ตลาดรถยนต์โลก ช่วงโควิด เมื่อวิกฤตทำให้ Nissan, Renault และ Mitsubishi หันหน้ามาคืนดีกัน
จากเสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่เคยดังกระหึ่มช่วงรวมตัวกันใหม่ ๆ เมื่อกว่า 20 ปีก่อน มาวันนี้สถานการณ์ของกลุ่มพันธมิตรบริษัทยานยนต์ Nissan Renault และ Mitsubishi แย่ลงอย่างมาก เพราะท่ามกลางปัญหายอดขายตกและความเสื่อมเสียจากกรณีทุจริตที่ Carlos Ghosn อดีตผู้บริหารมือดีได้ก่อไว้ ทั้งสามบริษัทยังต้องมาเผชิญผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับค่ายรถอื่น
วิกฤตใหญ่ครั้งนี้ทำให้ Nissan Renault และ Mitsubishi จำเป็นต้องเร่งเยียวยาความสัมพันธ์ เพราะการรวมกันแบบ 3 ประสาน จะทำให้เครื่องยนต์มีทั้งแรงม้าและจุน้ำมันได้มากกว่าเดิม และอาจพาทั้งหมดขึ้นจากหล่มปัญหาได้เร็วขึ้น ก่อนที่จะถลำลึกและอะไร ๆ จะทรุดหนักลงไปอีก
วิกฤตใหญ่ที่มีคนตกงานเกือบครึ่งแสน
ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยเตรียมรอลุ้นข่าวดีเรื่องการจ้างงานเพิ่ม หลัง Nissan ประกาศให้ไทยเป็นฐานการผลิตแห่งเดียวที่เหลืออยู่ในกลุ่มประเทศ ASEAN แต่คนเกือบครึ่งแสนในอุตสาหกรรมเดียวกันของหลายประเทศเจอข่าวร้ายเพราะต้องหางานใหม่ ซึ่งล้วนมีที่มาจากสถานการณ์โรคระบาดครั้งนี้
Nissan ประกาศปิดโรงงานทั้งในสเปนและอินโดนีเซีย ส่งผลให้มีคนตกงานราว 20,000 คน โดยที่สเปน พนักงานที่ถูกลอยแพพากันรวมตัวประท้วง ส่วนที่อินโดนีเซีย แม้มีข่าวปิดโรงงานมาตั้งแต่ช่วงมีนาคม แต่ก็น่าเสียดายไม่น้อยเพราะโรงงานที่เพิ่งปิดไปเป็นแห่งสุดท้ายของประเทศและกำลังจะครบ 20 ปีในปีหน้า
ด้านอีก 2 บริษัทที่เหลือในกลุ่มพันธมิตรยานยนต์นี้ก็ประสบชะตากรรมเดียวกับ Nissan โดย Renault จะปลดพนักงานทั่วโลกรวม 15,000 คน ในจำนวนนี้หนึ่งในสามเป็นพนักงานของโรงงานในฝรั่งเศส ส่วน Mitsubishi ก็จำใจต้องเลิกจ้างพนักงานรวม 6,500 คนตามโรงงานหลายแห่งในญี่ปุ่นเพื่อความอยู่รอด
สถานการณ์ที่ย่ำแย่ของพันธมิตรยานยนต์กลุ่มนี้ยังยืนยันได้จากการทรุดสุด ๆ ของ “2 พี่ใหญ่” ในกลุ่ม โดยไตรมาสแรกปีนี้ Nissan ขาดทุนถึง 6,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (เกือบ 2 ล้านล้านบาท) และยอดผลิตกับยอดขายทั่วโลกเมื่อเมษายนก็ลดลงเป็นเลข 2 หลัก
ส่วน Renault ปี 2019 กำไรหายไปเกือบหมด และยอดขายทั่วโลกในช่วงเมษายนปีนี้ทรุดฮวบลงไปถึง 70% เมื่อเทียบกับเมษายนปี 2019 ซึ่งแน่นอนว่าฉุดราคาหุ้นของ Renault หายไปมหาศาล
ยกเครื่องครั้งใหญ่ที่อู่ “สามประสาน”
ก่อน ตลาดรถยนต์โลก มาติดหล่ม “วิกฤตโควิด” ความสัมพันธ์ของ Nissan Renault และ Mitsubishi อยู่ในช่วงขรุขระ เพราะกรณีทุจริตของ Carlos Ghosn อดีต CEO ของทั้ง 3 บริษัท ยังตามหลอกหลอน ขณะที่ Nissan เองก็เพิ่งได้ มาโกโตะ อูชิดะ มาเป็น CEO หลังความขัดแย้งและเหตุอื้อฉาวของ Carlos Ghosn ซาไป
ทว่าทั้ง 3 บริษัทก็กลับมากระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันอีกครั้ง เพราะเห็นตรงกันว่ารวมกันเราอยู่ จึงนำมาสู่แผนสามประสานในการฉุดทุกบริษัทให้พ้นจากหล่ม โดยแต่ละบริษัทจะ “ใส่เกียร์เดินหน้า” ในตลาดที่ตนถนัด
Nissan เน้นตลาดแถบอเมริกาเหนือ ตะวันออกกลาง จีนและญี่ปุ่น ส่วน Renault จะเน้นยุโรปกับอเมริกาใต้เป็นหลัก ขณะที่ Mitsubishi จะทุ่มสุดตัวกับตลาดกลุ่มประเทศ ASEAN และ Oceania
นอกจากนี้ ทั้ง 3 บริษัทจะมีการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีกันมากขึ้น ใช้ชิ้นส่วนร่วมกันมากขึ้น และจำนวนโรงงานที่ผลิตรถให้อีก 2 แบรนด์ที่เหลือก็จะมีมากขึ้น เช่น โรงงาน Renault ในอเมริกาใต้ 2 แห่งก็จะผลิตรถของ Nissan ด้วย
Jean Dominique Senard ประธานบอร์ดบริหาร Renault เชื่อว่าการกระชับความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพรถและกำไรให้กับทุกบริษัท
ส่วนหลังพ้นวิกฤตครั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่า Nissan Renault และ Mitsubishi จะจับมือกันแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพราะยังต้องสู้กับกลุ่มพันธมิตรยานยนต์คู่แข่งอย่าง Fiat Chrysler และ PSA ที่รวมตัวกันจนกลายเป็นบริษัทยานยนต์ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก/cnn, bbc, japantoday, kyodo
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



