ในวันนี้ใคร ๆ คงรู้จักออปโป้ในฐานะแบรนด์สมาร์ตโฟนที่มาพร้อมเทคโนโลยีหลากหลายที่บรรจุไว้บนสมาร์ตโฟนรุ่นต่าง ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่สวยในทุก ๆ แสง
แต่พูดถึงแบรนด์ออปโป้ เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา ออปโป้เป็นเพียงแบรนด์เครื่องเสียงและระบบเครื่องเสียงภายในบ้านที่ก่อตั้งในปี 2001
ก่อนที่จะเปลี่ยนตัวเองสู่ธุรกิจสมาร์ตโฟนในปี 2012 ด้วยจุดขายสมาร์ตโฟนที่ถ่ายเซลฟี่สวย สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งเข้ามาตีตลาดสมาร์ตโฟนในประเทศจีน และขยายตัวเองไปสู่ตลาดโลก รวมถึงไทย
พร้อมกับพัฒนาเทคโนโลยีสู่ระดับพรีเมียมเพื่อพาตัวเองเติบโตในเส้นทางสมาร์ตโฟน และดีไวซ์ระดับโลก
ปัจจุบันออปโป้สามารถครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับสี่ในตลาดสมาร์ตโฟนโลก
และเป็นอันดับสองในตลาดสมาร์ตโฟนไทย
อ้างอิงจาก Canalys ไตรมาส 3/2566 ออปโป้มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับสี่ในตลาดสมาร์ตโฟนโลกด้วยส่วนแบ่งตลาด 9% รองจากซัมซุง แอปเปิ้ล และเสียวหมี่ ตามลำดับ
ส่วนประเทศไทยอ้างอิงข้อมูลที่ IDC เปิดเผยในไตรมาส 1/2566 ออปโป้เป็นเบอร์สองรองจากซัมซุง ที่ส่วนแบ่งตลาดห่างกันไม่มากนัก

กว่าที่ออปโป้จะก้าวมาถึงจุดนี้ได้นอกเหนือจากการทำตลาดเข้าถึงผู้บริโภคแล้ว เทคโนโลยีในสมาร์ตโฟนและสมาร์ตดีไวซ์มีส่วนสำคัญอันดับหนึ่งที่เข้าไปตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคในหลากหลายมิติที่นอกเหนือจากการสื่อสาร
ออปโป้ตั้ง Head Quarters และแล็บต่าง ๆ เพื่อทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองที่เซินเจิ้น เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น Silicon Valley แห่งประเทศจีน ที่เป็นศูนย์กลางพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากเทคคอมปานีจำนวนมาก
พร้อมกับเชื้อเชิญ Marketeer เป็นหนึ่งในคณะผู้สื่อข่าวเข้าเยี่ยมชม Tech Insider ผ่านแล็บวิจัยและพัฒนาในด้านต่าง ๆ กว่าจะมาเป็นเทคโนโลยีที่ให้บริการกับผู้บริโภคบนสมาร์ตโฟนและสมาร์ตดีไวซ์ที่ใช้งานในปัจจุบันและอนาคต
และ Marketeer ขอพาชม Tech Insider ผ่าน 3 Lab ของออปโป้ที่มองว่าเป็นแล็บที่แบรนด์ออปโป้เข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในทุก ๆ วันมากที่สุด
Tech Insider-Intelligent Imaging Lab
เมื่อพูดถึงภาพถ่ายผ่านสมาร์ตโฟนออปโป้ถือเป็นจุดเด่นที่ใคร ๆ พูดถึงทั้งการถ่ายภาพบุคคล และอื่น ๆ ออกมาสวยงามในทุกสภาพแสง

โดยเฉพาะออปโป้รุ่น Find X6 series OPPO Find X series, Find N series และ Reno series สมาร์ตโฟนที่โดดเด่นเรื่องภาพถ่ายกว่าสมาร์ตโฟนในระดับเดียวกัน
ซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพ บรรจุอยู่ในสมาร์ตโฟนออปโป้ให้ผู้บริโภคสร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายของตัวเองตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ได้ผ่านการทดสอบการถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงการจัดตั้ง Intelligent Imaging Lab แล็บที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการถ่ายภาพของออปโป้ขึ้นมาในปี 2021 เพื่อจำลองฉากที่อยู่ในสภาพแวดล้อมแสงที่สมจริง 16 ฉาก ทั้งการถ่ายย้อนแสง ถ่ายในคาราโอเกะ บาร์ที่มีสภาพแสงที่สลับเปลี่ยนไปมา ที่แสงน้อย สถานที่แสงสีเหลือง แสงธรรมชาติ สถานที่ที่มีความมืดและอื่น ๆ

พร้อมกับนำหุ่นยนต์ที่ใช้แขนกลติดสมาร์ตโฟนออปโป้ และหุ่นยนต์ที่มีติดหุ่นโชว์ส่วนหัว ใช้แทนคนเพื่อเดินถ่ายภาพอัตโนมัติในห้องฉากต่าง ๆ ทั้งการถ่ายภาพมุมกว้าง ภาพสิ่งของ ภาพมาโคร และภาพบุคคลที่อยู่ในสภาพแสงที่แตกต่างกันไปอย่างต่อเนื่อง 150 รอบต่อวัน ผ่านหุ่นยนต์ที่มีอยู่ทั้งหมด 4 ตัว เป็นหุ่นยนต์แขนกล 2 ตัว และหุ่นยนต์ติดหัวหุ่นโชว์ 2 ตัว
และภาพที่ถ่ายในสภาพแสงต่าง ๆ ทั้งหมด จะนำมาวิเคราะห์เพื่อหาข้อผิดพลาดในการถ่ายภาพในแสงต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับปรุงให้ภาพที่ถ่ายจากกล้องสมาร์ตโฟนออปโป้สามารถใช้งานได้ทุกสภาพแสงได้อย่างแท้จริงบนภาพถ่ายที่ปรับแสงให้อย่างอัตโนมัติ
ในอดีตก่อนที่ออปโป้จะนำหุ่นยนต์มาใช้เพื่อทดสอบการถ่ายภาพได้ใช้คนเดินเข้าไปถ่ายภาพในสภาวะแสงต่าง ๆ ทีละคนวันละ 75,000 ภาพ เพื่อหาข้อผิดพลาดในภาพถ่าย
ซึ่งการนำหุ่นยนต์มาใช้แทนคนเดินถ่ายภาพ ทำให้ออปโป้สามารถประหยัดเวลาในการถ่ายภาพ 75,000 ภาพจากเดิมถึง 5 เท่า จากการทำงานของหุ่นยนต์ที่ถ่ายภาพในปริมาณที่เท่ากันใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น
Tech Insider-NFC Lab
จากเทรนด์ที่ผู้บริโภคใช้สมาร์ตโฟนแทนการ์ดที่ติดเทคโนโลยี NFC (Short-Range Wireless Technology) การส่งข้อมูลระยะใกล้ไม่เกิน 4 ซม. เพื่อใช้ในการชำระเงิน เปิดประตูบ้าน และอื่น ๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ออปโป้จึงให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี NFC ที่บรรจุอยู่ในสมาร์ตโฟน เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคในการพกสมาร์ตโฟนเพียงเครื่องเดียวแทนการ์ดต่าง ๆ จำนวนมากที่ใช้งานตามข้อจำกัดและหน้าที่ของตัวเองเท่านั้น
และได้ตั้ง NFC Lab ขึ้นมาในปี 2020 เพื่อนำแขนกลมาทดสอบการใช้งาน NFC ในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านสมาร์ตโฟนออปโป้ 1 รุ่นมากกว่า 20,000 ครั้ง เช่น ใช้เพื่อชำระเงิน ใช้เปิดประตูบ้าน และอื่น ๆ กับดีไวซ์รูปแบบต่าง ๆ ที่มาจากผู้ผลิตดีไวซ์ที่เป็นเครื่องรับ NFC ทั่วโลกเพื่อหาข้อผิดพลาดและแก้ไขให้สมาร์ตโฟนออปโป้สามารถใช้งานกับเครื่องรับ NFC ทั่วโลกได้ทุกเครื่อง
Tech Insider-Health Lab
จากกระแส Smart Watch ที่สามารถให้ผู้บริโภคเข้าถึงด้านสุขภาพของตัวเอง เป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสนใจ และเป็นสิ่งที่ออปโป้สนใจเช่นกัน

ในปี 2019 ออปโป้เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจด้านสุขภาพ ด้วยการเปิด OPPO Watch สมาร์ตวอตช์เครื่องแรกของออปโป้ เพื่อวางตัวเองเป็นโซลูชันสุขภาพเชิงรุกให้กับผู้บริโภคที่ใช้งาน OPPO Watch ให้สามารถตรวจจับความผิดพลาดของร่างกายในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเต้นของหัวใจ การนอนหลับผ่านสมาร์ตวอยซ์ได้

และได้เปิด Health Lab ขึ้นมาในปี 2021 เพื่อทำการวิจัย เก็บดาต้าเบสด้านฟิตเนส คลินิก และการนอนหลับ จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนจริง ๆ นำมาประมวลผลเป็นค่าเฉลี่ยของบุคคลที่มีเพศ ช่วงอายุและน้ำหนักแตกต่างกันไป
เช่น ในวันที่ Marketeer เข้าเยี่ยมชม Health Lab อยู่ในช่วงที่ออปโป้เก็บดาต้าเบสจากนักวิ่ง 2 รูปแบบ เพื่อนำข้อมูล เช่น การวิ่งในความเร็วต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กับอัตราการเต้นของหัวใจ ออกซิเจนในเลือด และการใช้กล้องตรวจจับท่าทางการวิ่ง เป็นต้น


นอกจาก 3 Lab ที่ได้กล่าวมา ออปโป้ยังได้เปิดแล็บอื่น ๆ ให้เยี่ยมชม XR Lab แล็บที่ออปโป้ตั้งขึ้นมาในปี 2019 เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AR และ VR ในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะ
และหลังจากที่ออปโป้เปิด XR Lab ได้พัฒนา OPPO AR Glass ออกสู่ตลาดในปี 2020, OPPO AR Glass ในปี 2021, OPPO Air Glass รุ่นที่สอง และรุ่นแรก OPPO MR Glass ในปี 2023


Communication Lab ที่ร่วมกับ Qualcomm และ Keysight Technologies ในการตรวจจับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนออปโป้ กับเครือข่ายมือถือทั่วโลก เพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อเครือข่ายที่อาจจะเกิดจากสมาร์ตโฟนเพื่อแก้ไขได้ทันท่วงที เพื่อให้การใช้งานได้ไหลลื่นและมีประสิทธิภาพที่สุด
–
