เศรษฐกิจไทยไม่สดใส “กรุงไทย” ปรับประมาณการเหลือ 3.3% จากเดิม 3.8% เหตุสงครามการค้า ส่งออก-ท่องเที่ยวชะลอตัว เผยโอกาสธุรกิจใหม่คือ ‘ของเล่น’ ได้อานิสงส์เทรดวอร์ โต 11% เชื่อปี 63 แนวโน้มดีขึ้น คาดจีดีพีโต 3.6%
ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงาน Global Business Development and Strategy ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารประเมินว่าเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 2561 จะเติบโต 3.3% จากที่ประเมินไว้เดิม 3.8% พร้อมปรับลดการส่งออกเหลือ 0.8% จากเดิม 4% เนื่องจากธุรกิจ ‘ท่องเที่ยว’ และ ‘ส่งออก’ ที่ชะลอตัวในช่วงปีที่ผ่านมา ตลอดจนสงครามการค้าและค่าเงินบาทแข็ง
ทั้งนี้ ดร.พชรพจน์คาดการณ์ว่า ปี 2563 GDP จะเติบโต 3.6% และส่งออกเติบโต 2.5% เนื่องจากสถานการณ์มีแนวโน้มที่ดียิ่งขึ้น
ดร.พชรพจน์กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์สงครามการค้า ทำให้ประเทศไทยต้องมองหาโอกาสในการทำตลาดใหม่ โดยตลาดที่สร้างโอกาสทางธุรกิจคือ “สินค้าในกลุ่มของเล่น”
จากข้อมูลโดย Krungthai Macro Research พบว่า ยอดส่งออกของเล่นไทยไปสหรัฐฯ ปี 2561 เติบโต 11% ทำให้ไทยมีส่วนแบ่งตลาด 4% คิดเป็นมูลค่า 200 ล้านเหรียญ เนื่องจากสหรัฐฯ และญี่ปุ่นหันมานำเข้าของเล่นจากไทยเพิ่มขึ้น ประกอบกับของเล่นจากจีนมี ‘ราคาแพงขึ้น’ จากภาษีนำเข้า
ดร.พชรพจน์กล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ควรป้องกันความเสี่ยงจากการชะลอตัวของกลุ่มลูกค้าจีน เนื่องจากมูลค่าของลูกค้าจีนและฮ่องกงมีถึง 4 หมื่นล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตลดลง ขณะที่มูลค่าอสังหาฯ ต่างประเทศมี 9.3 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยกลับจูงใจแค่ระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ขณะที่ยูนิตเหลือขายสะสมและเปิดขายใหม่กระจุกตัวในระดับราคา 1-5 ล้านบาท ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องเตรียมรับมือกับภาวะตลาดที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัว
ดร.มานะ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการฝ่าย สายงาน Global Business Development and Strategy กล่าวถึงทิศทางนโยบายดอกเบี้ยของไทยว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.75% ตลอดปี เพื่อพยุงเศรษฐกิจภายใต้แรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อในระดับต่ำ และคาดว่าจะไม่มีการขึ้นดอกเบี้ย เพราะการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะยิ่งทำให้เงินบาทแข็งค่า
ดร.มานะคาดการณ์ว่า ค่าเงินบาทไทย ณ สิ้นปีจะอยู่ที่ 30.25 บาทต่อเหรียญ และมองว่ามีความเป็นไปได้เพียง 5-10% เท่านั้นที่ค่าเงินจะขยับไปถึง 29 บาท
ประมาณการเศรษฐกิจไทย
2561 |
2562F |
2563F |
|
การลงทุนจากภาครัฐ |
3.3 |
4.0 |
5.3 |
การลงทุนภาคเอกชน |
4.6 |
4.1 |
5.0 |
การบริโภคจากภาครัฐ |
1.8 |
2.5 |
2.8 |
การบริโภคจากภาคเอกชน |
4.6 |
3.8 |
3.8 |
มูลค่าการส่งออก (USD) |
7.7 |
0.8 |
2.5 |
อัตราเงินเฟ้อ |
1.1 |
1.1 |
1.1 |
ดอกเบี้ยนโยบาย |
1.75 |
1.75 |
1.75 |
เงินกู้-สินเชื่อ |
5.9 |
4.5 |
4.8 |
การท่องเที่ยว |
7.6 |
4.6 |
4.7 |
ที่มา: Krungthai Macro Research จากข้อมูล NESDC
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ