรรค์ และเรื่องราวของเมล็ดกาแฟ ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ร้านอิสระสามารถเติบโตได้แม้ในภาวะการแข่งขันที่รุนแรง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตลาดกาแฟในไทยจะมีการขยายตัวจากการบริโภค แต่ก็ยังมีความท้าทายในภาคอุตสาหกรรมการผลิต
ปัจจุบัน คนไทยมีความต้องการบริโภคกาแฟมากกว่า 90,000 ตัน แต่สามารถผลิตกาแฟได้เพียง 30,000 ตัน ทำให้ต้องนำเข้ากาแฟอีก 60,000 ตันจากต่างประเทศ ทั้งการผลิตนั้นเป็นส่วนของการผลิตกาแฟพิเศษได้ 6,000 – 7,000 ตัน ของทั้งหมด 30,000 ตัน ไทยจึงยังต้องพึ่งพาการนำเข้าเมล็ดกาแฟในมูลค่าที่สูงกว่าการส่งออกหลายเท่าตัว
ทั้งนี้ การเติบโตของตลาด Specialty Coffee เป็นแรงกระตุ้นให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟไทยมีการพัฒนาสายพันธุ์และปรับปรุงคุณภาพเมล็ดกาแฟให้ได้มาตรฐานสากลมากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับกาแฟไทยทั้งในตลาดภายในและต่างประเทศ
ซึ่งการฉลองวันกาแฟสากล นับเป็นโอกาสสำคัญในการตอกย้ำให้ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมกาแฟไทย ตั้งแต่เกษตรกร ผู้ผลิต ไปจนถึงผู้ประกอบการร้านกาแฟ ได้ร่วมกันพัฒนาและยกระดับคุณภาพของกาแฟไทย เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
