ทุกต้นปีคนไทยจำนวนมากตั้งเป้าหมายเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะเป็น “อยากเที่ยวให้มากขึ้น” “อยากดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น” หรือ “อยากจัดการการเงินให้ดีขึ้นกว่าเดิม” แต่เพียงไม่กี่เดือน เป้าหมายเหล่านั้นกลับค่อยๆ เลือนหายไปจากชีวิตประจำวัน ผลสำรวจทั้งในไทยและต่างประเทศสะท้อนชัดว่า มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ทำเป้าหมายปีใหม่สำเร็จจริง ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องวนกลับมาตั้งเป้าเดิมซ้ำอีกทุกปีใหม่

ปีนี้จะต่างออกไปได้อย่างไร? คำตอบอาจไม่ใช่แค่ “ตั้งเป้าใหม่” แต่ต้องมี วิธีทำให้สำเร็จจริง และนี่คือแนวทางที่จะช่วยให้คุณหลุดจากลูปเดิม พร้อมเริ่มต้นปีใหม่อย่างมีระบบและมั่นใจ

3 เป้าหมายยอดนิยมที่คนไทยตั้งไว้ทุกต้นปี

  1. อยากเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น
    กว่า 57% ของคนไทยตั้งเป้าอยากเดินทางทั้งในและต่างประเทศ สะท้อนความต้องการ “ออกไปใช้ชีวิต” หลังผ่านช่วงโรคระบาดและเศรษฐกิจผันผวน ทำให้การท่องเที่ยวขึ้นแท่นเป้าหมาย ไม่ว่าจะเที่ยวในประเทศหรือบินลัดฟ้าไปต่างประเทศ
  2. อยากดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น
    ประมาณ 54% ตั้งใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ทั้งออกกำลังกาย ปรับอาหาร นอนหลับให้เพียงพอ หรือดูแลสุขภาพจิต แม้ในปี 2566 สัดส่วนผู้ที่ทำกิจกรรมดูแลสภาพร่างกายอย่างเพียงพอ จะมีตัวเลขสูงขึ้น แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายในหลายกลุ่มวัย สะท้อนว่านี่คือความท้าทายที่ต้องทำให้สำเร็จจริง
  3. อยากจัดการการเงิน/ลงทุนให้ดีขึ้น
    อีก 41% ระบุว่า อยากปรับปรุงการเงินของตัวเอง ทั้งการวางแผนใช้จ่าย การออม และการลงทุน แต่รายงานของ สสส. และบทวิเคราะห์หลายฉบับสะท้อนว่า พฤติกรรมการออมของคนไทยมีแนวโน้มลดลง และคนจำนวนมากยังไม่มีเงินออมสำหรับวัยเกษียณแปลว่าคนไทย “ตั้งเป้าเรื่องการเงินเยอะ แต่ทำสำเร็จจริงยังไม่มากเท่าที่ควร”

แม้ข้อมูลจากต่างประเทศจะชี้ว่าเกือบ 80–90% ของคนที่ตั้งปณิธานปีใหม่ ทำไม่สำเร็จและ มีเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่ทำได้จริง แต่สถานการณ์ในไทยก็สะท้อนภาพเดียวกัน  ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายสุขภาพที่มักล้มเหลว เพราะคนไทยจำนวนมาก “ขยับตัวน้อยเกินไป” ติดภาระงานและไลฟ์สไตล์ที่นั่งติดโต๊ะ หรือเป้าหมายการเงินที่ยังน่าห่วง เพราะคนรุ่นใหม่จำนวนมาก “ออมได้น้อย ไม่สม่ำเสมอ และไม่มีเงินสำรองเพียงพอ” เพราะ สิ่งที่อยากทำกับ สิ่งที่ทำได้จริงยังไม่สมดุล เป้าหมายปีใหม่จึงกลายเป็นเรื่องตั้งซ้ำทุกปี

 จะทำอย่างไร? ให้ปีใหม่ที่จะถึงนี้ ไม่ต้องตั้งเป้าซ้ำเดิม

1.     เปลี่ยนจากฝันใหญ่ให้เป็นเป้าหมายย่อยที่วัดผลได้ เช่น เดิน 8,000 ก้าวต่อวัน” หรือ “ออม 10% ของรายได้ทุกเดือน”

2.     ทำให้เป้าหมายเป็นไลฟ์สไตล์ เช่น จองคลาสออกกำลังกายล่วงหน้า หรือวางระบบหักเงินออมอัตโนมัติ

3.     ใช้ระบบสนับสนุนแทนแรงใจล้วน เช่น กลุ่มเพื่อน แอปติดตามการเงิน หรือสิทธิพิเศษที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย


ที่มา : เคทีซี


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer