เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชัวรี เอาต์เล็ต ติดสนามบินแห่งแรกของประเทศไทย
หลังจากกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN ประกาศชัดว่าไม่เกินไตรมาสที่ 3 ปี 2562 ประเทศไทยจะมีเอาต์เล็ตติดสนามบินสุวรรณภูมิ แห่งแรกของประเทศ
เมกะโปรเจ็กต์ที่ว่าคือโครงการ เซ็นทรัล วิลเลจ (Central Village) ลักชัวรีเอาต์เล็ตเทียบชั้นระดับเอาต์เล็ตชั้นนำของโลกอย่างที่ญี่ปุ่น ฮ่องกง หรือ ไต้หวัน ฯลฯ

แน่นอนว่าการจะเป็น “เอาต์เล็ตชั้นนำระดับโลก” กลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อพัฒนาโครงการ เซ็นทรัล วิลเลจ ให้เป็น เอาต์เล็ตที่มีชีวิตชีวา… ไม่ใช่แค่พื้นที่ขายสินค้าลดราคา เคลียร์คอลเลกชั่นเก่าออกจากหน้าร้าน
อันที่จริงฟอร์แมตศูนย์การค้าประเภทเอาต์เล็ตในตลาดค้าปลีกบ้านเราไม่ใช่เรื่องใหม่… เพียงแต่ที่ผ่านมาดูไม่หวือหวาและดึงดูดคนได้เท่าที่ควร ซึ่งการโดดลงมาเล่นของยักษ์ใหญ่อย่าง CPN ในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการหยิบจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญวางลงบนกระดานเพื่อเติมเต็มฟอร์แมตศูนย์การค้าให้ครบทุกเซกเมนต์แล้ว
การเลือกปักหมุดบนทำเลใกล้ สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเปลี่ยนเป็นเอาต์เล็ตครบวงจร ด้วยงบลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท เทียบชั้นเอาต์เล็ตติดสนามบินชั้นนำของโลก ซึ่งเป็นมูฟเมนต์ใหม่ที่ต้องจับตามอง
ทำไมต้องติดสนามบิน?
เเผนที่โครงการ Central Village : ห่างจากสนามบิน 10 นาที หรือ จากในเมือง 45 นาที
แน่นอนว่า เอาต์เล็ตติดสนามบินเกิดขึ้นเพื่อที่จะรองรับการเดินทางมาพักผ่อน ท่องเที่ยว เหมือนกับที่เราช้อปปิ้งในโตเกียว ที่ชิบูย่า กินซ่า จนกระเป๋าแฟบ แต่ก่อนกลับก็ยังไม่วายแวะที่โกเทมบะ หรือ ชิซุย เอาต์เล็ต ก่อนจะไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน
ตัวโครงการ เซ็นทรัล วิลเลจ ก็เชิงจะเป็นปราการด่านสุดท้ายให้นักท่องเที่ยวได้รูดบัตร ควักเงินในกระเป๋าใช้จ่ายเช่นกัน รวมถึงนักช้อปชาวไทยเองก็ยังสามารถเดินทางไปช้อปสินค้าแบรนด์เนมลดราคา แบรนด์ที่ชอบแบรนด์ที่ใช่ ได้สะดวกเช่นกัน เพราะ CPN ได้วางกลยุทธ์ล่อใจขาช้อปลดราคา 30-75% กันแบบตลอดทั้งปี ไม่ต้องรอฤดูการ SALE หรือบินไปต่างประเทศเพื่อซื้อสินค้าแบรนด์ให้เสียเวลา
ส่วนเรื่องตัวโครงการจะตั้งอยู่บนทำเลที่นอกจากจะใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ (ทิศใต้) ยังติด ถ.บางนา-ตราด ด้วยพื้นที่โครงการกว่า 100 ไร่ พื้นที่ใช้งาน (GLA) กว่า 40,000 ตร.ม. เดินทางสะดวก “10 นาทีถึงสนามบิน และ 45 นาทีจากในเมือง”
รวมทั้งยังรองรับการขยายตัวของการขนส่งสาธารณะรูปแบบราง หรือ Light Rail สายบางนา-สุวรรณภูมิ ที่มีแผนจะเปิดเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวรวมถึงคนไทยเอง เพื่อเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนในปัจจุบัน (BTS บางนา) มุ่งตรงไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ

“โดยลูกค้าที่เป็นเป้าหมายหลักคือคนไทยถึง 65% รองลงมาคือนักท่องเที่ยวต่างชาติ (จีน รัสเซีย ฯลฯ) 35% ตั้งเป้าลูกค้าในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน และโดยเฉพาะนักท่องเที่ยว/คนไทยที่เป็นกลุ่ม Young Affluent ขึ้นชื่อว่าเป็น Smart Shopper/Quality Seeker ที่ต้องการได้สินค้าคุณภาพดีในราคาเหมาะสมซึ่งมีมากขึ้นทุกวัน”
นอกจากนั้น เซ็นทรัล วิลเลจ ยังถูกวางให้เป็น Shopping Destination แห่งใหม่ จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงพื้นที่รอบๆ สนามบินสุวรรณภูมิให้กลายเป็น “Aerotropolis” หรือ “เมืองสนามบิน” ซึ่งเป็นแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่รอบสนามบินที่มีศักยภาพให้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ศูนย์การค้า เอาต์เล็ตมอลล์ ร้านอาหาร จนถึงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และเวิร์กกิ้งฮับ ครบวงจร
ในแง่ของสถิติ สนามบินสุวรรณภูมิคือหนึ่งในสนามบินศักยภาพ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวกว่า 55 ล้านคนต่อปี ติด 1 ใน 10 สนามบินที่มีผู้โดยสารเดินทางมากที่สุดในเอเชียหลายปีซ้อน
จึงไม่แปลกถ้าหากสามารถพัฒนาพื้นที่รอบๆ สนามบินสุวรรณภูมิให้ดึงดูดนักท่องเที่ยว เหล่านักช้อปจากทั่วทุกมุมโลกได้ เป้าหมายที่เซ็นทรัล วิลเลจ วางไว้ อย่างการเป็น “A Must Visit Shopping Destination to complete your trip จุดเช็กอินที่นักท่องเที่ยวต้องแวะช้อปทุกครั้งก่อนเข้าเมืองหรือเดินทางกลับเข้าสนามบิน” ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ไกลอีกต่อไป
เซ็นทรัล วิลเลจ
จุดแข็งไม่ใช่แค่เรื่องช้อปปิ้ง

พอพูดถึงกลุ่มเซ็นทรัลกับการจะดึงเอาแบรนด์ชั้นนำที่อยู่ในใจผู้บริโภคเพื่อให้มาเปิดร้านในโครงการคงไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่ง เซ็นทรัล วิลเลจระบุว่าจะมีร้านค้าที่เป็นแบรนด์ชั้นนำกว่า 235 ร้านค้า
เป็นทั้งลักชัวรีแบรนด์และไลฟ์สไตล์แบรนด์ของไทยและต่างประเทศ เน้นหนักไปที่สินค้าในหมวดแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในครัว ของเล่น อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
และแบรนด์ในเครือเซ็นทรัลไม่ว่าจะเป็น Supersport ในส่วนของเครื่องกีฬาทุกประเภท Tops ศูนย์รวมของซื้อของฝากสำหรับนักท่องเที่ยว แบรนด์ร้านอาหารต่างๆ ในเครือ รวมทั้งการส่งเสริมสินค้า OTOP ของไทยที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ

สำหรับคอนเซ็ปต์ในการออกแบบจะเน้นไปทาง Outdoor Mall เปิดโล่งผสานพื้นที่สีเขียวเข้ากับสถาปัตยกรรมสไตล์ไทยโมเดิร์น เพื่อให้ความรู้สึกเหมือนมาเดินเล่น ท่องเที่ยว มากกว่าแค่การตั้งหน้าตั้งตามาช้อปปิ้ง
โดยภายในโครงการจะมีร้านอาหารทั้งในส่วนของเซ็นทรัลเอง รวมทั้งแบรนด์ร้านอาหารชื่อดังต่างๆ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว สนามเด็กเล่น รวมถึงในส่วนของโรงแรมระดับอินเตอร์แบรนด์
รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหาที่พักใกล้สนามบินกว่า 200 ห้อง พร้อมด้วยพื้นที่จอดรถกว่า 2,700 คัน เเละรวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักช้อปชาวไทยตามมาเรื่อยๆ
จะเห็นได้ว่าการรุกปั้นเอาต์เล็ตติดสนามบินโครงการแรกของ CPN ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสร้าง Shopping Destination รูปแบบใหม่ให้กับวงการค้าปลีกไทยเพื่อดึงดูดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามายังประเทศไทยแล้ว
ในมุมของผู้บริโภคคนไทยอย่างเราๆ แน่นอนว่าหนึ่งเลยคือได้ที่ช้อปปิ้งใหม่ มีตัวเลือกในการช้อปปิ้งเพิ่มขึ้น รวมถึงการได้เห็นรูปแบบการพัฒนาของวงการค้าปลีกในไทยที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การลุยสร้างห้างใหญ่ในเมืองหลวงหรือตามหัวเมืองใหญ่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป…


อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
