Fast 9 หนังจารกรรมรถซิ่งที่อาจเป็นฮีโร่ฟื้นธุรกิจโรงหนังหลังปลดล็อคดาวน์

หลังซบเซาอย่างหนักจากวิกฤตโควิด อุตสาหกรรมภาพยนตร์สหรัฐฯ ก็เห็นสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน โดยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Fast 9หนังจารกรรมรถซิ่งภาคต่อ ทำเงินจากการเข้าฉายทั่วสหรัฐฯ สัปดาห์แรกไป 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,242 ล้านบาท) ถือว่าเป็นหนังเปิดตัวแรงสุด นับจากโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศต้องปิดตามมาตรการล็อกดาวน์เพราะสถานการณ์โควิดหลังไตรมาสแรกปี 2020 เป็นต้นมา

หนังภาคต่อชุด Fast and Furious ออกสตาร์ทภาคแรกในชื่อเดียวกัน ปี 2001 โดยเป็นการต่อยอดไอเดียจากข่าวการแข่งแต่งเครื่องแรงแบบผิดกฎหมายในนิวยอร์กปลายยุค 90 ในหน้าหนังสือพิมพ์

และเพื่อให้หนังได้ทุนสร้างซึ่งต้องหมดไปกับรถ และฉากเสี่ยงตาย ทีมผู้สร้างจึงต้องหานักแสดงหน้าใหม่หรือยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก

เมื่อออกฉายกลับทำเงินเกินคาด ผิดจากการหวังแค่พอคุ้มทุนและเก็บรายได้จากยอดขายวิดีโอหรือซีดี โดยความสำเร็จของภาคแรกทำให้คอหนังได้ดูหนังชุดนี้ต่อกันมาอีกหลายภาค แจ้งเกิดให้นักแสดงมากมายโดยเฉพาะ Vin Diesel เจ้าของบท Dom Toretto

Vin Diesel

ส่วนเนื้อเรื่องก็พัฒนาจากแค่ตำรวจแฝงตัวไล่จับหัวหน้าแก๊งรถซิ่งไปเป็นหนังจารกรรม มีฉากไล่ล่าสุดตื่นตาและรถแต่งเครื่องแรงให้เห็นตลอด ขณะที่ตัวละครในเรื่องและทีมนักแสดงก็ผูกพันกันเหมือนครอบครัว

ความสำเร็จของ 9 เรื่องที่ผ่านมา (8 ภาคต่อ + 1 ภาคแยก) ทำให้ Fast and Furious เป็นหนังภาคต่อที่ทำเงินทั่วโลกมากสุดอันดับ 7 ด้วยตัวเลขรายได้ 5,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 189,000 ล้านบาท) แต่วิกฤตโควิดทำให้ภาค 9 ที่ใช้ชื่อตรงว่า Fast 9 ต้องเลื่อนฉายมาจากปี 2020

ทว่าหลังรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบันที่นำโดยประธานาธิบดี Joe Biden ปูพรมกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง สถานการณ์โควิดก็ทุเลาลงตามลำดับ

และโรงภาพยนตร์กลับมาเปิดได้ใกล้เคียงกับช่วงปกติ จนหนังฟอร์มใหญ่ที่เลื่อนเพราะพิษโควิดกลับมาฉายโรงได้

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Fast 9 เข้าฉายในโรงหนัง 4,179 โรงในสหรัฐฯ ประเดิมเก็บรายได้ไป 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากสุดตั้งแต่เกิดล็อกดาวน์

และยังเป็นหนังที่เปิดตัวแรงสุดนับจากปี 2019 ต่อจาก Star Wars : The Rise of Sky Walker อีกด้วย ถือเป็นสัญญาณการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมภาพยนตร์สหรัฐฯ ทั้งระบบ ตั้งแต่การถ่ายทำไปจนถึงโรงภาพยนตร์

ความสำเร็จของFast 9มาจากการที่ตัวหนังเองก็ขายได้ เป็นหนังภาคต่อจึงมีแฟนประจำรอดู และโรงภาพยนตร์ทั่วสหรัฐฯ กลับมาเปิดได้เกือบปกติหลังสถานการณ์ระบาดลดลง

หากจากนี้รัฐบาลสหรัฐฯ สกัดโควิดกลายพันธุ์หลายสายพันธุ์ไม่ให้ ‘บุก’ เข้าประเทศได้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็จะฟื้นตัวดีขึ้นอีก โดยเกณฑ์วัดสำคัญคือการเปิดตัวแรงของ Black Widow ภาคแยกจากหนังชุด The Avengers ของ Disney ที่จะ‘ฉายควบ’ ทั้งในโรงและใน แพลตฟอร์ม สตรีมมิ่ง Disney Plus 9 กรกฎาคมนี้/cnn, variety, wikipedia, thehollywoodreporter, nbc, cnbc