ท่ามกลางแสงไฟสีสันตระการตาในสเตเดียมที่เนืองแน่นไปด้วยแฟนคลับ และเสียงรัวแป้นพิมพ์ที่รวดเร็วเกิน ใครจะเชื่อว่าครั้งหนึ่ง วิดีโอเกม และเกมออนไลน์ ที่ต่อมาเรียกรวมกันว่า E-sport นี้ เคยถูกตราหน้าว่าเป็นหนึ่งในสี่ “มหันตภัยทางสังคม” ของเกาหลีใต้เคียงคู่ไปกับยาเสพติด การพนัน และสุรา

ภาพของเยาวชนที่นั่งจมอยู่หน้าจอกลายเป็นความกังวลระดับชาติจนนำไปสู่กฎหมายควบคุมที่เข้มงวดที่สุดในโลก ทว่าในระยะเวลาเพียงทศวรรษเดียว เกาหลีใต้ได้เปลี่ยนผ่านตัวเองจากประเทศที่มองว่าเกมคือ “สารเสพติด” มาเป็นประเทศที่ส่งออกวัฒนธรรมการเล่นเกมจนกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้มหาศาล

ปัจจุบันเกาหลีใต้กลายเป็นต้นแบบของโรงเรียนฝึกหัดเกมเมอร์ระดับโลกที่ผลิตเกมเมอร์ชั้นนำเข้าสู่ตลาดงานที่ทำเงินได้มหาศาล แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องมีความสามารถที่ถึงเกณฑ์ที่ตั้งไว้เท่านั้น

จุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงนี้ถูกสะท้อนผ่านเรื่องราวของ ซน ชี-อู หรือที่รู้จักกันในนาม “Lehends” ยอดฝีมือแห่งเกม League of Legends เขาเล่าถึงความทรงจำอันขมขื่นในอดีตที่แม่เคยเดินมาดึงปลั๊กคอมพิวเตอร์ออกขณะที่เขากำลังสัมภาษณ์เพื่อเข้าเป็นนักแข่งอาชีพ

ในตอนนั้น แม่ของเขาเชื่อว่าเกมทำให้ลูกของเธอมีพฤติกรรมก้าวร้าวและเสพติด แต่หลังจากที่ซนชนะการแข่งขันระดับสมัครเล่นและนำเงินรางวัลก้อนแรกกลับไปให้พ่อแม่ ความอคติเหล่านั้นก็เริ่มพังทลายลง

ปัจจุบันซนไม่ใช่แค่เด็กติดเกมในวันนั้น แต่เขาคือซูเปอร์สตาร์ภายใต้สังกัด Nongshim RedForce ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่และเป็นแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใหญ่สุดของประเทศ โดยภาพลักษณ์ของเขาในตอนนี้ไม่ต่างจากไอดอลที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่

ความเปลี่ยนแปลงนี้สอดคล้องกับนโยบายระดับรัฐ เมื่อประธานาธิบดี อี แจ-มยอง ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า “เกมไม่ใช่สารเสพติด” ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนมุมมองของคนในชาติ และการปฏิรูปครั้งสำคัญนำมาสู่การสั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่อายุไม่ถึง 16 เล่นเกมออนไลน์ระหว่างเที่ยงคืนถึง 6 นาฬิกา (ตั้งแต่ปี 2011-2025) อยู่นานถึง 14 ปี  

ตัวเลขทางเศรษฐกิจเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุด โดยมูลค่าตลาดเกมของเกาหลีใต้ในประเทศพุ่งสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 469,000 ล้านบาท) ส่วนมูลค่าการส่งออกเกมนั้นคิดเป็นเกือบ 2 ใน 3 ของการส่งออกทางวัฒนธรรมทั้งหมด ซึ่งแซงหน้ากระแส K-Pop ที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างขาดลอย

นี่ทำให้ปัจจุบันเกาหลีใต้กลายเป็นตลาดเกมที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก รองแค่เพียงสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่นเท่านั้น โดยการเปลี่ยนแปลงนี้หยั่งรากลึกมาตั้งแต่ยุค 90 ที่รัฐบาลลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอย่างหนัก ขณะที่บริษัทใหญ่ๆ โดยเฉพาะค่ายโทรคมนาคมก็เป็นสปอนเซอร์หลักของทีม E-sport 

เบื้องหลังความสำเร็จที่เห็นบนเวทีโลก คือระบบนิเวศการฝึกซ้อมที่เข้มข้นไม่ต่างจากค่ายกีฬาอาชีพ โดยที่ Nongshim E-sports Academy วัยรุ่นที่เปี่ยมด้วยความฝันต่างก้มหน้าก้มตาฝึกซ้อมภายใต้การดูแลของโค้ชอย่างใกล้ชิด

ที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่คอมพิวเตอร์สเปกสูง แต่ยังมีหอพักสำหรับนักกีฬาและห้องอาหารที่ควบคุมโภชนาการโดยผู้เชี่ยวชาญ การจะก้าวเข้าสู่เส้นทางสายอาชีพนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีเพียง 1 ถึง 2 % ของผู้ที่เข้าในศูนย์ฝึกเท่านั้นที่จะได้เป็นนักแข่งมืออาชีพอย่างจริงจัง

ในเมื่อมีการแข่งขันที่สูงลิ่ว นักกีฬาจึงต้องฝึกซ้อมหนักกว่า 16 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อชิงชัยในลีกที่ยากที่สุดอย่าง LCK โดยมีรางวัลตอบแทนคือรายได้ที่สูงถึงหลักหลายล้านบาทต่อปีสำหรับผู้เล่นระดับท็อปผ่านเงินเดือนและสปอนเซอร์

อย่างไรก็ตาม เหรียญย่อมมีสองด้าน อาชีพเกมเมอร์ในเกาหลีใต้เปรียบเสมือนดอกไม้ที่บานเพียงชั่วครู่ เพราะอายุการทำงานสั้นมาก โดยอาชีพนี้มักจะยุติลงก่อนอายุ 30 ปี เนื่องจากปัจจัยด้านร่างกายที่เสื่อมถอยลงตามอายุ และภาระหน้าที่ในการเกณฑ์ทหารของชายเกาหลี

รัฐบาลเกาหลีใต้จึงต้องพยายามสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมการเติบโตและการปกป้องเยาวชน ผ่านการจัดตั้ง “ศูนย์เยียวยา” 7 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่มีพฤติกรรมหมกมุ่นจนเกินไป รวมถึงการออกสัญญามาตรฐานที่จำกัดชั่วโมงการฝึกซ้อมเพื่อสุขภาวะที่ดีของนักกีฬา

ความท้าทายเหล่านี้คือสิ่งที่คนรุ่นใหม่อย่าง โร ฮยอน-จุน นักศึกษาด้านวิศวกรรมที่พักการเรียนเพื่อมาล่าความฝันยินดีที่จะเผชิญ เพราะสำหรับเขา เกมไม่ใช่แค่การเอาชนะคนเดียว แต่คือการหลอมรวมจิตวิญญาณของทีมเพื่อมุ่งสู่ชัยชนะร่วมกัน

จากทั้งหมดจึงเป็นการสะท้อนว่า การที่เกาหลีใต้สามารถก้าวข้ามผ่านอคติทางสังคมและเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อการเล่นเกมให้กลายเป็นเสาหลักเศรษฐกิจของชาติได้นั้น ไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่เกิดจากการวางโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและการสนับสนุนอย่างเป็นระบบจากทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งประเทศที่อยากพัฒนา E-sport สามารถใช้เป็นต้นแบบ  

ส่วนความสำเร็จของเกาหลีใต้ก็ได้พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่า เมื่อแพสชันส่วนบุคคลได้รับการยอมรับและส่งเสริมอย่างถูกทิศทาง “เกม” ก็สามารถสร้างคุณค่าและศักดิ์ศรีให้กับมนุษย์ได้ไม่ต่างจากอาชีพทรงเกียรติอื่นๆ ในสังคม แม้เส้นทางอาชีพ การเก็บเกี่ยวความสำเร็จและทำเงินมหาศาลนั้นจะมีอยู่เพียงไม่กี่ปีก็ตาม / theguardian 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer