ตลาดน้ำผสมวิตามินมูลค่า 2,412 ล้านบาท สนุกอีกครั้ง

เมื่อหน้าร้อนนี้แบรนด์น้ำผสมวิตามินเบอร์ 1 และ 2 อย่างวิตอะเดย์และยันฮี เปิดเกมแข่งขันในตลาดด้วยการเปิดตัวน้ำดื่มผสมวิตามินรสชาติใหม่ ๆ เข้ามาดึงเม็ดเงินในกระเป๋าผู้บริโภค เพื่อเป้าหมายคืออัตราการเติบโตของส่วนแบ่งตลาดที่เบอร์หนึ่งและเบอร์สองมีส่วนแบ่งตลาดห่างกันเพียง 3% เท่านั้น

และยังเป็นการแย่งชิงพื้นที่แข่งขันจากคู่แข่งอื่น ๆ ที่มากกว่า 10 แบรนด์ในตลาด

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแบรนด์น้ำดื่มผสมวิตามินในตลาดนอกจากวิตอะเดย์และยันฮีแล้ว จะมีส่วนแบ่งตลาดไม่มากนัก

 

วิตอะเดย์ให้ข้อมูลอ้างอิงจาก Nielsen IQ : Retail Index ก.พ. 2565 พบว่า ส่วนแบ่งตลาดน้ำผสมวิตามิน

วิตอะเดย์มีส่วนแบ่งตลาด 35%

ยันฮี 32%

บลู 9%

 และอื่น ๆ 24%

 

เหตุผลที่แบรนด์น้ำดื่มผสมวิตามินออกสินค้าใหม่มาประกบในช่วงหน้าร้อน มาจากเทรนด์การเติบโตของผู้บริโภคที่รักสุขภาพหันมาดื่มน้ำผสมวิตามินและสมุนไพรมากขึ้น

และช่วงเวลาหน้าร้อนเป็นไฮซีซันของเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมซื้อดื่มดับกระหายคลายร้อน และเพื่อความสดชื่น ซึ่งน้ำผสมวิตามินเป็นหนึ่งในนั้น

 

การแข่งขันระหว่างวิตอะเดย์และยันฮีในหน้าร้อนนี้จึงใช้รสชาติใหม่ ๆ มาเป็นจุดขาย

หน้าร้อนนี้วิตอะเดย์เปิดตัวน้ำดื่มผสมวิตามินใหม่ 2 รายการ

ตัวแรกคือวิตอะเดย์ เฮอร์เบิล วอเตอร์ น้ำสมุนไพรสกัดผสมวิตามินซีสูง 200%

และตัวที่สอง คือ วิตอะเดย์ น้ำวิตามินบีรวม กลิ่นชานมไต้หวัน

การเปิดตัวน้ำดื่มผสมวิตามินถึง 2 รายการ เรามองว่าส่วนหนึ่งมาจากวิตอะเดย์ต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายในเซกเมนต์ที่ลงลึกขึ้น

เพราะการออกน้ำสมุนไพรสกัดผสมวิตามินซีจะสามารถเป็นจุดขายที่เข้าไปในกลุ่มลูกค้าที่นิยมรับประทานสมุนไพรเพื่อบำรุงสุขภาพ ซึ่งในอดีตกลุ่มนี้อาจจะไม่ดื่มน้ำผสมวิตามิน หรือดื่มในปริมาณที่ไม่มากนัก เพราะมองว่าเป็นเครื่องดื่มที่ได้ประโยชน์เฉพาะวิตามินเท่านั้น

 

ส่วนน้ำผสมวิตามินบีรวม กลิ่นชานมไต้หวัน เรามองว่าเป็นกิมมิกการตลาดที่สร้างกระแสให้พูดถึงจากความย้อนแย้งของเครื่องดื่มผสมวิตามิน คือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และเครื่องดื่มประเภทชานมไต้หวัน เป็นเครื่องดื่มที่ไม่ได้ตอบโจทย์สุขภาพเท่าไรนัก

และในความย้อนแย้งนี้ยังเป็นจุดขายที่สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ชอบดื่มชานมไต้หวันแต่ไม่กล้าดื่มทุกวันเพราะกลัวจะได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจากการดื่ม

แต่การออกน้ำผสมวิตามินบีรวม กลิ่นชานมไต้หวัน แม้จะมีจุดขายที่น่าสนใจเรื่องกลิ่นที่เหมือนชานมไต้หวัน แต่เรามองว่าเป็นจุดขายที่สามารถเจาะชานมไต้หวันเลิฟเวอร์ได้บางกลุ่มเท่านั้น เพราะการดื่มชานมไต้หวันนอกเหนือจากกลิ่นหอมของชานมไต้หวันแล้ว ผู้บริโภคยังดื่มเพราะรสสัมผัสอื่น ๆ ที่รวมเป็นชานมไต้หวันด้วย

 

สำหรับยันฮี ผู้ได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์แรกในน้ำดื่มผสมวิตามิน ได้เปิดตัวยันฮี วิตามิน ซี กระชายขาว เข้ามาต่อกรวิตอะเดย์ในตลาดน้ำดื่มผสมวิตามิน

เหตุผลที่ยันฮีนำวิตามิน ซี กระชายขาวเข้ามาทำตลาดเสริมทัพน้ำดื่มผสมวิตามิน 4 รสชาติเดิมที่มีอยู่ เรามองว่า มาจากการมองเห็นโอกาสในตลาดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากคุณสมบัติของกระชายขาวที่เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านทานสูงที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัส

เพราะก่อนหน้านั้นคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS เคยวิจัยพบว่า กระชายขาวประกอบด้วยสารสำคัญ 2 ชนิด ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อในหลอดทดลองอย่างได้ผล ได้แก่ Panduratin A และ Pinostrobin โดยจะทำหน้าที่เป็นกลไกต้านเชื้อโควิด-19 ลดจำนวนเซลล์ที่ติดเชื้อ และยับยั้งการผลิตไวรัสออกมาจากเซลล์

แต่กระชายขาวแม้จะมีประโยชน์แต่ถ้าดื่มในปริมาณมากเกินไปมีผลเสีย เช่น อาการร้อนใน จากกระชายที่เป็นสมุนไพรฤทธิ์ร้อนเช่นกัน

 

อย่างไรก็ดี การแข่งขันในตลาดน้ำดื่มผสมวิตามินในปีนี้สนุกขึ้นอย่างแน่นอน เพราะอย่างน้อยเราได้เห็นสีสันการแข่งขันจากแบรนด์หลักทั้ง 2 แบรนด์แล้ว

I-



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online