ฉัตรชัย ศิริไล ภารกิจ ธ.ก.ส. คือการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยให้ดีขึ้น
หลังจาก “ฉัตรชัย ศิริไล” เข้ารับตำแหน่ง ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คนที่ 14 เราได้เห็นนโยบายการดำเนินการต่าง ๆ มากมาย ที่พร้อมจะยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม
และวันนี้ Marketeer ได้รับเกียรติจากหัวเรือใหญ่ ธ.ก.ส. มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการขับเคลื่อนองค์กรแบบเจาะลึก กับภารกิจสำคัญก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ ๆ พร้อมสานต่อเจตนารมณ์การเป็นธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน ที่จะนำพาเกษตรกรไทยให้ดีขึ้นในทุกมิติ
“ธ.ก.ส.” มี Character ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
“ธ.ก.ส. ต่างจากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจอื่น ๆ ของรัฐ ที่นี่ มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่าง เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน”
คุณฉัตรชัยเปิดการสนทนาถึงรูปแบบการดำเนินการของ ธ.ก.ส. ที่แตกต่างไปจากธนาคารอื่น ๆ ซึ่งแม้ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลังจะจัดให้ ธ.ก.ส. อยู่ในกลุ่มสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (Specialized Financial Institutions: SFIs) เช่นเดียวกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน แต่รูปแบบการบริหารจัดการและระบบเชิงลึกข้างในล้วนต่างออกไป ซึ่งนี่นับเป็นความท้าทายอย่างมาก

“ในฐานะคนที่เติบโตมาจาก ธอส. ต้องบอกว่า ที่ ธ.ก.ส. แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ทั้งเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรและบริบทต่าง ๆ ซึ่งโจทย์สำคัญอย่างหนึ่งคือ การนำพาองค์กรและพนักงานทั้ง 23,000 คน ให้ดำเนินงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล รวมไปถึงการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในการที่จะยกระดับทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรายได้ คุณภาพชีวิต รวมถึงภาคการผลิต การดีไซน์และการขาย เพื่อทำให้มีรายได้ไม่ต่างจากการทำงานในเมือง”
โดยผู้จัดการ ธ.ก.ส. อธิบายเพิ่มเติมว่า การพัฒนาเพื่อพี่น้องเกษตรกรนั้นจะครอบคลุมทั้งการยกระดับในเรื่องของเทคโนโลยีและองค์ความรู้สมัยใหม่เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง ผ่านกลยุทธ์ที่มีการใช้เทคโนโลยีและฐานข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ควบคู่ไปกับการส่งเสริมวินัยทางการเงินอย่างเป็นระบบ พร้อมเติมองค์ความรู้จากสถาบันการศึกษาเครือข่าย ต่อยอดการพัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตร เพื่อยกระดับชีวิตเกษตรกรไทย
“ปัจจุบันเรากำลังมีปัญหาว่า ลูกหลานเกษตรกรยุคใหม่เริ่มที่จะออกจากภาคการเกษตรไปทำงานในโรงงานหรือในเมืองมากขึ้น ซึ่งในอนาคตอีก 10 ปี เกษตรกรรุ่นปัจจุบันจะสูงอายุจนถึงขั้นชราภาพ ภาคการผลิตจะได้รับผลกระทบและส่งผลในวงกว้างอย่างแน่นอน ดังนั้น ภารกิจของเราคือต้องสามารถยกระดับคุณภาพชีวิต ยกระดับรายได้ เพื่อทำให้ลูกหลานของเกษตรกรยังอยู่ในภาคการผลิตต่อไป เพราะนี่คือกลุ่มคนสำคัญในการผลิตอาหารที่ใช้หล่อเลี้ยงคนทั้งประเทศ พร้อมทั้งสร้างรายได้ให้กับประเทศอีกทางหนึ่ง”
ปรับ MINDSET สร้างเกษตรเกรดพรีเมียม
ตามยุทธศาสตร์การดำเนินงานขององค์กร ระยะ 5 ปี ปีบัญชี 2564-2568 (ทบทวนครั้งที่ 1) ปีบัญชี 2565 คือ มุ่งเน้นเชื่อมโยงกับเครือข่ายด้านการเกษตรตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยขับเคลื่อนซ่อม (Repair) การจัดการข้อมูลและคุณภาพข้อมูล (Big Data) และการใช้ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เพื่อสร้างนวัตกรรมทางการเงินและบริการใหม่ ๆ และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการทำงานในรูปแบบ Agile การบริหารจัดการคุณภาพหนี้ทั้งระบบและสร้าง Platform เชื่อมโยงธุรกิจภาคการเกษตร ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ รองรับการเติบโตใหม่ (New Business) ในกลุ่มที่มีศักยภาพ เช่น Young Smart Farmer, Smart Farmer, SMAEs เป็นต้น โดยอาศัยศักยภาพของดิจิทัล เทคโนโลยีภายใต้แนวคิด BCG รวมทั้งต่อยอด (Re-Business) พัฒนาการทำงานร่วมกับเครือข่ายด้านการเกษตรตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าเกษตรกร SMAEs Agri Tech และ Startup
คุณฉัตรชัยได้ปรับเปลี่ยนการดำเนินการของ ธ.ก.ส. ในหลายมิติ ครอบคลุมทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้ ธ.ก.ส. เป็น “Essence of Agriculture หรือแกนกลางการเกษตร” และก้าวสู่ยุคใหม่อย่างเป็นรูปธรรมตามยุทธศาสตร์ที่กล่าวไป โดยใช้จุดแข็งของ ธ.ก.ส. คือ “คนของเรา รักลูกค้า” เป็นกลจักรสำคัญในการขับเคลื่อน

“แกนหลักในการขับเคลื่อนองค์กรเราจะใช้จุดแข็งของคน ธ.ก.ส. นั่นคือ ‘เรารักลูกค้า’ เพราะฉะนั้นเราจึงเข้าถึงและเข้าใจลูกค้า ที่สำคัญลูกค้าเชื่อเรา ดังนั้น โจทย์แรกของเราก็คือ ทำอย่างไรที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย เอื้อต่อการที่เขาจะแข็งแรงได้จากการฟื้นตัวหลังโควิด-19 และเสริมสร้างความแข็งแกร่งเรื่องการตลาดให้กับเขา อาทิ การทำตลาดสมัยใหม่ หรือการคาดการณ์ดีไซน์ที่จะเป็นเทรนด์ใหม่ของผู้บริโภค รวมถึงที่สำคัญที่สุดคือ การดูแลอัตรากำลังการผลิตให้ได้ตาม Demand หรือความต้องการของตลาด เพราะปัญหาหนึ่งที่พบบ่อยคือ เราเปิดตลาดหรือทำการตลาดให้แล้ว แต่เกษตรกรไม่สามารถผลิตได้ตามปริมาณหรือตามเวลาที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งจุดนี้สำคัญมาก ๆ
ธ.ก.ส. ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทั้งในฝั่งของลูกค้าเอง รวมถึงฝั่งธนาคาร เป็น Win-Win Situation เพื่อช่วยในการติดต่อสื่อสารกับธนาคาร ยกระดับการผลิต รวมถึงการบริการจัดการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเข้าถึงระบบการเงินของธนาคาร ทั้งด้านเงินฝากหรือเงินกู้ รวมถึงการสื่อสารข้อมูลต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมการผลิตในภาคการเกษตร”

ในส่วนของการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรนั้น คุณฉัตรชัยกล่าวว่าจุดสำคัญคือการปรับตัวให้ทันกับทุกการเปลี่ยนแปลงที่พร้อมเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
“ต้องยอมรับว่าโลกเปลี่ยนไปเร็วมาก จุดสำคัญคือการปรับตัวให้เข้ากับห่วงโซ่การผลิตหรือห่วงโซ่อุตสาหกรรมทางด้านการเงิน ภายใต้มาตรฐานของความเป็นธนาคารในการกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่ง ธ.ก.ส. ต้องปรับตัวและเปิดรับในหลาย ๆ อย่างเพื่อก้าวสู่ยุคใหม่ ในขณะเดียวกันก็ทิ้งภารกิจในการช่วยเหลือหรือยกระดับภาคพื้นการเกษตรไม่ได้ ดังนั้น ก็ต้องรักษาสมดุลของทั้งสองอย่างให้ได้
กุญแจสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนในส่วนนี้คือ ‘คนในองค์กร’ และ ‘เทคโนโลยี’ การปรับ Mindset ของคนในองค์กร เพื่อให้เปิดรับ ปรับตัว และพัฒนาเรื่องของการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือการเติมเต็มทักษะองค์ความรู้ใหม่ ๆ จากภายนอก เพื่อยกระดับเรื่องของการทำงาน การสร้างผลิตภัณฑ์และบริการให้กับลูกค้าของเราอย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น เราต้องคุยกับคนของเราและปรับกระบวนการภายในก่อน เมื่อพร้อมแล้วถึงจะเริ่มมีตัว Show Case ต่าง ๆ เกิดขึ้นแล้วแพร่กระจายออกไปทั่วประเทศ ซึ่งเราจะเริ่มจากหลาย ๆ จุด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการดีไซน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกไป เพื่อที่จะทำให้เห็นเลยว่า มีการขยับหรือว่ายกระดับในเรื่องการพัฒนาคุณภาพดีไซน์ ช่องทางการจำหน่าย และการตลาดให้กับลูกค้าของเรา”

เกษตรกรสมัยใหม่ ต้องมีรายได้เท่าคนเมือง
Marketeer ยิงคำถามว่าอะไรคือสิ่งที่เกษตรกรต้องการจาก ธ.ก.ส. ซึ่ง คุณฉัตรชัยกล่าวว่า สามารถสรุปได้ 4 ประเด็นสำคัญ คือ 1) เงินทุนเพื่อภาคการเกษตร 2) องค์ความรู้ใหม่ ๆ 3) การพัฒนาคุณภาพและยกระดับผลิตภัณฑ์ 4) การพัฒนาด้านการตลาดและช่องทางการจำหน่าย
โดยทิศทางการขับเคลื่อนและส่งเสริมเกษตรกรของ ธ.ก.ส. เพื่อตอบโจทย์ความต้องการต่าง ๆ จะครอบคลุมในหลากหลายมิติ ประกอบด้วย
กลุ่มเกษตรกรต้องเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยต้นทุนที่ต่ำ พร้อมบริการทางการเงินอย่างครบวงจรที่รวดเร็ว ใช้เทคโนโลยี วิทยาการสมัยใหม่ นวัตกรรม และประโยชน์จากฐานข้อมูลที่ธนาคารมี นำมาวิเคราะห์และวางแผนสร้างผลิตภัณฑ์และบริการให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงความต้องการ ตลอดจนนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับเปลี่ยนกระบวนการให้บริการลูกค้าเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว
เช่นเดียวกับการวางแผนบริหารจัดการการผลิต การเพิ่มมูลค่าเพิ่ม และคาดการณ์ความต้องการสินค้าการเกษตร ให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคต่าง ๆ ในตลาด สามารถกำหนดปริมาณและราคาสินค้าได้อย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันสินค้าล้นตลาดและราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
พร้อมส่งเสริมความรู้ด้านเทคโนโลยีและการทำการเกษตรแบบใหม่ โดยอาศัยทักษะของกลุ่มคนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิต ออกแบบ แปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ และช่วยลดความเสี่ยงและผลกระทบจากความผันแปรของธรรมชาติ เพื่อให้รายได้ไม่กลายเป็นศูนย์เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
ตลอดจนเชื่อมต่อเกษตรกรแหล่งผลิตที่ขาดทักษะเข้ากับกลุ่มที่มีทักษะแต่ขาดทรัพยากรการผลิต เพื่อให้ได้มีโอกาสส่งเสริมซึ่งกันและกันในธุรกิจรูปแบบการแบ่งปันผลกำไร และใช้องค์ความรู้จากสถาบันการศึกษาเครือข่ายในการพัฒนามาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตร เพื่อพัฒนาและต่อยอดเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน
รวมถึงการพัฒนาด้านการตลาดและช่องทางการจำหน่าย ทั้งการทำการตลาดแบบ Digital และการกระจายสินค้าเกษตร ซึ่ง ธ.ก.ส. สามารถเป็นตัวกลางเชื่อมต่อ พร้อมทั้งเป็นนักขายให้กับภาคการผลิต เพื่อเปิดช่องทางใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือต่างประเทศได้อีกทางหนึ่ง

ลดทุน สร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิต
ปิดช่องการก่อหนี้นอกระบบ ให้การเป็นหนี้ไม่ใช่ปัญหาของเกษตรกร
นอกจากการดำเนินนโยบายด้านต่าง ๆ ตามเจตนารมณ์ในการเป็นธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน ทั้งพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมความรู้เกษตรกรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม การบริหารจัดการการผลิต การพัฒนาและต่อยอดเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการในตลาดแล้ว
สิ่งที่ ธ.ก.ส. ให้ความสำคัญอย่างมากคือ การบริหารจัดการคุณภาพหนี้เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยการ “นำเสนอเงินทุนต่ำ เพื่อลดต้นทุนการผลิต และสร้างรายได้ให้เกษตรกรเพิ่ม”
“เรามองเรื่องของนโยบายแก้หนี้เป็นวาระเร่งด่วน ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือแนวทางการแก้หนี้และปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งกลุ่มหนี้เสีย และกลุ่ม SM ซึ่งเป็นระลอกคลื่นที่จะไหลมากระทบ คาดว่าต้องใช้เวลาจึงจะเห็นผลในการแก้ไขคุณภาพหนี้ได้ระดับหนึ่ง พร้อมทั้งเตรียมมาตรการเพื่อเป็นแนวทางการลดหนี้เสียต่อไป โดยเบื้องต้นจะมีแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ เช่น มีน้อย จ่ายน้อย มีมาก จ่ายมาก เพื่อรักษาวินัยลูกหนี้ ขณะเดียวกันก็ต้องมีสิทธิประโยชน์สำหรับลูกหนี้ที่ชำระดีด้วย
สิ่งที่ต้องทำควบคู่กันคือ ‘การส่งเสริมวินัยทางการเงินอย่างเป็นระบบ’ อาทิ การบริหารจัดการหนี้ เพื่อแก้และป้องกันปัญหาหนี้เสีย ตลอดจนการเตรียมความพร้อมให้เกษตรกรเกษียณอายุอย่างมีคุณภาพ
อยากให้คนเข้าใจแนวทางการบริหารจัดการหนี้ของธนาคารมากยิ่งขึ้น คือเราพยายามจะนำเสนอสินเชื่อหรือเงินทุนดอกเบี้ยต่ำเพื่อลดต้นทุนในการผลิตของเกษตรกร พร้อมยกระดับภาคการผลิตครบวงจรดังที่กล่าวไป เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรเพิ่มขึ้น โดยที่เกษตรกรลำบากน้อยลง ซึ่งนี่จะเป็นตัวแปรสำคัญในการลดปัญหาหนี้นอกระบบ และทำให้การเป็นหนี้ไม่ได้เป็นปัญหาของเกษตรกรอีกต่อไป”

สุดท้ายนี้ ฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. คนที่ 14 ได้กล่าวว่า ธ.ก.ส. มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างคุณภาพชีวิตในชนบทให้ดีขึ้น (Better Life) สร้างชุมชนไทยให้เข้มแข็ง (Better Community) และสร้างความภาคภูมิใจในอาชีพการเกษตรให้มากยิ่งขึ้น (Better Pride) เพื่อยกระดับชีวิตเกษตรกรไทยสู่สังคมที่ภาคภูมิ พร้อมฝากข้อความผ่าน Marketeer ถึงพี่น้องเกษตรกรไทย ดังนี้
“ชาว ธ.ก.ส. ทั้ง 23,000 คน พร้อมดูแลพี่น้องเกษตรกรซึ่งเราถือว่าเป็นกลุ่มคนที่สำคัญในการผลิตอาหารหล่อเลี้ยงผู้คน และสร้างรายได้ให้กับประเทศ ดังนั้น เราจะใช้ Core Asset และ Core Value คือความสัมพันธ์และความรักที่เรามีต่อพี่น้องเกษตรกรเป็นตัวจักรหลักในการเดินหน้ายกระดับคุณภาพการผลิตและยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรลูกค้าของเรา
ต้องขอบคุณสำหรับรอยยิ้มและความร่วมมือของพี่น้องเกษตรกรที่มีให้เสมอมาในการลงพื้นที่ทุก ๆ ครั้ง ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ดีมาก ๆ แบบนี้ไม่มีที่ไหนมีเหมือนเรา การเป็นพาร์ตเนอร์กันระหว่างลูกค้ากับคน ธ.ก.ส. เป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ ทั้งในการส่งมอบเรื่องของเทคโนโลยี ช่องทางการจำหน่าย แนวคิดสมัยใหม่ รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ต้นทุนต่ำลงไปในภาคการเกษตร ซึ่งทั้งหมดล้วนต้องใช้เวลา อาจจะไม่ได้สำเร็จภายใน 6 เดือนหรือหนึ่งปี แต่สำคัญคือเราต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ การเริ่มและเพิ่มไปเรื่อย ๆ จะช่วยสร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง และร่วมกันเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อม ๆ กัน”
–
Website : Marketeeronline.co /
