แม้เราได้เห็นปรากฏการณ์ชุดนักเรียนไทยดังไปไกลถึงจีนมานานหลายปี แต่กระแสนี้ก็ยังคงอยู่

จากที่ผ่านมา เสี่ยวจวี จวีจิ้งอี ได้โพสต์รูปตัวเองใส่ชุดนักเรียนไทย ปักชื่อ จวีจิ้งอี 991 พร้อมคำว่า “คิดถึง” ใน Weibo เสี่ยวจวี เมื่อเดือนที่ผ่านมา

และกระแสชุดนักเรียนไทยนี้เรายังได้เห็นสื่อต่าง ๆ ลงรูปนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มหนึ่งใส่ชุดนักเรียนไทย หลังจากเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

เพียงแต่ตัวอย่างเล็ก ๆ นี้ ทำให้เราเห็นว่าชุดนักเรียนไทยยังคงเป็นกระแส Soft Power ในจีนอยู่ถึงวันนี้

กระแสของชุดนักเรียนไทยที่ฮิตในหมู่คนจีนส่วนหนึ่งมาจากหนัง และซีรีส์ไทย อย่างสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก, เด็กใหม่ที่เข้าไปตีตลาดในประเทศจีนผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่าง ๆ เช่น เน็ตฟลิกซ์ ทำให้คนจีนเห็นถึงความน่ารักน่าใส่ของชุดนักเรียนไทย จนกลายเป็นกระแสอยากนำมาใส่กับเขาบ้าง

ซึ่งชุดนักเรียนไทยถือเป็นชุดที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียนปี 2482 ออกมาบังคับใช้ หลังจากตั้งโรงเรียนหลวงและโรงเรียนราษฎร์แห่งแรกของประเทศ

ก่อนที่จะพัฒนาเป็นชุดเครื่องแบบนักเรียนที่เราเห็นในปัจจุบัน

ตลาดชุดนักเรียนไทยมีมูลค่าต่อปีประมาณหมื่นล้านบาท เป็นตลาดที่มีทั้งแบรนด์หลักที่อยู่มาอย่างยาวนาน และแบรนด์รองต่าง ๆ ที่ตัดเย็บชุดนักเรียนขึ้นมาจำหน่ายเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในระดับราคาที่แตกต่างกันไป

ในตลาดนี้จะมีการแข่งขันกันเรื่องคุณภาพ ราคา ช่องทางจำหน่ายที่หาซื้อง่าย การเข้าไปจำหน่ายในโรงเรียนช่วงที่โรงเรียนเปิดให้ผู้ปกครองเข้าไปซื้อชุดนักเรียนก่อนเปิดเทอม และการเข้าไปเป็นแบรนด์หนึ่งเดียวในโรงเรียนต่าง ๆ

อย่างเช่น ท็อปสัน ที่เป็นแบรนด์เดียวที่จำหน่ายชุดนักเรียนของโรงเรียนราชินี จิตรลดา วัฒนาวิทยาลัย, ตราสมอที่ตั้งตัวแทนจำหน่ายชุดนักเรียนตามร้านค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศ

โดยแหล่งจำหน่ายชุดนักเรียนที่ยอดนิยมตลาดกาลยังคงเป็นย่านบางลำพูและพื้นที่ใกล้เคียง จากการเป็นศูนย์รวมจำหน่ายชุดนักเรียนมาอย่างยาวนาน และเป็นทำเลแจ้งเกิดของชุดนักเรียนแบรนด์ต่าง ๆ และบางแบรนด์ได้ล้มหายตายจากไปบ้าง

เรามาดูกันหน่อยว่า ในวันนี้แบรนด์ชุดนักเรียนเก่าแก่ที่ยังคงอยู่มีรายได้เท่าไร



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน