โลกที่เราอาศัยอยู่ใช้เวลาหมุนรอบตัวเอง 365 วัน แต่กับโลกธุรกิจโดยเฉพาะในยุคนี้และอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับ Technology เร็วกว่านั้นมาก เงื่อนไขดังกล่าวผลักดันให้แบรนด์ใหญ่ต้องเดินหน้าเปิดธุรกิจใหม่ เช่นเดียวกับ Walmart ที่ล่าสุดมีรายงานว่ากำลังวางแผนรุกตลาด Video Streaming
มีหลายประเด็นที่ทำให้ก้าวใหม่ของแบรนด์ค้าปลีกสัญชาติอเมริกันน่าสนใจ ทั้งความท้าทายที่รออยู่ คู่แข่ง และแผนที่วางไว้เพื่อให้ก้าวใหม่บนสมรภูมิที่ไม่คุ้นเคยเป็นก้าวสำคัญ ไม่ใช่การพลาดซึ่งมูลค่าความเสียหายอาจเป็นตัวเลขหลักล้าน

จอมเก๋าวงการค้าปลีก สู่(ว่าที่)หน้าใหม่ในตลาด Video Streaming
แม้ยังไม่มีแถลงการณ์ยืนยัน แต่การรุกตลาด Video Streaming เริ่มมีมูลความจริง หลังรายงานของ The Wall Street Journal สื่อธุรกิจชื่อดังเมื่อปลายมิถุนายนที่ผ่านมาว่า Mark Greenberg อดีตประธานบริหาร (CEO) ของ Epix เครือข่ายโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและ Cable TV ที่จับกลุ่มผู้ชมตลาดบนในเครือ MGM ค่ายหนังดัง ได้เจรจากับ Walmart แต่ฝ่ายหลังยังไม่ตัดสินใจว่าจะนำเนื้อหารายการ (Content) แบบใดบ้างมาใส่ใน Platform

Mark Greenberg
ในเวลาไล่เลี่ยกันแหล่งข่าวใน Hollywood เผยว่า แบรนด์ค้าปลีกที่ก่อตั้งโดย Sam Walton เตรียมการณ์เรื่องนี้มาหลายปีแล้ว โดยทันทีที่มีความชัดเจนก็แทบจะเดินหน้าใดต่อได้เลย เพราะมีผู้ผลิต Content หลายค่ายทั้งเล็กและใหญ่พร้อม Deal ด้วย ประกอบกับไตรมาสแรกปีนี้ก็มีรายได้ถึง 123,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 4.05 ล้านล้านบาท)

Sam Walton
เค้กก้อนใหญ่ที่กำลังหอมหวานของขาใหญ่นอก Hollywood
ด้วยเงินทุนมหาศาลจากธุรกิจค้าปลีก Walmart จึงสามารถเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ยักษ์ใหญ่นอกวงการภาพยนตร์และ Series ของสหรัฐ ตามหลัง Apple และ Facebook รวมถึง Amazon คู่ปรับจากแวดวง E-Commerce ที่เข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาด Video Streaming ซึ่งจำนวนผู้ชมเพิ่มขึ้นไม่หยุดและคาดกันว่าปี 2023 มูลค่าตลาดในธุรกิจนี้ทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 82,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 2.7 ล้านล้านบาท)
นอกจากต่อยอดธุรกิจแล้ว ประโยชน์สำคัญอีกอย่างที่แบรนด์ค้าปลีกอายุกว่าครึ่งศตวรรษจะได้จากการรุกตลาด Video Streaming คือการมีสื่อที่เข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลกอยู่ในมือ ซึ่งช่วยในการกระจายข่าวสารความเคลื่อนไหวและเพิ่มการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ด้วย
ความท้าทายในตลาดที่มีแข่งขันกันสูง
อย่างที่ทราบกันว่า Netflix เป็นทั้งแบรนด์แรกที่นึกถึง (Top of Mind) และเจ้าของส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในตลาด Video Streaming ดังนั้น หน้าใหม่ที่เข้ามาต้องมีเงินหนาในการสร้าง Content ของตัวเอง และซื้อ Content มากมายเข้ามาอยู่ใน Platform เพื่อจูงใจผู้ชมหน้าใหม่หรือคอหนัง คอ Series ที่อยากมี Platform ใหม่เพื่อเพิ่มความหลากหลาย ให้ยอมจ่ายค่าสมาชิก
นักวิเคราะห์ของ Wedbush Securities บริษัทบริหารหลักทรัพย์ในสหรัฐคาดว่า แบรนด์ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ต้องใช้เงินเพื่อการนี้อย่างน้อย 2,000 – 3,000 (ราว 66,000 – 108,900 ล้านบาท) ซึ่งน้อยกว่างบ 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 145,800 ล้านบาท) ที่ Amazon ทุ่มลงไปเพื่อสร้าง Original Content ในปีนี้

ส่วนกลุ่มเป้าหมายในช่วงแรกของ Video Steaming ใต้ชายคา Walmart คาดว่าคือคนในภาคกลางของสหรัฐที่ยังเข้าไปซื้อสินตค้าในห้างค้าปลีกเป็นประจำ และอาจช่วยดันให้ยอดขาย Smart TV กับ Mobile Device ตามสาขาต่างๆ ของค่ายค้าปลีกดังเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย / hollywoodreporter ,watchmojo techgumbo ,,wikipedia
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website: Marketeeronline.co /
