รายได้ธนาคาร ปี 2563 เป็นอย่างไร ? เปิดผลประกอบการแบงก์ภายใต้สถานการณ์โควิด-19
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนอย่างรุนแรง ทั้งภาคการท่องเที่ยว การผลิต การส่งออก การบริโภคภาคเอกชน รวมทั้งก่อให้เกิดความผันผวนรุนแรงในตลาดการเงินโลก เป็นแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่มีการเติบโตแบบชะลอตัวอยู่ก่อนหน้านี้ ให้ถดถอยลงอย่างรุนแรง
ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 1 ปี 2563 หดตัวลงในเกือบทุกภาคส่วน ขณะเดียวกันในช่วงที่เหลือในปีนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามทั้งสถานการณ์โควิด-19 ว่าจะคลี่คลายลงเมื่อไร
ผลของมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ซึ่งต้องติดตามรายละเอียดของมาตรการ การเบิกจ่ายงบประมาณ และการใช้จ่ายเงินของประชาชนต่อไป และสถานการณ์ภัยแล้ง
รายได้ธนาคาร ปี 2563 ?
Marketeer รวบรวมธนาคารที่แจ้งผลการดำเนินในไตรมาส 1 ออกมาแล้วมาให้ดูกัน ส่วนธนาคารอื่นคงต้องจับตาดูว่าพิษโควิด-19 จะกระทบต่อรายได้และกำไรแค่ไหน
ธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิประจำไตรมาส 1 ปี 2563 จำนวน 9,251 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากรายได้รวมที่ขยายตัว 9% จากปีก่อน พร้อมกับที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง ขณะเดียวกันธนาคารได้ตั้งเงินสำรองสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน
มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 25,777 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน สะท้อนถึงกลยุทธ์ของธนาคารในการปรับพอร์ตสินเชื่อด้วยการเพิ่มสัดส่วนของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง การปรับตัวลดลงของต้นทุนทางการเงิน และการรับรู้รายได้ที่สูงขึ้นของพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยตามมาตรฐานบัญชีใหม่ซึ่งเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ช่วงต้นปี
อย่างไรก็ตาม ฐานรายได้ดอกเบี้ยสุทธิยังคงได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง จากภาวะดอกเบี้ยขาลง การหดตัวของยอดสินเชื่อรวมในไตรมาสแรกของปี และการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยภายหลังที่ธนาคารได้ขายหุ้นของบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิตในปีที่ผ่านมา
ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 11,864 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน เป็นผลส่วนใหญ่จากรายได้ค่าธรรมเนียมประเภท recurring ที่ปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 1 ของปี 2563
รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งขยายตัว 31% จากปีก่อน เป็นจำนวน 2,022 ล้านบาท
และรายได้จากธุรกิจขายประกันผ่านธนาคารเพิ่มขึ้นห้าเท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นจำนวน 3,159 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากความร่วมมือกับกลุ่มเอฟดับบลิวดีในการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต
การขยายฐานรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในไตรมาสนี้สามารถชดเชยผลกระทบของการคิดค่าธรรมเนียมแบบใหม่ตามแนวทางการกำกับดูแลของทางการเมื่อต้นปี และการชะลอตัวของปริมาณการทำธุรกรรมธนาคารในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
ด้านธนาคารกสิกรไทย ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 6,581 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 3,463 ล้านบาท หรือ 34.47%
โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 2,830 ล้านบาท หรือ 11.21% ส่วนใหญ่เกิดจากการเติบโตของสินเชื่อ รวมทั้งการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรับเกี่ยวกับการให้สินเชื่อด้วยวิธีดอกเบี้ยที่แท้จริง (EIR) จากเดิมรับรู้ตามสัญญา ซึ่งเป็นการปฏิบัติตาม TFRS 9 ประกอบกับการปรับลดอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินลง ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.49%
นอกจากนี้ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 4,869 ล้านบาท หรือ 39.78% ส่วนใหญ่เกิดจากความผันผวนในตลาดเงินและตลาดทุนจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยอันเนื่องมาจากผลกระทบของโควิด-19
สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 อยู่ที่ระดับ 3.86%
ธนาคารทิสโก้ ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ มีกำไรสุทธิจำนวน 1,484 ล้านบาท ลดลง 14.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2562 เป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว รวมทั้งการใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 (TFRS 9) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวดีขึ้น จากอัตราผลตอบแทนของเงินให้สินเชื่อที่เพิ่มขึ้นตามการขยายสัดส่วนสินเชื่อไปยังกลุ่มสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค ประกอบกับต้นทุนทางการเงินที่ลดลง
รายได้ค่าธรรมเนียมทรงตัว โดยค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์อ่อนตัวลงจากการลดลงของรายได้จากธุรกิจนายหน้าประกันภัย และค่าธรรมเนียมจากเงินให้สินเชื่อ
ในขณะที่ธุรกิจเกี่ยวกับตลาดทุนปรับตัวดีขึ้น จากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์และการออกกองทุนใหม่ที่เพิ่มขึ้นในภาวะที่ตลาดทุนผันผวน
ธนาคารเกียรตินาคิน มีกำไรสุทธิ 1,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2562
ส่วนรายได้จากการดำเนินงานมีจำนวนรวม 5,594 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.0% โดยหลักจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 15.9%
รวมถึงรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 48.3% จากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิและรายได้อื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นด้วย

Website : Marketeeronline.co /
