ตลาดประกันชีวิต 2564 ทำไมใครๆ ก็ยังไว้วางใจแบรนด์ เอไอเอ (วิเคราะห์)
นับเป็นความสำเร็จอีกครั้งของ ‘เอไอเอ ประเทศไทย’ กับการคว้ารางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2020–2021 แบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคติดต่อกันต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 โดยในปีนี้ได้รับถึง 2 รางวัล ครอบคลุมทั้งหมวดประกันชีวิต (Life Insurance) และ หมวดประกันสุขภาพ (Health Insurance)
ในโอกาสสำคัญนี้ Marketeer ได้รับเกียรติจากคุณกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย (CEO) มาร่วมพูดคุยถึงเบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้ พร้อมเผยถึงกลยุทธ์ที่ทำให้เอไอเอ ประเทศไทยสามารถครองใจคนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 83 ปี
ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์เอไอเอ
ขอขอบคุณผู้บริโภคและลูกค้าของเอไอเอทุกท่านทั่วประเทศ ที่มอบความไว้วางใจให้เอไอเอได้เป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทยเสมอมา รางวัลทั้งสอง ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์เอไอเอ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความหมายกับเราอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องย้ำเตือนให้เราต้องรักษามาตรฐาน ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และการบริการให้ดีที่สุด เพื่อให้ผู้ถือกรมธรรม์เอไอเอทั่วประเทศได้รับประโยชน์สูงสุด”
ซีอีโอ เอไอเอ ประเทศไทย เริ่มต้นด้วยการกล่าวขอบคุณสำหรับความไว้วางใจที่ผู้บริโภคทุกท่านพร้อมใจเลือกให้เอไอเอ เป็นแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ถึง 2 หมวด พร้อมกันนี้ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า
“สำหรับเอไอเอ เรามีเป้าหมายที่ต้องการส่งเสริม และสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นไปตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เอไอเอ ประเทศไทย ในฐานะผู้นำในตลาดประกันชีวิตและสุขภาพ ได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมมากมายอย่าง โครงการ AIA Sharing A Life ที่จัดต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 8 เพื่อให้ความช่วยเหลือคนไทยในยามวิกฤตเช่นนี้ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการให้ครอบคลุม ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค”
83 ปีแห่งความมุ่งมั่น เพื่อยกระดับสังคมและคุณภาพชีวิตของคนไทย
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจคือ ‘Branding ที่แข็งแกร่งของเอไอเอ’ โดยเอไอเอ ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2481 (ค.ศ. 1938) ซึ่งนับเป็นเวลากว่า 83 ปี ที่เอไอเอเติบโตพร้อมความมุ่งมั่นที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับสังคม และคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น
“เรามีกลยุทธ์ที่ชัดเจน เพื่อเป็นบริษัทประกันชีวิตที่อยู่เคียงข้างคนไทยในทุกช่วงชีวิต โดยมุ่งตอบสนองทั้งด้านความคุ้มครอง และการวางแผนทางการเงินระยะยาวของลูกค้า ด้วยผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ รวมไปถึงยูนิต ลิงก์ ที่หลากหลาย ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการในแต่ละช่วงชีวิต”
ที่สำคัญคือ พลังตัวแทนประกันชีวิตที่แข็งแกร่ง โดยเอไอเอมีตัวแทนที่ได้รับคุณวุฒิ MDRT มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่การันตีได้ถึงคุณภาพการบริการ ให้ลูกค้าเอไอเอมั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมจากตัวแทนมืออาชีพ
“เรายังคงเดินหน้าพัฒนาคุณภาพตัวแทนของเราอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้าง AIA Financial Advisor หรือ AIA FA ที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตและการเงินมืออาชีพ ที่สามารถดูแลลูกค้าและให้คำปรึกษาได้อย่างครบวงจร อย่างไรก็ดี เรามีเป้าหมายที่ต้องการให้ตัวแทนประกันชีวิตของเราทุกคน ก้าวไปสู่การเป็น MDRT อันถือเป็นความสำเร็จสงสุดของบุคลากรในสายอาชีพประกันและสายการเงิน โดยเอไอเอพร้อมให้การสนับสนุนตัวแทนเพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพอย่างรอบด้าน”
ไม่เพียงเท่านั้น ในช่วงที่สถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และอาจส่งผลกระทบกับงานประจำที่บางท่านทำอยู่ เอไอเอจึงได้พัฒนาโปรแกรม AIA Life Advisor หรือ AIA LA เพื่อสรรหาตัวแทนใหม่ พร้อมช่วยผลักดันให้ก้าวสู่การเป็นที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตภายใน 2 เดือน ผ่านการเรียนรู้ออนไลน์และการทำกิจกรรมที่ให้ความรู้ รวมถึงเทคนิคการขายที่สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งสามารถทำควบคู่ไปกับงานประจำ เพื่อให้ AIA LA เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเป็นอาชีพเสริม ที่ในอนาคตอาจกลายเป็นอาชีพหลักได้
ปรับตัวรวดเร็ว ด้วยทรัพยากรบุคคลคุณภาพ
พร้อมมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
“การที่เราจะสามารถรักษาความเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับ 1 ในประเทศไทยได้นั้น ต้องอาศัยการทำงานที่มองไปข้างหน้าเสมอ และถึงแม้เอไอเอจะเป็นองค์กรใหญ่ แต่เราปรับตัวค่อนข้างรวดเร็ว เพื่อให้ทันต่อความคาดหวังและความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ เรายังมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และการบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา”
คุณกฤษณ์กล่าวถึงปัจจัยสำคัญต่าง ๆ ที่เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของเอไอเอ พร้อมอธิบายถึงนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่เอไอเอคิดค้นและเพิ่งเปิดตัวไปไม่นานอย่าง ‘AIA iSign’ นวัตกรรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในกระบวนการสมัครทำประกันภัยแบบไม่ต้องพบหน้า ซึ่งสอดรับกับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และวิถีชีวิตแบบ New Normal
โดยลูกค้าสามารถลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อทำการยืนยันใบคำขอเอาประกันภัยผ่านระบบ AIA iSign ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยสูง ซึ่งตัวแทนของเอไอเอสามารถทำการเสนอขายประกันได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต สุขภาพ และยูนิต ลิงก์ ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า และเป็นการ ตอกย้ำว่าเอไอเอ เป็นที่หนึ่งในด้านนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้รับความคุ้มครองที่เพียงพอ และเหมาะสมอย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19
อีกหนึ่งกุญแจหลักที่คุณกฤษณ์มองว่าสำคัญมาก ๆ คือ “ทรัพยากรบุคคล”
“เรามีพนักงานที่มีคุณภาพและมาจากหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในแวดวงธุรกิจประกันชีวิต ทำให้เราได้มุมมองการทำงานที่ครอบคลุมและหลากหลาย ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบหลักที่ทำให้เอไอเอสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ยิ่งไปกว่านั้น เรามี คอร์สสำหรับฝึกอบรมพนักงานและตัวแทนที่ครอบคลุมหลายแขนงวิชา พร้อมสนับสนุนให้พนักงานและบุคลากรทุกคนในองค์กรได้มีการพัฒนาความรู้และทักษะการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความรู้ ด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี จึงมั่นใจได้ว่าพนักงานและตัวแทนทุกคนพร้อมปรับตัวในทุกการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า อย่างไรก็ดี เรายังคงมองหาบุคลากรมากความสามารถมาร่วมกันพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน”
พร้อมตอบรับทุกเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค
อย่างที่ทราบกันดีว่า สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพ และตระหนักถึงความสำคัญในการมีประกันชีวิตและประกันสุขภาพมากขึ้น เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายหากเกิดเหตุไม่คาดคิด ส่งผลให้การแข่งขันของตลาดประกันสุขภาพยังคงความเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากความต้องการในส่วนของประกันสุขภาพที่ครอบคลุมมากขึ้น คุณกฤษณ์ยังมองว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการไม่เคยเปลี่ยนคือ บริการที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว
“ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมีความคาดหวังที่จะได้รับบริการที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ทำให้ปัจจุบันการแข่งขันในการพัฒนาการบริการด้านต่าง ๆ โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
เอไอเอ มีการผลักดัน Digital Transformation เพื่อนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนการทำงานและการให้บริการลูกค้าของฝั่งตัวแทน ให้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันเรามีมากกว่า 12 บริการดิจิทัลที่สนับสนุนการทำงานดังกล่าว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด”
สำหรับกลยุทธ์ที่จะใช้ขับเคลื่อนองค์กรเพื่อตอบสนองต่อเทรนด์ใหม่ ๆ ของผู้บริโภคนั้น ‘ซีอีโอคนไทยคนแรกของ เอไอเอ ประเทศไทย‘ ได้กล่าวไว้ในแผนสร้างความเป็นหนึ่งในทุกด้าน โดยมี 5 เป้าหมายสำคัญของบริษัท ได้แก่
- เอไอเอ เป็นหนึ่ง: ทุกฝ่ายในองค์กรทำงานร่วมกันอย่างเป็นหนึ่งเดียวในการดูแลลูกค้าและตัวแทน
- เอไอเอ ยืนหนึ่ง: ในทุกมาตรวัด ไม่ว่าจะเป็นส่วนแบ่งการตลาด กำไร ขนาดธุรกิจและสินค้าที่ดีสุดในตลาด
- การที่ เอไอเอ เป็นที่หนึ่ง : นำเสนอนวัตกรรมทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และบริการก่อนผู้อื่นเสมอ
- ทำให้เอไอเอ เป็นบริษัทไทย เพื่อคนไทยอย่างแท้จริง
- เอไอเอ ต้องการเปลี่ยนบริบทจากการเป็นเพียงผู้จ่ายเคลม หรือ Payor เป็น Partner ที่เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้า เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น
ส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับสังคม พร้อมยืนหยัดเคียงข้าง ตลาดประกันชีวิต ในทุกช่วงสถานการณ์
ไม่เพียงแต่การดำเนินการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า แต่เอไอเอยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือสังคมผ่านโครงการดี ๆ รวมไปถึงมาตรการช่วยเหลือพิเศษมากมาย
อาทิ การสานต่อโครงการ ‘AIA Sharing A Life’ หรือ ‘วันทำดีร่วมกัน’ ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8 ภายใต้ธีม ‘สู้วิกฤตโควิด-19’ โดยผนึกกำลังพนักงานและตัวแทนประกันชีวิตในท้องถิ่นทั่วประเทศ ร่วมมือกันทำความดีตอบแทนคืนสู่สังคม ด้วยการมอบเงินจำนวนทั้งสิ้น 2 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลสนาม 20 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับนำไปสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์และช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19
นอกจากนี้ เอไอเอ ประเทศไทย ยังเป็นบริษัทแรกที่เคาะมาตรการพิเศษ ขยายความคุ้มครองกรณีการแพ้วัคซีนโควิด-19 สำหรับสัญญาเพิ่มเติมกลุ่มค่ารักษาพยาบาล และกลุ่มชดเชยรายได้ที่มีข้อยกเว้นเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด พร้อมทั้งมาตรการลดระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (waiting period) กรณีติดเชื้อโควิด-19 จาก 30 วัน เหลือ 14 วัน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้เอาประกันภัยไปจนถึงสิ้นปี 2564
รวมถึงการร่วมมือกับ 46 โรงพยาบาลคู่สัญญา ประกาศขยายระยะเวลาบริการการเรียกร้องสินไหมผู้ป่วยนอก (OPD) ผ่านทางโทรศัพท์ (Telemedicine) และ/หรือการโทรทางไกลผ่านระบบวิดีโอ (Video Call) สำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่มีความจำเป็นต้องติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 และเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เอาประกันภัยมากขึ้น จึงได้เปิดบริการเรียกร้องสินไหมค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกตามสิทธิความคุ้มครองที่ซื้อไว้ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย (OPD Cashless Claims)
แทนคำขอบคุณด้วยคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’
สุดท้ายนี้ ซีอีโอ เอไอเอ ประเทศไทย ได้กล่าวขอบคุณผู้บริโภคทุกท่านที่ยังคงไว้วางใจในแบรนด์เอไอเอเสมอมา
“ขอขอบคุณผู้บริโภคและลูกค้าของเอไอเอ ประเทศไทย ทุกท่าน ที่ให้ความไว้วางใจแก่เอไอเอเป็นอย่างดีเสมอมา ซึ่งทั้งสองรางวัลที่เราได้รับในครั้งนี้มีความหมายกับเราเป็นอย่างมาก และเราจะยังคงมุ่งมั่นรักษามาตรฐานทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และบริการให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือกรมธรรม์เอไอเอทั่วประเทศ ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ สุดท้ายนี้เอไอเอ ขอเป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้างคนไทยให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ด้วยกายและใจที่แข็งแรงไปด้วยกัน”
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ