ปี 2018 Lego แบรนด์ตัวต่อสัญชาติเดนมาร์กทำกำไรได้ 50,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2017 อยู่ 4% พร้อมทำยอดขายได้ 174,720 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% ตามกรอบเวลาเดียวกัน

โดยเป็นการกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง หลังปี 2017 ยอดขายตกครั้งแรกในรอบ 13 ปี จากการมีสินค้าขายไม่ออกทั้งตามร้านและค้างในคลังสินค้าอยู่มากเกินไป จนต้องปลดพนักงาน 1,400 คนทั่วโลกเพื่อคลายวิกฤต

กำไรและยอดขายของแบรนด์ของเล่นอายุเกือบ 90 ปีกลับมากระเตื้องขึ้นได้เพราะชุดตัวต่อจากภาพยนตร์ชื่อดัง อย่าง Star Wars, Harry Potter และ Jurassic World ขายดี

ประกอบกับยอดขายในจีนก็โตเป็นตัวเลขสองหลัก ชดเชยยอดในสหรัฐฯ และยุโรปตะวันตกที่โตต่ำกว่าที่คาดไว้มาก

ตัวเลขเชิงบวกดังกล่าวยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า Lego สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ท่ามกลางวิกฤตในอุตสาหกรรมของเล่น หลัง Toys ”R” US แบรนด์ค้าปลีกของเล่นรายใหญ่ล้มละลาย เพราะผู้บริโภคหันไปซื้อของเล่นผ่าน E-Commerce กันมากขึ้นจนขาดทุนอย่างหนั

ส่วนแผนในปีนี้ Niels Christiansen ประธานบริหาร (CEO) ของ Lego มั่นใจว่าบริษัทจะโตได้อย่างมั่นคง ด้วยการไม่ตั้งเป้าสูงเกินจริงเหมือนในอดีต

พร้อมขยายสาขาในจีนเพิ่มอีก 60 สาขา จากที่มีอยู่เดิม 80 สาขา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือสาขาแบบ Flagship Store ขนาดใหญ่ในกรุงปักกิ่งที่เพิ่งเปิดไปเมื่อต้นปี


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer