ตลาดเครื่องดื่มร้อนนอกบ้าน (Out of Home) ของไทย 3 แสน ลบ. ดื่มกาแฟเติบโต เกิดกิจวัตรประจำวันที่ปล่อยคาร์บอนสูง บ้านปู เน็กซ์, บอนกาแฟ, สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ จึงร่วมต่อยอดแคมเปญชวนผู้บริโภคลดการปล่อย CO2 ผ่านกาแฟแก้วโปรด ณ ป๊อปอัปคาเฟ่ จามจุรีสแควร์
| Hot drinks OOH 3 แสนล้าน
ชา กาแฟ โกโก้ ดื่มอะไรดี |
|
| ตลาดเครื่องดื่มร้อนนอกบ้านของไทย ปี 2024 | มูลค่า 300,000 ล้านบาท
มาร์เก็ตแชร์ ชา 60% กาแฟ 30% โกโก้ 10% |
| เฉพาะกาแฟ | 90,000 ล้านบาท |
| ผู้บริโภคไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย | 300 แก้วต่อปีต่อคน (มากสุด อันดับ 24 โลก)
เติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี |
| ที่มา: Statista, International Coffee Organization/พ.ค. 2024 | |
ข้อมูลของ ‘Statista’ พบว่า ‘ชา’ ยังเป็นเซกเมนต์ที่ครองสัดส่วน ‘ตลาดเครื่องดื่มร้อนนอกบ้านของไทย (Hot drinks Out of Home – Thailand)’ มากสุด
อ้างอิงจาก ‘Coffee Affection’ แพลตฟอร์มคอมมูนิตี้ด้านกาแฟ เผยว่า ‘ชา’ นับเป็นเครื่องดื่มสามัญสำหรับผู้บริโภคกลุ่มผู้ใหญ่ เวลาออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ นอกบ้าน เพราะช่วยให้ตื่นตัว ปลอดโปร่ง ทำให้ท้องไม่ว่าง ทั้งคุ้นเคยกับรสชาติ
แต่ความนิยมในการบริโภค ‘กาแฟ’ ที่เติบโตต่อเนื่องจากกำลังซื้อของกลุ่มคนรุ่นใหม่ คนวัยทำงาน และเทรนด์ไลฟ์สไตล์ในร้านคาเฟ่ ก็ทำให้มาร์เก็ตแชร์มูลค่าตลาดกาแฟ ขยับช่วงเข้ามาเรื่อย ๆ เช่นกัน
คุณสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด บริษัทลูกของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กิจวัตรประจำวันของผู้บริโภคที่ต้องพึ่งพาธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ปล่อยคาร์บอนสูง โดยเฉพาะธุรกิจกาแฟ
ทำให้ปี 2023 ที่ผ่านมา บริษัทได้สร้างสรรค์แคมเปญ ‘Infinite Cafe Powered by Banpu NEXT’ ป๊อปอัปคาเฟ่ ไซซ์คีออส ‘Infinite model’ ซึ่งบริษัทรับติดตั้งโซลูชันพลังงานสะอาดแบบครบวงจร ด้วยระบบโซลาร์ และแบตเตอรี่ที่ใช้ผลิตและกักเก็บไฟฟ้าภายในร้านไว้ใช้ตลอดทั้งวัน
ระบบดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ตรวจสอบข้อมูลการใช้พลังงานในคาเฟ่แบบเรียลไทม์ ทั้งยอดการผลิตไฟฟ้าและการกักเก็บพลังงาน ยอดลดการปล่อยคาร์บอนแบบรายวัน และยอดรวมจากการใช้พลังงานสะอาดและการจัดการขยะ
โดยแสดงผลผ่านจอแดชบอร์ดที่คาเฟ่ และ e-Receipt แสดงยอดลดการปล่อยคาร์บอนจากเครื่องดื่มที่ลูกค้าซื้อ ‘Infinite model’ จึงไม่เพียงตอบโจทย์ธุรกิจร้านกาแฟ
ทั้งในด้านการใช้พลังงาน ลดค่าใช้จ่าย และลดการปล่อยคาร์บอนเท่านั้น
แต่ยังสามารถเชื่อมโยงให้ผู้คนเข้าถึงพลังงานสะอาดได้ และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนสังคมไร้คาร์บอนในประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
บริษัทจึงมีแผนที่จะนำ ‘Infinite model’ ไปพัฒนาเป็นโซลูชันแบบครบวงจรที่สามารถใช้ได้กับทุกธุรกิจอื่น ๆ เช่น ร้านอาหาร, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, คอมมูนิตี้มอลล์
คุณอุษาพรรณ อินทีวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือกับ ‘บ้านปู เน็กซ์’ บริษัทได้นำ ‘เครซ คาเฟ่ (Craze cafe)’ แบรนด์กาแฟภายใต้การบริหารงานของบริษัทที่ดำเนินงานอยู่ในรูปแบบแฟรนไชส์
โดย ‘Infinite Cafe Powered by Banpu NEXT’ บริษัทมาดูแลในขั้นตอนจัดหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทั้งเมล็ดกาแฟพันธุ์ดีจากเกษตรกรไทย นมโอ๊ตเพื่อสุขภาพ เพื่อสร้างสรรค์กาแฟรสชาติดี ตลอดจนบริหารจัดการภายในร้าน และคิดเมนูเครื่องดื่มสูตรพิเศษ
ซึ่ง บ้านปู เน็กซ์ ให้คำปรึกษาเรื่องการคำนวณปริมาณการลดการปล่อยคาร์บอนในทุกเมนู ทำให้เครื่องดื่มทุกแก้วที่ป๊อปอัปคาเฟ่แห่งนี้ ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ อย่างเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ ‘Thai PB’ สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้สูงสุดประมาณ 850 กรัม
นอกจากนั้น บริษัท และ บ้านปู เน็กซ์ ยังมีการใช้แก้วกาแฟทำจากวัสดุที่ย่อยสลายและรีไซเคิลได้ การกำจัดขยะและของเสียอย่างเป็นระบบ
ป๊อปอัปคาเฟ่ ‘Infinite Cafe Powered by Banpu NEXT’ แห่งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา ณ สวนเบญจกิติ กรุงเทพฯ ประสบความสำเร็จในการช่วยลดการปล่อย CO2 ได้ประมาณ 5,000 กิโลกรัม ภายในเวลา 2 เดือน
วันที่ 30 พ.ค. 2024 ที่ผ่านมา บริษัท และ บ้านปู เน็กซ์ ได้ร่วมกันเปิดตัวป๊อปอัปคาเฟ่แห่งที่ 2 อย่างเป็นทางการ ณ ลานเอาต์ดอร์ ชั้น 1 จามจุรีสแควร์ (MRT สามย่าน ทางออก 2) ระยะเวลาแคมเปญถึง 31 ม.ค. 2025 เปิดทุกวัน เวลา 07.00 – 15.00 น.
โดยได้รับความร่วมมือจาก ‘สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ’ ผู้บริหารพื้นที่จามจุรีสแควร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการสามย่านสมาร์ทซิตี้ ที่ร่วมมือกับ บ้านปู เน็กซ์มาตั้งแต่การติดตั้งโซลูชันพลังงานสะอาดในโครงการฯ
ไม่ว่าจะเป็นโซลาร์รูฟทอปที่ตลาดและอาคารในบริเวณสามย่าน และระบบ Chilled water ที่อาคารจามจุรีสแควร์ หรือการบริการรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า MuvMi (มูฟมี) ในพื้นที่โซนจุฬาฯ
–




