รัฐบาลของประเทศเกาะแถบเอเชียใต้ยังคงใช้ทุกวิธีในการคลายวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงสุดนับจากได้เอกราช
รัฐบาลศรีลังกามีแผนจะออกวีซ่าระยะยาวให้ชาวต่างชาติฐานะการเงินดีให้มาใช้ชีวิตและทำธุรกิจในประเทศแบบระยะยาว เพราะหวังว่าน่าจะเป็นอีกทางที่จะช่วยคลายวิกฤตเศรษฐกิจ
โลกจับตามองสถานการณ์ในศรีลังกามาตั้งแต่ปี 2021 เพราะผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหายไป พาให้สถานะทางการเงินของประเทศเกิดปัญหา จนเงินขาดมืออย่างหนัก และต้องใช้ใบชาอันเป็นสินค้าส่งออกสำคัญจ่ายแทนเงินในการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน
และส่งผลกระทบต่อเนื่องให้ไม่สามารถจ่ายหนี้ 4,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 151,100 ล้านบาท) รัฐบาลจีน ได้ตามกำหนด จากนั้นปัญหาก็พอกพูนขึ้นอีก จนประเทศเผชิญวิกฤตหนี้ เสี่ยงจะล้มละลาย ถือเป็นวิกฤตการเงินครั้งใหญ่สุดของศรีลังกา นับตั้งแต่ที่ได้รับเอกราชจากอังกฤษ เมื่อปี 1948
มาปีนี้ปัญหาเหล่านี้ทวีความรุนแรงขึ้นอีกจนประชาชนที่เผชิญปัญหาข้าวยากหมากแพงประท้วงกดดันจนรัฐบาลต้องลาออก แต่ประธานาธิบดี Gotabaya Rajapaksa ยังยืนกรานที่จะอยู่ในอำนาจต่อไป และพยายามทำทุกทางเพื่อคลายวิกฤตนี้
ล่าสุดรัฐบาลศรีลังกาชุดใหม่เผยว่า มีแผนออกวีซ่าระยะยาว 10 ปีให้กับชาวต่างชาติที่มีเงินฝากในศรีลังกา 100,000 ดอลลาร์ (ราว 3.4 ล้านบาท) ขึ้นไป ตามโครงการวีซ่าสวรรค์สีทอง (Golden Paradise Visa Program) เพื่อให้คนกลุ่มนี้ได้ชีวิตและทำธุรกิจแบบระยะยาว
พร้อมกันนี้ยังจะออกวีซ่าระดับรอง อยู่ในประเทศได้ 5 ปีกับชาวต่างชาติที่ใช้เงิน 75,000 ดอลลาร์ (ราว 2.5 ล้านบาท) ซื้ออพาร์ตเมนต์ในศรีลังกาอีกด้วย
Nalaka Godahewa รัฐมนตรีกระทรวงสื่อสารมวลชนศรีลังกา กล่าวว่าโครงการนี้จะเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งในการคลายวิกฤตหนี้ที่ร้ายสุดนับจากเป็นเอกราช เพราะการใช้จ่ายและทำธุรกิจของชาวต่างชาติจะทำให้ศรีลังกามีเม็ดเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจนั่นเอง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นขณะที่รัฐบาลศรีลังกา ทำทุกทางในการคลายวิกฤตครั้งนี้ และเริ่มมีแนวโน้มที่ดี โดยรัฐบาลศรีลังกาเผยว่า ธนาคารโลกอนุมัติเงินช่วยเหลือ 600 ล้านดอลลาร์ (ราว 20,600 ล้านบาท) และได้เริ่มเจรจารอบใหม่กับรัฐบาลจีนเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้/cna
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



