แอมเวย์ มุ่งเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ รับแพลนท์เบสและวีแกนโต

แอมเวย์ ส่งไลน์โปรดักต์ใหม่กลุ่มเพอร์เซอนัลแคร์ รุกแพลนท์เบสและวีแกนในไทยโต มุ่งเจาะคนรุ่นใหม่ กำลังซื้อสำคัญ เร่งสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์มให้แข็งแกร่ง ปรับตัวตลาดขายตรงไม่เหมือนเดิม เป้ารายได้ปี 2023 ทรงตัว 1.8 หมื่นล้านบาท   

 

รูป 1

 

นายทศพร นิษฐานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 36 ปีที่บริษัทฯ เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพให้คนไทย วันนี้บริษัทฯ มองเห็นเทรนด์ของผู้บริโภคในหมวดผลิตภัณฑ์เพอร์เซอนัลแคร์และความงาม ที่มีแนวโน้มความสนใจและความต้องการสินค้าที่มีความพิถีพิถัน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ  

 

สอดรับตลาดสินค้าวีแกนและแพลนท์เบส คาดการณ์โดย Euromonitor และ Allied Market Research ที่เปิดเผยว่าตลาดฯ กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก คาดว่าปี 2024 ตลาด Plant-based Food ในประเทศไทย จะมีมูลค่าถึง 45,000 ล้านบาท อัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 10%

 

การที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสนใจกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพในวงกว้างนั้น เป็นดัชนีชี้วัดให้เห็นว่ามีโอกาสที่ผู้บริโภคจะสนใจและขยายความต้องการไปยังสินค้ากลุ่มอื่น ๆ เช่นกัน

 

“เจนฯ มิลเลนเนียล และเจนฯ ซี ซึ่งเป็นผู้บริโภคหลัก ๆ ในตลาดข้างต้น ส่วนของบริษัทฯ มีฐานอยู่ที่ 45% ตั้งเป้าขยายให้ได้มากกว่า 50% ผ่านการดำเนินงานอย่างการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “จีแอนด์เอช กู๊ดเนส แอนด์ เฮลท์” ซึ่งเป็นการเอาแบรนด์เข้าไปทำความรู้จักกับกลุ่มดังกล่าวมากขึ้นหลังจากนี้”

 

วันที่ 24-26 พ.ย. 2023 ที่ผ่านมา บริษัทฯ จัดกิจกรรมสร้างการรับรู้กลุ่มเป้าหมาย ณ ลานกิจกรรมทางเชื่อม BTS ชั้น 3 สยามสแควร์วัน นำ จีแอนด์เอช กู๊ดเนส แอนด์ เฮลท์ (g&h Goodness & Health) ผลิตภัณฑ์สุขภาพใหม่ในกลุ่มแพลนท์เบสและวีแกน จีแอนด์เอช (g&h) ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวกาย สูตรวีแกน 

 

ยกระดับสินค้าด้วยการใช้ส่วนผสมพืชธรรมชาติจากฟาร์มออร์แกนิคของนิวทริไลท์ เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ถึงที่มาของส่วนผสมที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมด้วยขวดบรรจุภัณฑ์ใช้ส่วนผสมจากวัสดุรีไซเคิล 30%

 

รูป 2

 

ตลอดจนผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดียวกันอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น นิวทริไลท์ (Nutrilite) กลิสเทอร์ (glister) และ อาร์ทิสทรี (Artistry) รวมกว่า 60 รายการมานำเสนอในงาน และจัดกิจกรรมการตลาดผ่าน KOLs 

 

บริษัทฯ คาดว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ข้างต้นจะมีส่วนทำให้ยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพอร์เซอนัลแคร์อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท เติบโต 5% ในปี 2023 คิดเป็นสัดส่วนยอดขาย 8% ของทั้งกลุ่มบริษัทฯ 

 

โดยสัดส่วนยอดขายของ แอมเวย์ แบ่งเป็น กลุ่มอาหารเสริม 70%, กลุ่มเครื่องสำอาง และเพอร์เซอนัลแคร์ 15%, กลุ่มเครื่องกรองน้ำ เครื่องกรองอากาศ 12% และอื่น ๆ

คาดการณ์รายได้ปี 2023 อยู่ที่ 18,000 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่ผ่านมา และเติบโตในหลักซิงเกิลดิจิต ปี 2024 จากสัญญาณบวกต่าง ๆ ที่บริษัทฯ ประเมินไว้ และตั้งงบการตลาด 200 ล้านบาทต่อปี

 

ทศพร เสริมว่า ธรรมชาติของธุรกิจขายตรง คือ เราต้องเจอหน้ากัน การเกิดขึ้นของวิกฤตโรคระบาดจึงทำให้บริษัทฯ ยังไม่สามารถกลับมามีรายได้เติบโตแบบช่วงก่อนเกิดวิกฤตฯ (ปี 2019)

 

บริษัทฯ กำลังปรับตัวด้วยการสร้างความแข็งแรงของดิจิทัลแพลตฟอร์ม อาทิ อบรมทักษะด้านโซเชียลคอมเมิร์ซให้กับนักธุรกิจแอมเวย์

 

อนึ่ง เว็บไซต์ แอปฯ ไลน์ออฟฟิเชียลของบริษัทฯ ตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบันมาร์เก็ตแชร์ยอดขายจากทุกช่องทาง 53% เติบโตกว่าเท่าตัวจาก 2 ปีที่แล้ว 

 

และมีใบสมัครนักธุรกิจ และสมาชิกมาจากช่องทางออนไลน์ 70% ด้านแอคทีฟยูสเซอร์ของสมาชิกอยู่ที่ 7.2 แสนราย นักธุรกิจในระบบ 3.3 แสนราย  

 

แผนระยะยาว บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขาย 30,000 ล้านบาท ในปี 2029 ซึ่งจะเป็นปีครบรอบ 70 ปี การก่อตั้งกิจการแอมเวย์ (Amway) ในสหรัฐอเมริการตอนปี 1959    

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer