ปีหน้า “เอสซีบี อบาคัส” เตรียมเข็นบริการออกมาอีก 4-5 บริการ

เอสซีบี อบาคัส เป็นปลื้มบริการแรก “โปรเพื่อคุณ (My Deals)” มีผลตอบรับดีเกิดคาด ปีหน้าเตรียมเข็นบริการออกมาอีก 4-5 บริการ เชื่อ AI มาแรง ทุกธุรกิจพร้อมปรับมาใช้

ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด (SCB Abacus) กล่าวว่า นับตั้งแต่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เอสซีบี อบาคัส ซึ่งตั้งขึ้นมาเป็นบริษัทย่อยของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มีเป้าหมายในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) มาปรับพัฒนาเป็นบริการทั้งภายในและภายนอกองค์กร

โดยผลงานแรกที่ออกมาคือ “โปรเพื่อคุณ (My Deals)” ฟีเจอร์ใหม่ในแอปพลิเคชั่น เอสซีบี อีซี่ (SCB EASY) ที่รวบรวมข้อมูลส่งเสริมการขายจากร้านค้าและบริการต่างๆ กว่า 500 รายการ หรือประมาณ 100 ร้าน ที่มีให้เลือกทั้งในหมวดแฟชั่น ร้านอาหาร สุขภาพและความงาม ไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ การเดินทาง บ้านและเฟอร์นิเจอร์ ท่องเที่ยว ฯลฯ ซึ่งทุกร้านไม่ได้ซื้อโฆษณา แต่ทีมจะเลือกจะร้านที่สมัครเข้ามา แล้วใช้ AI มาประมวลผลเพื่อให้ระบบแสดงโปรโมชั่นตามความสนใจของผู้ใช้งานแต่ละคน ซึ่งเป็นหนึ่งใน Pain Point และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันซึ่งซื้อของและรับข่าวสารทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเพราะ retention rateนั้นใกล้เคียงกับช่วงแรกๆ ที่ Facebook เปิดให้บริการ ซึ่งอยู่ที่ราว 30%

“เป้าหมายหลักของที่เอสซีบี อบาคัส ต้องการจับคือกลุ่มคนมิลเลนเนียล ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความต้องการเฉพาะตัว พร้อมที่จะเปิดรับและทดลองเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งจะมีการเก็บข้อมูลทั้งการได้รับเงิน การใช้เงิน เงินกู้ และการลงทุน เพื่อนำมาเป็นพื้นฐานในการออกแบบบริการให้ครอบคลุม 360 องศา และเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน”

ในปีหน้า เอสซีบี อบาคัส เตรียมเข็นบริการใหม่ออกมาอีก 4-5 บริการ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับธุรกิจและบริการของธนาคาร เช่น คอลเซ็นเตอร์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สนับสนุนแพลตฟอร์มดิจิทัลของธนาคาร และยังมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงตลาดอื่นๆ ที่ธนาคารยังไม่เคยทำมาก่อน นอกจากนี้ เอสซีบี อบาคัส ยังวางแผนที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับบทบาทการเป็น AI Thought leadership ผ่านการทำ Knowledge Sharing ให้กับคนรุ่นใหม่ อาทิ การเป็นเจ้าภาพหลักในการตั้งหลักสูตรพิเศษเรื่อง Data Science ร่วมกับสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTECH) เป็นต้น

อย่างไรก็ตามเนื่องจาก เอสซีบี อบาคัส เพิ่งตั้งขึ้นมา จึงยังคงมีความท้าทายอีกหลายข้อที่ต้องรับมือ ทั้งทีมงาน 20 ชีวิตที่เพิ่งทำงานร่วมกัน จึงยังต้องปรับความบาลานซ์และการทำงาน เพื่อทำให้ภายใน 3 เดือนต้องมีบริการออกมาอย่างน้อย 1 ชิ้น นอกจากนี้บริการที่ออกมาต้องตอบโจทย์ผู้บริโภค ถ้าหากเปิดตัวแล้วได้รับฟีดแบคที่ไม่อาจจะยังต้องปรับปรุง ก็พร้อมที่จะถอดออกแล้วค่อยพัฒนาใหม่ ซึ่งที่สุดแล้วต้องการให้ เอสซีบี อบาคัส ก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทนวัตกรรมชั้นนำที่เข้าใจลูกค้าในทุกมิติ ซึ่งรวมไปถึงด้านไลฟสไตล์ที่มีความแตกต่างและเฉพาะตัว (Customized) ไม่ใช่เฉพาะพฤติกรรมการทำธุรกรรมด้านการเงินของลูกค้าเท่านั้น

ดร.สุทธาภา กล่าวต่อว่า ต่อจากนี้เทรนด์ AI จะเป็นหนึ่งในเทคโนโนโลยีที่ทุกธุรกิจจะนำมาปรับใช้ เนื่องจาก 1.ปริมาณข้อมูลที่มีเพิ่มมากขึ้น การใช้ AI จะช่วยให้การจัดการข้อมูลมีประสิทธิภาพ และประมวลผลได้ดีกว่า, 2.ผู้บริโภคต้องการบริการที่เป็นเฉพาะตัว และต้องการความปลอดภัยที่สูง และสุดท้าย หน่วยงานภาครัฐเริ่มเปิดกว้าง และมีความเข้าใจเกี่ยวเกี่ยวกับ AI มากขึ้น

โดยเทรนด์ AI ที่จะมาแรงในปีหน้าอย่าง Deep learning จะเข้ามามีบทบาทในแก้ไขปัญหาทางธุรกิจในหลากหลายสาขามากขึ้น จากตัวอย่าง Natural Language Processing (NLP) และ Visual Recognition ที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วกับการพัฒนา google translate และ self-driving car (รถยนต์ไร้คนขับ) อีกเทรนด์ที่มองเห็นคือAutomated Machine Learning ที่จะมาช่วยลดภาระของภาคธุรกิจในการพัฒนาโมเดล ซึ่งจะเป็นจุดสำคัญที่จะผลักดันความก้าวหน้าของ AI อย่างก้าวกระโดด