เต็ดตรา แพ้ค ถอดรหัสความสำเร็จ 60 ปี บนวิถีความยั่งยืน (สัมภาษณ์พิเศษ)

ฟันเฟืองของการพัฒนาสู่ความยั่งยืนที่สมบูรณ์แบบ ประกอบด้วย ภาครัฐ ประชาชน และที่สำคัญคงหนีไม่พ้นภาคเอกชน ที่จะผลักดันทุกภาคส่วนให้ขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จ

เต็ดตรา แพ้ค (Tetra Pak) ผู้นำด้านโซลูชั่นการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของโลก นับเป็นองค์กรหนึ่งที่ดำเนินนโยบายโดยยึดถือ “ความยั่งยืน” เป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ทางธุรกิจ และการดำเนินงานมาอย่างยาวนาน

เราเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบและแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน สอดคล้องกับคำมั่นสัญญาของบริษัทที่ว่า ‘ปกป้อง ทุกคุณค่า™’ (PROTECTS WHAT’S GOOD™) ที่สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของเรา ที่จะทำให้อาหารปลอดภัยและมีอยู่พร้อมสำหรับการบริโภคในทุก ๆ ที่ทั่วโลก”

คุณสุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ Marketeer ในงาน Media Briefing เจาะลึกรายงานความยั่งยืนประจำปี 2563 ที่บอกเล่าการทำงานที่ครอบคลุมถึงห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมด ภายใต้หัวข้อ ‘การสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริงได้

ซึ่งการพูดคุยกับผู้บริหารของเต็ดตรา แพ้คในครั้งนี้ ทำให้ได้ทราบข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิธีดำเนินการที่ทำให้เกิดความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญในการปกป้องอาหาร ผู้คน และอนาคต ตามแนวทางของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ พร้อมแผนที่จะทำให้วงโคจรที่นำไปสู่ความยั่งยืนสมบูรณ์ ด้วยโซลูชั่นเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำที่ผสมผสานกันในวงจร ซึ่งรวมถึงการจัดหาวัตถุดิบ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ รวมถึงความร่วมมือในการจัดเก็บและรีไซเคิล

มุ่งมั่น สร้างความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริง
ร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

กว่า 60 ปี ที่บริษัทสัญชาติสวีเดนก่อตั้งขึ้นมา เต็ดตรา แพ้คเป็นบริษัทแรก ๆ ที่ผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับนมและเป็นระดับสากลเพียงบริษัทเดียวในโลกที่ให้บริการโซลูชั่นครบวงจรด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ในกระบวนการผลิต วัสดุบรรจุภัณฑ์ การบรรจุหีบห่อ ให้แก่โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม โดยดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนนับล้านในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 25,000 คน ซึ่งพร้อมปฏิบัติงานและให้บริการอยู่ในกว่า 93 ประเทศ

โดยมีเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่สำคัญอยู่ที่การส่งเสริมการจัดหาวัตถุดิบเพื่อการผลิตบรรจุภัณฑ์อย่างรับผิดชอบ และร่วมสนับสนุนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำทั้งระบบ

“เราเชื่อและทำด้วยการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริงได้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของเราในการปกป้องอาหาร ผู้คน และอนาคต เราเชื่อมั่นในการก้าวนำสู่การเปลี่ยนแปลง โดยอันดับแรก ทำเป็นตัวอย่าง ผ่านการลงมือทำกิจกรรมของเราเอง การใช้นวัตกรรมและความเชี่ยวชาญ และอย่างที่สอง เริ่มนำไปสู่การเป็นพันธมิตรร่วมกัน สร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน”

การดำเนินงานที่ตอบโจทย์ “ความยั่งยืน” นั้น ครอบคลุมในหลายภาคส่วน อาทิ ประเด็นความรับผิดชอบในการบริโภค เช่น ความยั่งยืนในการลดขยะผ่านมาตรการการป้องกัน การลดการใช้ การนำกลับมารีไซเคิล และการใช้ซ้ำ โดยเต็ดตรา แพ้คเดินหน้าแผนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ทั้งหมดถึง 10 ล้านตัน ทั่วทั้งวงจรของการดำเนินธุรกิจ นับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา และในปีนี้ก็ยังเป็นไปได้ด้วยดี

“เราวางเป้าหมายของเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเด็นของการดูแลสภาพอากาศและการลดการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งนับเป็นการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนเป้าหมายที่ 13 ของสหประชาชาติ เพื่อรับมือกับปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงและผลกระทบที่ตามมา”

เต็ดตรา แพ้ค พัฒนานวัตกรรมและโซลูชั่นเพื่อตอบโจทย์แบบองค์รวม

“เรามีแนวทางการดำเนินงานแบบคาร์บอนต่ำที่ผสมผสานกันเพื่อการหมุนเวียนทรัพยากร รวมถึงการจัดหาวัตถุดิบที่เหมาะสม การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการรีไซเคิลและลดขยะเหลือทิ้ง และการสร้างพันธมิตรเพื่อพัฒนาการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการรีไซเคิลทั่วโลก”

คุณสุภนัฐกล่าวถึงโซลูชั่นเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำที่เต็ดตรา แพ้คดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมี แนวทางแบบองค์รวมเพื่อการหมุนเวียนทรัพยากร ซึ่งประกอบไปด้วย 3 หัวข้อหลัก ได้แก่

  1. วัตถุดิบ เป้าหมายคือ ใช้วัตถุดิบทดแทนได้จากพืชให้มากที่สุด ใช้ทรัพยากรทดแทนได้มากขึ้น และวัสดุใหม่ที่ได้จากการรีไซเคิล
  2. การออกแบบบรรจุภัณฑ์ สร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์แห่งอนาคต ที่ออกแบบเพื่อการรีไซเคิล และใช้กลไกการเปิดฝาที่ไม่สร้างขยะ โดยเร่งรัดและเพิ่มการลงทุนเพื่อกำหนดกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ใหม่ โดยไม่ลดมาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร
  3. การรวบรวมและรีไซเคิล โดยลงทุนกว่า 23 ล้านยูโรในช่วงปี 2555-2562 เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการจัดเก็บและการรีไซเคิล และสร้างพันธมิตรที่มีศักยภาพทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และทั่วโลก เพื่อการรวบรวมและรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพ

สิ่งที่น่าสนใจคือผลและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเชิงบวก ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งผู้บริหาร เต็ดตรา แพ้ค อธิบายเพิ่มเติมว่า

เรานำทฤษฎีการจัดหาอย่างยั่งยืน เศรษฐกิจหมุนเวียนคาร์บอนต่ำ และการรีไซเคิล มาใช้ปฏิบัติ เต็ดตรา แพ้คตั้งใจลดขยะ ลดการใช้วัตถุดิบ และฟื้นฟูระบบธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น การใช้ทรัพยากรทดแทน ซึ่งเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติเป็นหลัก

การจัดหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ กระดาษที่เต็ดตรา แพ้คใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ ได้จากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ที่ผ่านการรับรองขององค์การจัดการด้านป่าไม้ (FSC™) เป็นป่าที่มีการดูแลจัดการอย่างรับผิดชอบ

ส่วนการรีไซเคิลในเมืองไทย เราดำเนินการสนับสนุนการจัดเก็บ คัดแยกกล่องเครื่องดื่มไปรีไซเคิลมาร่วม 20 ปี และปัจจุบันยังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการหลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย โครงการกล่องยูเอชทีรีไซเคิลได้ โครงการรีไซเคิลกล่องนมโรงเรียน เป็นต้น เพื่อช่วยนำวัสดุที่ยังมีคุณค่าในเชิงเศรษฐกิจกลับมาแปรรูปใหม่”

ขับเคลื่อนตามนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียนระดับ Global

จากข้อมูลในงาน Media Briefing ทำให้ Marketeer ได้ทราบว่าเต็ดตรา แพ้ค ประเทศไทย ได้วางแผนเพื่อสร้างให้เกิดความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว

ซึ่งคำว่าความยั่งยืนนี้ไม่ใช่แค่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่รวมไปถึงสังคม และเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคมในประเทศ

“เราตระหนักถึงความท้าทายอันหลากหลายทางสังคมและสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย และเราได้ริเริ่มโครงการส่งเสริมความยั่งยืนและความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรต่าง ๆ มากมาย ทั้งกับลูกค้าของเรา ผู้ค้าปลีก หน่วยงานรัฐ เอ็นจีโอ สถาบันอุตสาหกรรม ตลอดจนสาธารณชนทั่วไป เรามองถึงการสร้างสมดุลในการเติบโตทางธุรกิจกับการมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม”

เต็ดตรา แพ้ค ประเทศไทย ได้ดำเนินรอยตามแบบแผนที่วางไว้ของบริษัทแม่ที่สวีเดน โดยขับเคลื่อนความคิดริเริ่มเพื่อความยั่งยืน ด้วยการใช้ทรัพยากรและแนวทางของเศรษฐกิจหมุนเวียนมาลงมือปฏิบัติอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยกระดาษบรรจุภัณฑ์ของกล่องเครื่องดื่มในประเทศไทยนั้นเป็นวัสดุที่ได้มาจากป่าไม้ที่ผ่านการรับรองของ FSC และแหล่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างถูกต้อง

“ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมกับ WWF ประเทศไทย และ FSC ดำเนินโครงการรณรงค์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับฉลาก FSC และประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเชิญชวนให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเครื่องดื่มที่มีฉลาก FSC ติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์ เพื่อเป็นการเลือกรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมได้ง่าย ๆ”

อีกโครงการสำคัญ คือการเดินหน้า ‘โครงการหลังคาเขียว’ อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นโครงการขอรับกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วกลับไปผ่านกระบวนการรีไซเคิลเป็นแผ่นหลังคา เพื่อนำไปใช้สร้างบ้านและที่พักพิงให้ผู้ประสบอุทกภัยและภัยพิบัติธรรมชาติอื่น ๆ ผ่านทางมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ซึ่ง เต็ดตรา แพ้ค ประเทศไทย ดำเนินโครงการนี้มาต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 และส่งมอบแผ่นหลังคาจากโครงการไปแล้วกว่า 65,000 แผ่น เพื่อช่วยเหลือผู้คนหลายพันคนมากกว่า 20 จังหวัดทั่วประเทศ


พร้อม ‘ปกป้อง ทุกคุณค่า’ เพื่อทุกคน

Marketeer ยิงหนึ่งคำถามเพื่อความชัดเจนมากขึ้นว่า อะไรคือสิ่งที่ลูกค้าและผู้บริโภคจะได้รับจากการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของเต็ดตรา แพ้ค ซึ่งคุณสุภนัฐได้อธิบายว่า

สำหรับลูกค้า เต็ดตรา แพ้คสามารถสนับสนุนลูกค้า ค้นหาจุดแข็ง วางเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการประเมินทรัพยากรด้านพลังงาน เทคโนโลยี กระบวนการดูแลสิ่งแวดล้อม อุปกรณ์และขั้นตอนการประหยัดพลังงาน กลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม

ด้วยความเชี่ยวชาญของทีมงานเต็ดตรา แพ้คที่มีโซลูชั่นในการบริหารจัดการแบบองค์รวม ในการยกระดับมาตรฐาน สร้างชื่อเสียงที่ยั่งยืน ปรับปรุงการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน

“สิ่งที่เราช่วยได้ คือ การแนะนำข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและผลักดันให้เป้าหมายการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศบรรลุผล ไม่ว่าผู้ผลิตต้องการลดการใช้น้ำ หรือปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เราพร้อมช่วยวางแนวทางปฏิบัติที่หลากหลายเพื่อสนับสนุนเป้าหมายนั้น”

สำหรับผู้บริโภค จากงานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมของเต็ดตรา แพ้ค พบว่า วันนี้ผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เกือบครึ่งใส่ใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคคาดหวังข้อมูลและการดำเนินการจากอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ ผู้บริโภคมองหาและเชื่อถือโลโก้สิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น สัญลักษณ์รีไซเคิล หรือฉลาก FSC เพราะต้องการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งต่อคนรุ่นต่อไป และเต็ดตรา แพ้คพร้อมตอบสนองความต้องการของพวกเขา

โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การทำธุรกิจแบบวัดผลด้วยตัวเลขนั้นไม่เพียงพอแล้ว ความยั่งยืน คือสิ่งที่ทุกธุรกิจควรวางเป้าหมายไปให้ถึง เต็ดตรา แพ้คเชื่อว่าทุกธุรกิจและกิจกรรมที่ทำควรจะต้องมีส่วนในการสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับสังคมและโลก ซึ่งสะท้อนผ่านแง่คิดด้านความยั่งยืนของเราที่ใส่ใจในอาหาร ผู้คน และอนาคต เพื่อที่จะ ‘ปกป้อง ทุกคุณค่า’

โลกในทศวรรษใหม่ขยับตัวเร็วและแรง เรามองว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 60 ปี ของเราในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลก ร่วมสนับสนุนให้ทุกธุรกิจดำเนินการอย่างเต็มประสิทธิภาพ ตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ส่งตรงถึงมือผู้บริโภค​​”

 คุณสุภนัฐตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเต็ดตรา แพ้คที่อยากส่งต่อถึงทุกคนและทุกองค์กรธุรกิจว่า

การสร้างธุรกิจยั่งยืนไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อการเติบโตของกิจการเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยให้โลกของเราไม่ต้องสูญเสียทรัพยากรไปอย่างไม่เกิดคุณค่าเท่าที่ควร ทั้งยังเป็นการรักษาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพยากรที่มีอยู่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ธุรกิจของเราเอง ส่งผลต่อความยั่งยืนในทุก ๆ ด้านตามมาด้วย”

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

 



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online