ที่สุดสองนักกีฬาชาวอัฟกันก็เดินทางถึงญี่ปุ่นเพื่อลงแข่งใน โตเกียว พาราลิมปิก แต่เรื่องราวก่อนหน้านั้นคือภารกิจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ครั้งใหญ่ซึ่งทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมควรได้เหรียญทอง
วานนี้ (31 สิงหาคม) Hossain Rasouli นักกรีฑาพาราลิมปิกชาวอัฟกันที่เดินทางถึงญี่ปุ่นเมื่อไม่กี่วันก่อนพร้อม Zakia Khudadadi นักเทควันโดหญิง พาราลิมปิกร่วมชาติ ได้ลงแข่งกระโดดไกลแทนวิ่ง และทำระยะได้เป็นที่สุดท้าย
แต่เขายังได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมที่บางตาในสนามกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่นเพราะเป็นการจัดภายใต้มาตรการป้องกันการระบาดเข้มงวดในสถานการณ์โควิด
Roderick Townsend ที่ทำระยะได้ดีกว่าจนคว้าเหรียญเงินไป ยอมรับว่าตกใจที่เห็นชื่อของ Hossain Rasouli ปรากฏเพิ่มขึ้นมาอีก ทำให้จำนวนผู้แข่งขันเพิ่มจาก 12 เป็น 13 คน
Roderick Townsend แต่เรื่องการได้แค่เหรียญเงินของตนเป็นแค่เรื่องเล็กไปเลยเมื่อได้รู้ว่า นักกีฬา Hossain Rasouli ต้องฝ่าความลำบากและเสี่ยงตายแค่ไหนเพื่อให้ได้มาพาราลิมปิกครั้งนี้
ความยากลำบากและเสี่ยงตายที่ Roderick Townsend กล่าวถึงคือ Hossain Rasouli กับ Zakia Khudadadi ใช้ความพยายามแบบสุดชีวิตในการออกจากอัฟกานิสถาน หลังตาลีบันยึดคืนอำนาจเมื่อกลางสิงหาคม และสหรัฐฯ พร้อมด้วยกองกำลังนานาชาติกำลังเร่งถอนทหารและอพยพผู้คนจนเป็นข่าวสร้างความกังวลไปทั่วโลก
อุปสรรคในการออกมาจากอัฟกานิสถานของทั้ง 2 เริ่มขึ้นหลังเจ้าหน้าที่พาราลิมปิกอัฟกานิสถาน ต้องเสี่ยงชีวิตเอาเอกสารสำคัญต่าง ๆ ไปให้พวกเขา
พอได้เอกสารมา ทั้งคู่ก็พลัดหลงกับเจ้าหน้าที่พาราลิมปิกอีกกลุ่มที่จะต้องเดินทางไปญี่ปุ่นด้วยกัน จนเป็นที่มาว่าทำไมทั้งคู่จึงไม่ได้ไปร่วมพิธีเปิดและมีแต่การพาธงชาติอัฟกันเข้าสนามแบบไร้นักกีฬาเดินตาม
ทว่าทั้งคู่ก็ไม่ละความพยายามใช้ WhatsApp ติดต่อขอความช่วยเหลือไปเรื่อย ๆ โดยหลังทราบจากเพื่อนนักกีฬาร่วมชาติว่ารัฐบาลออสเตรเลียพร้อมให้วีซ่าและอนุญาตให้ย้ายไปอยู่จึงส่งข้อความไปหา
อีกเกือบ 1 วันต่อมา เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียที่ดำเนินการปฏิบัติการ Dust in the Eyes เพื่อช่วยชาวอัฟกัน ซึ่งในจำนวนนี้มีนักกีฬารวมอยู่ด้วยหลายคน ก็ติดต่อกลับมา โดยฝ่ายออสเตรเลียเตือนให้ทั้งคู่พับเก็บเอกสารสำคัญกับเงินไว้ใต้ชุดชั้นใน เปิด Smartphone ไว้ให้นานที่สุด ปิดชั่วคราวเมื่อผ่านจุดตรวจของตาลีบัน
เปิดอีกครั้งเพื่อให้ตามสัญญาณ GPS และนัดแนะทั้งคู่ว่าให้โบกผ้าสดใสให้เห็นชัด ๆ ทันทีที่ผ่านเข้ามาในสนามบินได้ โดยไม่นานจากนั้น ทั้งคู่ก็ได้ขึ้นเครื่องบินกองทัพออสเตรเลียอย่างปลอดภัยแล้วมาลงที่ดูไบ บินต่อไปฝรั่งเศสเพื่อพักและฝึกซ้อมที่ศูนย์กีฬาในฝรั่งเศสอยู่หลายวัน ระหว่างนั้นก็ต้องตรวจโควิดตลอด
ที่สุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคมทั้งคู่ก็ได้เดินทางถึงญี่ปุ่น ผ่านความช่วยเหลือของคณะกรรมการพาราราลิมปิก โดยในส่วนของ Hossain Rasouli ซึ่งพิการจากมือข้างหนึ่งขาดไปเพราะถูกกับระเบิด มาไม่ทันรอบคัดเลือกวิ่ง 100 เมตรตามที่ถนัด ทางฝ่ายจัดแข่งขันเสนอให้ลงแข่งวิ่ง 400 เมตรแทน
แต่เจ้าตัวปฏิเสธ และขอลงกระโดดไกล ประเภท T47 ซึ่งแขนพิการและขาสองข้างสมบูรณ์แทน หลังฝ่ายจัดการแข่งขันอนุญาต Hossain Rasouli ก็ได้ซ้อมเมื่อวันจันทร์ที่ 30 สิงหาคมเพียง 90 นาทีเท่านั้น และลงแข่งเมื่อในวันต่อมา
เพราะไม่ถนัดและมีเวลาซ้อมน้อย เขาจึงทำระยะได้ดีสุดเพียง 4.46 เมตร เป็นที่ 13 รั้งท้ายจากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด ห่างแบบขาดลอยจาก Robiel Yankiel Sol เจ้าของเหรียญทองชาวคิวบา ที่ระยะได้ดีสุด 7.46 เมตร
การทำระยะได้ดีที่สุดของ Robiel Yankiel Sol ยังทำลายสถิติที่ Roderick Townsend ชาวอเมริกันทำไว้ใน ริโอ พาราลิมปิก เมื่อ 4 ปีก่อน Roderick Townsend จึงได้แค่เหรียญเงิน
นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไม Roderick Townsend เกือบหลุดปากบ่นเสียดายที่ทำได้แค่เหรียญเงิน แต่เมื่อทราบเรื่องของ Hossain Rasouli จึงเลือกที่จะเงียบไว้ และขอชื่นชมการฝ่าอุปสรรคมา โตเกียว พาราลิมปิกของ Hossain Rasouli นั่นเอง
ส่วน Zakia Khudadadi จะลงแข่งเทควันโดหญิง ประเภท K44 ที่แขนพิการแต่ขายังสมบูรณ์ รุ่นน้ำหนัก 49 กิโลกรัมวันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายนนี้
คาดว่าหลังจบ โตเกียว พาราลิมปิก เธอกับ Hossain Rasouli คงเดินทางต่อไปยังออสเตรเลียและปักหลักอาศัยอยู่จนกว่าสถานการณ์ในอัฟกานิสถานจะดีขึ้น เพราะได้รับวีซ่าด้านมนุษยธรรมจากรัฐบาลออสเตรเลีย เรียบร้อยแล้ว
ด้านสื่อออสเตรเลียที่เกาะติดภารกิจช่วยเหลือชาวอัฟกันซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งนักฟุตบอลหญิงทีมชาติและสองนักกีฬาพาราลิมปิก ที่เป็นต้นเรื่องโดยตลอดรวมอยู่ด้วย เรียกการประสานงานครั้งใหญ่ระหว่างหลายชาติ-หลายฝ่ายแต่มีจุดประสงค์เดียวกันว่า Oarsome Foursome
ตามชื่อทีมพายเรือชายสี่คนของออสเตรเลีย ซึ่งเคยคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้สองสมัย และแชมป์โลกอีกสามสมัย/theguardain, sbs, abc, wikipedia, olympics, bbc
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



