OR เป้า Q4/2566 กลับมากำไร 100% รุกขยายพีทีที สเตชั่น เพิ่ม 100 แห่ง เน้นโมเดลสถานีชุมชน และขยายสาขาใหม่คาเฟ่อเมซอน เกือบ 400 สาขา ยกกัมพูชา ประเทศยุทธศาสตร์ตลาดต่างประเทศ

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัท ไตรมาส 2/2566 มีรายได้ขายและบริการจำนวน 187,708 ล้านบาท ลดลง 9,706 ล้านบาทจากไตรมาสก่อนหน้า มีกำไรสุทธิ จำนวน 2,757 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 218 ล้านบาท

ครึ่งแรก ปี 2566 บริษัทมีรายได้ขายและบริการ 385,122 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3,600 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 5,732 ล้านบาท ลดลง 4,681 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่กำไรขั้นต้นเฉลี่ยสูงกว่าปกติ จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ผันผวนจากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน

การสร้างความแข็งแรงของธุรกิจหลัก บริษัทยังผลักดันการสร้างยอดขาย และกำไรในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม Energy Solution อาทิ ยางมะตอย, น้ำมันอากาศยาน หรือผลิตภัณฑ์หล่อลื่น PTT Lubricants

เป้ารายได้ ไตรมาส 4/2566 กลับมาทำกำไร 100% หลังมีผลการดำเนินงานขาดทุนไตรมาส 4/2565

การดำเนินงานของบริษัท ครึ่งหลัง ปี 2566 สภาพเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเติบโตทั้งจากการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นต่อเนื่อง การบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัว ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว

บริษัทจึงคาดว่าการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจ Mobility จะปรับตัวดีขึ้นตามการเติบโตของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่วนกลุ่มธุรกิจ Lifestyle โดยเฉพาะ คาเฟ่ อเมซอน ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากแผนการขยายสาขา

ปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดสถานีบริการน้ำมันในประเทศไทยของบริษัท หรือ พีทีที สเตชั่น อยู่ที่ 42.7% หรือ 2,570 สถานี กลับมาเป็นเบอร์หนึ่งของตลาดอีกครั้ง ตั้งเป้าปีนี้ขยายเพิ่มอีก 100 สถานี จากขยายกว่า 80 สถานีใหม่ในปีที่แล้ว

โดยบริษัทจะใช้โมเดลสถานีชุมชน 1 สถานีต่อ 1 อำเภอ ซึ่งจะช่วยลดงบลงทุนได้ประมาณ 30% และสร้างการเข้าถึงชุมชนท้องถิ่นไปในตัว ทั้งจะยังมีส่วนร้านค้าปลีกอุปโภคบริโภค และคาเฟ่อเมซอนอยู่เช่นเดิม แม้จะมีพื้นที่ให้บริการที่ตีกรอบลงจากปกติ

หลังปัจจุบันมีอยู่เกือบ 90 อำเภอในประเทศไทย ที่บริษัทยังไม่สามารถเข้าไปเจาะตลาดพีทีที สเตชั่น อย่างตลาดศึกษาเตรียมเปิดโมเดลสถานีชุมชนปลายปีนี้ พบว่าผู้บริโภคยังต้องขับรถไกล 20-25 กม. เพื่อใช้บริการคาเฟ่อเมซอน บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนสถานีชุมชนให้ได้อย่างน้อย 20 สถานีจาก 100 สถานีเปิดใหม่ปีนี้    

ด้านคาเฟ่อเมซอน ปัจจุบันมีอยู่ 4,371 สาขา ขยายเปิดสาขาใหม่ ปีนี้ ให้ได้เกือบ 400 สาขา จากกว่า 300 สาขาเปิดใหม่ ปีที่แล้ว โดยใช้กลยุทธ์ลดการลงทุนเปิดสาขาลง 30-40% ด้านยอดขาย ไตรมาส 2/2566 ขยายตัว 2.1% QoQ และยอดขายต่อแก้ว ขยายตัว 2.3% QoQ เฉพาะยอดขาย Non-beverage ขยายตัว 7% QoQ 

นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและความงาม รับกระแสหลักเรื่องการเข้าสู่สังคมสูงวัย และประชากรในวันทำงานที่จะเข้ามาเป็นกลุ่มหลักของคนในประเทศไทย และอีกอุตสาหกรรมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายคือด้านการท่องเที่ยวและที่พัก

เตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชัน เอ็กซ์พลอร์ (xplORe) และมีแผนเปิดตัวสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป สโตร์ ตอบโจทย์ด้าน Mobility & Lifestyle และรูปแบบการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

กลุ่มธุรกิจ Global ที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจของหลาย ๆ ประเทศในภูมิภาคนี้ หลังจากวิกฤตโรคระบาด ช่วยให้ปริมาณขายน้ำมันและคาเฟ่อเมซอน เติบโตขึ้นในทุกประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทได้เริ่มนำแบรนด์ไทยที่มีศักยภาพไปทดลองในตลาดต่างประเทศแล้ว เช่น การนำแบรนด์พันธมิตร อ๊อตเทริ วอชแอนด์ดราย ไปเปิดสาขาแรกใน พีทีที สเตชั่น สาขา Chbar Ampov, พนมเปญ, กัมพูชา

โดย กัมพูชา ซึ่งบริษัทมีเครือข่ายพีทีที สเตชั่น อยู่ที่ 170 แห่ง จะเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ของการเสริมความแข็งแกร่งการดำเนินธุรกิจที่สำคัญในต่างประเทศ บริษัทเตรียมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานบนที่ดินเช่า สร้างคลังน้ำมัน – LPG มูลค่าลงทุน 100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.5 พันล้านบาท)



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online