Marketeer พาสำรวจและเก็บตกความน่าสนใจของ “ศูนย์นวัตกรรม 5G A-Z Center” แห่งแรกในไทย โดยความร่วมมือของ AIS และ ZTE หลังการลงนามข้อตกลงในฐานะพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี 5G เพิ่มขีดความสามารถ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับไทย
ซึ่ง AIS ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายที่มีคลื่นความถี่ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดในไทย ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับประเทศอย่างยั่งยืน จนเป็นที่มาของความร่วมมือกับ ZTE ในระดับยุทธศาสตร์
โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย
1. ยกระดับโครงข่าย 5G ของไทยให้ก้าวสู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมาตรฐานระดับโลก เป็นมากยิ่งกว่าโครงข่ายที่เร็วที่สุด พร้อมก้าวสู่โครงข่ายอัจฉริยะที่ควบคุมสั่งการได้ด้วยตัวเองแบบ Real Time (5G Smart Autonomous Network)
2. ร่วมกันพัฒนาโซลูชั่นเพื่อภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม ภาคประชาชน เสริมขีดความสามารถทางการแข่งขัน ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0
3. ส่งต่อบริการจาก 5G หลากหลายรูปแบบ ที่เป็นประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนไปยังคนไทย
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS กล่าวว่า “ศูนย์นวัตกรรม 5G A-Z Center แห่งแรกของไทย เป็นศูนย์กลางการทำงานตามเป้าหมายข้างต้น เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของประเทศไทยให้เดินหน้าไปอีกขั้น โดยมี 5G เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศ
เฉพาะอย่างยิ่งภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม ที่เริ่มทำ Digital Transformation เพื่อเสริมประสิทธิภาพ และยกระดับการบริหารจัดการ อันจะส่งผลโดยตรงต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ”
ในส่วนของความร่วมมือในฐานะพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลสู่การจัดตั้ง ศูนย์นวัตกรรม A-Z Center ครั้งนี้ สวี จือหยาง ซีอีโอ ZTE Corporation ผู้พัฒนาดิจิทัลเทคโนโลยีระดับโลกจากประเทศจีน ได้เสริมว่า ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาที่สามารถนำเสนอนวัตกรรมทางเทคโนโลยีได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะยิ่งการนำเอาโครงข่าย 5G มาวางรากฐานด้านการวิจัยและพัฒนาจะทำให้เกิด Use Case ใหม่ ๆ ในอนาคตที่พร้อมรองรับทั้งความต้องการของลูกค้าและการเพิ่มโอกาสให้กับภาคธุรกิจ
โดย ศูนย์นวัตกรรม 5G A-Z Center จะเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมและโซลูชั่นที่ครบถ้วนที่สุด ทั้งการติดตั้งสถานีฐานทุกย่านความถี่เพื่อการทดลองทดสอบ พร้อมเทคโนโลยีเครือข่ายต้นแบบที่จะพลิกโฉมการพัฒนาเครือข่าย 5G ในประเทศไทย โซลูชั่นต้นแบบเพื่อภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ (5G Vertical Industry Applications) รวมถึงอุปกรณ์สื่อสารปลายทาง (Smart Terminal) ที่จะมีการหมุนเวียนมาทดสอบและจัดแสดง
ในเบื้องต้นประกอบด้วย
1. Next Generation Products for 5G Capability Growth
เทคโนโลยีเครือข่ายที่พร้อมรองรับ 5G โดย ZTE ในฐานะผู้พัฒนา ได้ขับเคลื่อนนวัตกรรมผ่านแนวคิด “1+2+3” ที่ประกอบไปด้วย 1. เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน 2. พันธุกรรมรากฐานต้นแบบ และ 3. สามองค์ประกอบที่ยกระดับการต่อยอดและขยายผล เพื่อให้เกิดประสิทธิผลมากที่สุด อาทิ
- Radio Composer ครั้งแรกในโลก : อันเกิดจากการทำงานร่วมกับ AIS ในการพัฒนา AAU (Active Antenna Unit) 5G mmWave bandwidth support 1.2GHz, AAU 5G 2.6GHz ที่ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า โดยอุปกรณ์ 5G radio ใหม่นี้ถูกออกแบบให้ตรงกับความต้องการและส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าเอไอเอสและยังเป็นมิตรกับธรรมชาติเพื่อความยั่งยืนทางพลังงานอีกด้วย
- RIS (Reconfigurable Intelligent Surface) : อุปกรณ์ช่วยสะท้อนสัญญาณ 5G ที่พัฒนามาสำหรับคลื่น 26 GHz หรือ mmWave ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขยายสัญญาณโครงข่าย 5G ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
2. 5G Use Cases
เชื่อมต่อการใช้โครงข่าย 5G ไปยังภาคอุตสาหกรรม อาทิ 5G Natural Navigation AGV หรือรถขนถ่ายสินค้าอัตโนมัติที่ embedded 5G module สามารถใส่ซิมการ์ด 5G ได้เลย ง่ายต่อการใช้งานโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ เพราะไม่ต้องติดตั้ง Wi-Fi
- 5G Machine Vision : ระบบที่ใช้สำหรับงานตรวจสอบทางกายภาพของผลิตภัณฑ์ผ่าน 5G โดยมีระบบการประมวลผลที่ใกล้เคียงกับการทำงานของมนุษย์ สามารถตัดสินใจได้และส่งผลลัพธ์ที่ต้องการได้ตามโปรแกรมที่กำหนดไว้
- 5G XR Explorer : ระบบที่นำ XR เข้ามาใช้งานผ่าน 5G, XR หรือ Extended Reality เป็นเทคโนโลยีเสมือนจริงที่ผสมผสานหลากหลายมิติเข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมในโลกจริง สภาพแวดล้อมดิจิทัล รวมถึงการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์หรือเทคโนโลยีสวมใส่ นำไปใช้ในการ Training หรือ Guidance ได้
- 5G Holographic : เทคนิคการสร้างภาพสามมิติ ที่ถูกนำมาปรับใช้อย่างแพร่หลาย อาทิ การประชุมทางไกล การศึกษาและงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ หรือเมตาเวิร์ส เหมาะกับการใช้แบนด์วิธขนาดใหญ่ เช่น AR หรือ VR ถือเป็นการทลายขีดจำกัดระหว่างโลกเสมือนและโลกแห่งความจริงให้สามารถเชื่อมต่อได้อย่างไร้รอยต่อด้วย 5G
3. Diversified 5G Terminal Devices
AIS ร่วมกับ ZTE เปิดตัวสมาร์ตโฟน 5G ZTE Blade A72 ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือ 5G ที่มีประสิทธิภาพและราคาคุ้มค่าที่สุดสำหรับตลาดสมาร์ตโฟนในไทย โดยคาดว่าจะเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2565
รวมไปถึง Smart Terminal อื่น ๆ เช่น 5G CPE และ 5G Router ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำภาพ ZTE ในฐานะผู้ให้บริการ End-to-End เพียงรายเดียวที่ทำงานร่วมกับ AIS ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายที่จะทำให้เกิดประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภค
สรุป
ความร่วมมือในครั้งนี้ระหว่าง AIS กับ ZTE นับเป็นก้าวสำคัญที่แสดงออกถึงความพร้อมในการต่อยอดเป้าหมาย Cognitive Tech-Co ของ AIS ที่ได้ประกาศไว้เมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นโรดแมปอย่างชัดเจนในการพัฒนาโครงข่าย 5G ที่วันนี้ก้าวสู่การเป็น 5G Smart Autonomous Network ทั้งในแง่ของการส่งมอบประสบการณ์ที่ดี การสร้างโอกาสให้กับภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งการสร้างนวัตกรรมและโซลูชั่นมิติใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาขานรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับไวของบริบททางสังคม ตลอดจนการสร้างระบบเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับไทยในอนาคตได้อย่างยอดเยี่ยม
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ