หม่าล่า กระแสเผ็ดจนชามาจากไหน ทำไมจึงเป็นที่นิยมของนักชิม

แน่นอนว่าหนึ่งในส่วนผสมที่ดีที่สุดในการทำอาหารคือพวกส่วนผสมของเครื่องเทศหรือเครื่องปรุงต่าง ๆ เพราะสิ่งนี้จะเป็นตัวช่วยเพิ่มความลึกและรสสัมผัสที่ละมุนให้กับอาหารจานโปรดของคุณ ซึ่งในใจของแต่ละคนคงมีรสชาติที่ชื่นชอบในใจ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ตอนนี้กำลังมาแรงสุด ๆ นั่นก็คือ หม่าล่า นั่นเอง

เรียกได้ว่าปัจจุบันหม่าล่าในไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะไปกินที่ไหน ที่นั่นจะต้องมีเมนูหม่าล่าสักร้านแน่นอน แล้วรู้หรือไม่ทำไมหม่าล่าถึงได้ฮอตฮิตจนเป็นกระแสฟีเวอร์ เรามาดูดีกว่าว่าหม่าล่าคืออะไร มาจากไหน และทำไมถึงได้รับความนิยมขนาดนี้

 

หม่าล่าอาหารรสเผ็ดที่ได้รับความชื่นชอบอย่างก้าวกระโดด

หม่าล่าเป็นคำเรียกของรสชาติที่ได้มาจากเครื่องเทศยอดนิยมชนิดหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอาหารเอเชีย ซึ่งเป็นเครื่องเทศที่ผสมผสานกันระหว่างพริกและพริกไทยเสฉวน ด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่จดจำได้ทันที และรสเผ็ดร้อนจนชาทำให้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ที่สำคัญเครื่องเทศนี้ใช้ในสูตรอาหารเสฉวนทุกประเภท ตั้งแต่หม้อไฟไปจนถึงผัด ต้ม ตุ๋น ซุป และยังสามารถใช้โรยบนเนื้อสัตว์ เต้าหู้ หรือมันฝรั่งสุก เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมได้อีกด้วย

แต่ที่ได้รับความนิยมที่สุดคือหม่าล่าหม้อไฟ นั่นเอง เนื่องจากประเทศจีนมีอากาศหนาวเย็น ทำให้ผู้คนนิยมกินหม่าล่าหม้อไฟ เพื่อเพิ่มการเผาผลาญและช่วยย่อยอาหาร รวมไปถึงการบำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย

ส่วนที่รสชาตินี้ถูกเรียกว่าหม่าล่า (mala) เพราะในภาษาจีน คำว่า má หมายถึงทำให้ชา และ là หมายถึง เผ็ด ซึ่งเป็นการเรียกตามรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องเทศชนิดนี้ที่พอกินไปจะให้ความรู้สึกเผ็ดร้อนจนชา

รู้จักกับ ฮวาเจียว เครื่องเทศที่ให้กำเนิดรสชาติตามแบบฉบับหม่าล่า

เมื่อผู้คนกินเมนูหม่าล่าต่าง ๆ จะได้รับรสชาติเผ็ดชา แต่รู้หรือไม่รสชาตินี้ได้มาจากเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า ฮวาเจียว พริกไทยเสฉวน ซึ่งเป็นเครื่องเทศที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศจีน โดยเฉพาะในอาหารเสฉวน

เครื่องเทศนี้ ฮวาเจียว เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 400 ปีก่อนในสมัยราชวงศ์หมิง ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยมีข้อสันนิษฐานกันว่า พ่อค้าแม่ค้าแถบท่าเรือนครฉงชิ่งเป็นกลุ่มที่เริ่มใช้ฮวาเจียว เพื่อถนอมอาหารและกลบกลิ่นคาวของเนื้อ ส่งผลให้เนื้อมีรสชาติดีและขายได้ในราคาสูงขึ้น

ต่อมาในช่วงสมัยจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง (ประมาณปี 1749) ฮวาเจียวได้เริ่มแพร่หลายและกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในมณฑลเสฉวน และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เครื่องเทศนี้จึงได้กลายเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารในเสฉวน จนกลายเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลกอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

ทำไมเมนูหม่าล่าถึงเป็นที่นิยม

ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของหม่าล่าทำให้เป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะวัฒนธรรมการกินของผู้คนแถบนี้ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารตะวันออกและอาหารตะวันตก เห็นได้จากร้านอาหารฟิวชั่นที่ได้รับความนิยมมากขึ้น

รวมไปถึงผู้คนแถบนี้นิยมใช้สมุนไพรที่มีกลิ่นเฉพาะตัวเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นขิง ข่า ตะไคร้ หรือใบมะกรูด ทำให้คุ้นชินกับอาหารทุกรสชาติ โดยเฉพาะอาหารที่รสจัดจ้าน ทำให้ผู้คนต่างชอบรสชาติของฮวาเจียวในเมนูหม่าล่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้ทั้งกลิ่นหอม และความรู้สึกเผ็ดซ่าชา ๆ นั่นเอง

นอกจากนี้ รสชาติของ หม่าล่า ยังคล้ายคลึงกับรสชาติของวาซาบิของญี่ปุ่นที่ทำให้รู้สึกแสบจมูกและเป็นที่นิยมเป็นเครื่องปรุงสำหรับซาซิมิและซูชิในอาหารญี่ปุ่น ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเปิดตัวของขนมขบเคี้ยวรสวาซาบิใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 18% ระหว่างปี 2016-2017 ตามข้อมูลของ Mintel Global New Products Database (GNPD ) Mala สิ่งนี้สามารถแสดงถึงความเป็นที่นิยมของรสชาติแบบนี้ได้นั่นเอง

ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมร้านอาหารหม่าล่าหม้อไฟเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนมาก ซึ่งมีการกล่าวกันว่าความคลั่งไคล้ในรสชาติของหม่าล่าเริ่มต้นที่ธุรกิจบริการอาหารของสิงคโปร์ โดยมีร้านอาหารหม่าล่าหม้อไฟผุดขึ้นทั่วประเทศ ตามมาด้วยเมนูอาหารต่าง ๆ อย่างพิซซ่าและข้าวมันไก่หม่าล่า

 

ที่มา:

https://blog.trustana.com/blog/health-benefits-of-spicy-food-mala-spice-specifically#:~:text=Why%20is%20mala%20so%20addictive,become%20addicted%20to%20this%20sensation.

Can mala sustain its current popularity across Southeast Asia?

https://www.a-star.edu.sg/sics/news-views/blog/blog/human-development/singapores-mala-obsession

https://shoppingcenter.centralpattana.co.th/branch/central-si-racha/blogs/blog-group/blog-item/central-content-center/hungry-guide/the-secret-behind-the-spices-mala

https://www.koreaherald.com/view.php?ud=20190905000873#:~:text=Mala%2C%20a%20fiery%2C%20oily%20sauce%20that%20originates%20from%20China’s%20southwestern,fried%20version%2C%20mala%20xiang%20guo.

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน